การค้าแบบออนไลน์ขยายตัวได้ดีในอินเดีย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 19, 2012 15:17 —กรมส่งเสริมการส่งออก

การค้าแบบออนไลน์ขยายตัวได้ดีในอินเดีย

การค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ ( E-retailing) ในประเทศอินเดียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเข้าถึงข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ตลอดจนการขนส่งสินค้าที่ถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วและปลอดภัย นอกจากนี้ เนื่องจากปัญหาของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเดินทางในปัจจุบัน ประกอบกับการภาระหน้าที่ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีเวลาน้อยลง การเลือกซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากการช่วยประหยัดเวลาจากการเดินทางไปยังร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าเฉพาะแบรนด์นั้นๆ (Single Brand)

จากการสำรวจโดยสมาคมเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ประเทศอินเดีย ( Internet and Mob ile -A ssociation of India) ผ่านเว็บไซต์ผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ (E-retailing) 15 ราย พบว่าพื้นที่ของเว็บไซต์ทีให้บริการการค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ (E-retailing) มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนเมษายน ปี 2555 มีจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์ 5,000,000 ราย เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 100 เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกในเดือนเมษายน ปี 2554 โดยบริษัทผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์รายใหญ่ Fashion & You มีสมาชิก 3,000,000 คน มีการส่งสินค้าให้ลูกค้าประมาณ 10,000 ชิ้นต่อวันและรับสินค้าใหม่วันละประมาณ 2,000 รายการ ในขณะที่เว็บไซต์ของบริษัท Zovi ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ประเภทของแต่งบ้านดีไซน์ มีสถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์ 70,000-100,000 คนต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจการค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ทีกำลังขยายตัวนี้ ยังคงต้องเผชิญการแข่งขันที่สูงกับบริษัทผู้ค้าปลีกทั่วไป ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ มีการพัฒนากลยุทธ์ต่างๆ เพื่อการแข่งขัน ซึงนอกจากจะช่วยให้ธุรกิจของผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์เหล่านีอยู่ได้แล้ว ยังเป็นตัวอย่างที่สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในธุรกิจการค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์สำหรับสินค้าอื่นๆ อีกด้วย

การแก้ไขปัญหาจากสินค้าที่ไม่สามารถจับต้องและวัดขนาดตามผู้ซื้อได้

ผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ (E-retailing) ต้องเผชิญกับปัญหาในเรืองข้อมูลของสินค้า เนื่องจากสินค้าทีจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ ไม่สามารถจับต้องหรือทดลองสวมใส่ได้ จึงทำให้เกิดปัญหาเรืองการวัดขนาดตัวของลูกค้าและความเหมาะสมของเครืองแต่งกายสำหรับลูกค้าที่ต่างกันไป ผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์จึงต้องพัฒนาวิธีการนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าด้วยวิธีการใหม่ๆ เช่น

  • เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบคุณภาพของสินค้าได้โดยละเอียด บริษัท Fasionara และ บริษัท Rock.In ใช้เทคโนโลยีที่สามารถขยายภาพของสินค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบชนิดของด้าย การเย็บ และรายละเอียดอื่นๆของสินค้าได้
  • สำหรับปัญหาเรื่องการจับต้องหรือทดลองสินค้า บริษัท Fasionara แก้ปัญหาโดยการพัฒนาวิดีโอสำหรับชมสินค้าประเภทต่างๆโดยมีนางแบบเป็นผู้สวมใส่เครืองแต่งกายที่ลูกค้าสนใจเพือให้ลูกค้าเห็นภาพสินค้าเมือสวมใส่
  • การใช้ Online Stylists หรือโปรแกรมที่ให้ข้อมูลแนะนำลูกค้าสำหรับสินค้าแต่ละรายการตามขนาดเสือผ้าของลูกค้า
  • บริษัทผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ (E-retailing) สามารถให้ความสะดวกในการค้นหาตรวจสอบสินค้าได้มากกว่าร้านค้าปลีกทัวไป ด้วยการสร้างรายการสินค้าแบบออนไลน์ (Online Catalogue) ทำให้บริษัทสามารถเปลียนแปลงสินค้าได้ในทุกๆวัน ขณะเดียวกันก็สามารถแสดงรายการสินค้าใหม่ๆได้โดยง่าย โดยลูกค้าสามารถทำการค้นหาผ่านระบบค้นหาตามหมวดหมู่ สี และลักษณะเฉพาะต่างๆ ของสินค้า
การคืนและเปลี่ยนแปลงสินค้า

บริษัทผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิคส์จะมีนโยบายรับคืนสินค้าไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เช่น บริษัท Fasio nara มีนโยบายรับคืนสินค้าที่ได้ทำการส่งและชำระค่าใช้จ่ายมาแล้วไม่เกิน 30 วัน ผู้ซื้อสินค้าสามารถแจ้งส่งคืนหรือเปลียนสินค้าได้โดยการส่งข้อความ โดยการพิมพ์ตัวอักษร R ให้กับบริษัท จากนันบริษัทจะติดต่อกลับเพื่อรับเปลียนหรือส่งสินค้าคืนโดยไม่มีเงื่อนไข นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ โดยเน้นบรรจุสินค้าด้วยบรรจุภัณฑ์ทีสวยงามและมีคุณภาพ การจัดส่งสินค้า

ปัญหาที่สำคัญที่สุดของผู้ประกอบธุรกิจผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ คือ ปัญหาด้านการขนส่งทีขาดคุณภาพในอินเดีย โดยเฉพาะในบริเวณที่ห่างไกล อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ผู้สังซื้อสินค้าธุรกิจค้าปลีกอิเลคทรอนิคส์มักจะอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าถึง ซึ่งมักเป็นพื้นที่ที่มีการขนส่งเข้าถึงได้ง่ายเช่นกัน บริษัทส่วนใหญ่ในอินเดียที่ทำธุรกิจค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์จะลงทุนกับการคัดเลือกบริษัทขนส่งทีมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับชนิดของสินค้าที่จัดส่ง โดยยอมจ่ายเพิ่มให้กับบริษัทขนส่งที่สามารถไว้ใจได้และมีผลงานตามที่รับประกันกับบริษัท

นอกจากนี้ เพือป้องกันปัญหาการค้างของสินค้าในคลัง บริษัท Fashion & You สร้างเครือข่ายผู้ขายสินค้า (Ven der) กว่า 700 แห่งทั่วอินเดีย โดยวิธีการรักษาจำนวนสินค้าคงคลังให้เท่ากับศูนย์ทำได้โดยการรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นอันดับแรกก่อนที่รายการสังซื้อสินค้าจะถูกส่งไปยังผู้ขายสินค้า โดยผู้ขายเหล่านี้จะตอบรับคำสังซื้อและส่งสินค้ามายังคลังสินค้าของบริษัท Fashi on & You ก่อนที่จะกระจายสินค้าไปยังคลังสินค้าย่อยทั้งแปดแห่งในอินเดียและถึงมือผู้สังซื้อในทีสุด โดยปกติ การส่งสินค้าจะใช้เวลา 2-3 วันสำหรับการส่งสินค้าทัวไปและใช้เวลาหนึ่งวันสำหรับการส่งสินค้าทีเสียค่าบริการจัดส่งเพิ่มเติม การชำระเงิน

การชำระเงินจากการสังซื้อสินค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ ทำได้หลายวิธีด้วยกันในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ บริษัทจะใช้วิธีการเก็บเงินปลายทาง (Cash-On-D elivery: COD) สำหรับการเก็บเงินจากผู้ซื้อหรือการหักเงินจากบัตรเครดิต โดยการเก็บเงินแบบปลายทางเป็นการให้ประโยชน์แก่ลูกค้าทีเปลียนการตัดสิน ใจโดยยกเลิกการสังซื้อในภายหลัง โดยในปัจจุบัน บริษัทผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์บางรายได้เริ่มการให้บริการชำระค่าบริการปลายทางผ่านบัตรเครดิต โดยผู้ส่งสินค้าจะมีเครืองชำระบัตรเครดิตสำหรับลูกค้าในเมืองเดลี เขตเมืองหลวง (NCR ) และเมืองบังกะลอและในปัจจุบันยังเพิ่มการให้บริการชำระเงินแบบผ่อนชำระ (Easy Monthly Installment: EMI) อีกด้วย

แม้ว่าอินเดียจะมีตลาดการค้าปลีกปลีกอิเลคทรอนิกส์ที่ขนาดไม่ใหญ่นักเมือเทียบกับการค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามการค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์สำหรับสินค้าประเภทเสือผ้าเครืองแต่งกายในอินเดียกำลังเติบโตขึนเป็นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เฉพาะบริษัทผู้ค้าปลีกอิเลคทรอนิกส์ที่นำเสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆ มาทำการค้าแบบออนไลน์เท่านัน ในบริษัทเจ้าของแบรนด์สินค้าเองก็ให้ความสนใจกับการลงทุนในการค้ารูปแบบนีเช่นกัน เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้ประกอบการหลายรายสามารถพัฒนารูปแบบการค้าผ่านระบบออนไลน์ให้สามารถแข่งขันกับการค้าปลีกทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบด้านการให้ข้อมูลสินค้าและความสะดวกสบายของผู้ซื้อ

นายศศินทร์ สุขเกษ/ นางสาวภัทรมน กนิษฐานนท์สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ

มิถุนายน 2555


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ