สภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในนครเซี่ยงไฮ้

สภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในนครเซี่ยงไฮ้

SOHO บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ได้เข้ามาเล่นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ ๑๑ ตั้งแต่เดือน ส.ค. ๒๕๕๒ เป็นต้นมา โดยได้ทำการซื้อกิจการจากบริษัทในเซี่ยงไฮ้ที่สภาพการเงินกำลังประสบกับภาวะฝืดเคือง

นายพาน สืออี้ ประธานบริษัท SOHO ได้กล่าวว่า ในปีที่แล้วบริษัทมีเงินทุนสะสมอยู่ในมือสูงถึง ๒๐,๐๐๐ ล้านหยวน โดยประสงค์ที่จะใช้เงินส่วนนี้เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ทำการจัดซื้ออสังหาริมทรัพย์จากบริษัทที่กำลังร้อนเงินสดจากผลของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังอยู่ในภาวะซบเซา และนำไปพัฒนาต่อในอนาคต ล่าสุดเดือนเมษายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา บริษัท SOHO ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้จ่ายเงินจำนวน ๒,๑๔๐ ล้านหยวน (ราว ๓๔๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่ บจก. Shanghai Greentown Plaza Development ผู้เป็นเจ้าของโครงการใหญ่บนถนนเทียนซาน ย่านธุรกิจแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้ลงทุนร่วมกับ บจก. MaAnShan Hualong Real Estste Development (ถือครองหุ้นในสัดส่วน ๗๐:๓๐) โดยในบริเวณดังกล่าวมีสำนักงานรวมตั้งอยู่ถึง ๔,๔๐๐ บริษัท ซึ่งส่วนมากเป็นของชาวต่างชาติ เงินทุนดังกล่าวจะใช้สำหรับการลงทุนในโครงการ Zhongshan Plaza ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ธุรกิจของเซี่ยงไฮ้ใกล้กับ The Bund หรือไว่ทาน โดยบริษัท SOHO จะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ ๕๐ ขณะที่บริษัท Greentown ถือหุ้นร้อยละ ๑๐ และโครงการนี้จะเปิดให้ผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจการค้าหรือก่อตั้งสำนักงานได้เข้ามาเช่าพื้นที่ต่อไป

เจ้าหน้าที่ของบริษัท Greentown ได้กล่าวว่า การขายอหังสาริมทรัพย์ในครั้งนี้ให้แก่บริษัท SOHO ทำให้บริษัทจะได้รับเงินสูงถึง ๒๐๐ ล้านหยวน โดยเงินส่วนนี้ได้ช่วยให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น และสามารถนำเงินไปใช้ในการลงทุนส่วนอื่นๆ ต่อไปได้อีกด้วย

ปัจจุบันราคาอสังหาริมทรัพย์ของเซี่ยงไฮ้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงมากเมืองเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ของจีน ไม่ว่าจะเป็นราคาซื้อขายหรือราคาเช่า ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พร้อมกับเป็นปัญหาที่กระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน โดยในส่วนของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากต่างประสบกับปัญหา“ลงทุนไป ขายไม่ออก” ขณะที่ประชาชนพบกับปัญหา“ราคาสูงจนสู้ไม่ไหว” ซึ่งภาครัฐบาลของเซี่ยงไฮ้ก็ทราบดีถึงปัญหาดังกล่าว และพยายามที่จะควบคุมปรับปรุงให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของเซี่ยงไฮ้อยู่ในสภาพที่ยอมรับได้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จากข่าวข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาของเซี่ยงไฮ้ในปัจจุบัน จนอาจถึงขั้นที่เรียกว่า “ฟองสบู่แตก” ก็เป็นได้ ซึ่งส่งผลให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายเลือกที่จะขายต่อกิจการเพื่อนำเงินมาหมุนต่อยอดธุรกิจให้อยู่รอดในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสทองสำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ที่มีเงินทุนหนาที่จะเข้ามาช้อนซื้อกิจการเพื่อนำไปพัฒนาต่อในอนาคต อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของเซี่ยงไฮ้ในปัจจุบันอาจจะดูเหมือนไม่สู้ดีนัก (ราคาสูง ต้นทุนสูง) แต่เชื่อว่าไม่น่าจะล้มพับไปและก็น่าจะเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากเซี่ยงไฮ้มีพื้นฐานการพัฒนาธุรกิจที่ค่อนข้างเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจภาคบริการที่รัฐบาลให้การสนับสนุนเป็นอย่างมาก ซึ่งได้ช่วยดึงดูดให้บริษัทต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศล้วนสนใจเข้ามาก่อตั้งสำนักงานอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากแบรนด์เนมต่างชาติหรือบริษัทด้านธุรกิจบริการจากต่างชาติที่บุกเข้ามาขยายสาขาในเซี่ยงไฮ้ หรือบริษัทยักษ์ใหญ่ของปักกิ่งอย่าง SOHO ก็ได้เข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในเซี่ยงไฮ้มากถึง ๑๑ ครั้งในช่วงเวลาเพียงแค่ ๒ ปีเศษเท่านั้น ทั้งนี้ สภาพราคาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าสำนักงานหรือค่าที่พักอาศัย จึงน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้ามาลงทุนหรือทำธุรกิจการค้าในเซี่ยงไฮ้ ตลอดจนผู้ที่จะเดินทางมาทำงานหรือศึกษาต่อเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจด้วยเช่นกัน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้

๕ มิถุนายน ๒๕๕๕