สรุปสถานการณ์การส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพของไทยที่ส่งออกมายังประเทศบราซิล

สรุปสถานการณ์การส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพของไทยที่ส่งออกมายังประเทศบราซิล

1. ส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ในปี 2555 สคต. คาดการณ์ว่าสินค้าส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่รถยนต์จะยังสามารถขยายตัวในส่งออกมายังบราซิลร้อยละ 50 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 470 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีปัจจัยบวกคืออุตสาหกรรมรถยนต์ของบราซิลยังคงสามารถขยายตัวได้ดี ตามเศรษฐกิจของบราซิลที่ขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 3.5 อย่างไรก็ดี ก็มีปัจจัยลบคือ การออกมาตราต่างๆที่สนับสนุนต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของรัฐบาลที่พยายามลดการนำเข้าทั้งในส่วนรถยนต์สำเร็จรูปและอะไหล่ มาตราการที่อาจเป็นผลกระทบ เช่น การกำหนดอัตราภาษีอุตสาหกรรม(IPI) ที่ต่างกันของรถยนต์สำเร็จรูปที่ตามสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศและต่างประเทศ โดยรัฐบาลบราซิลได้กำหนดเกณฑ์ให้มีสัดส่วนของชิ้นส่วนในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ทำให้โดยรถยนต์ที่ประกอบโดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศจะเสียภาษีดังกล่าวร้อยละ 17 ส่วนรถยนต์ที่ใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่าร้อยละ 60 จะต้องเสียภาษีถึงร้อยละ 35 อันจะส่งผลให้เกิดการจำกัดการนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศในทางอ้อมได้ต่อไป เพราะหากใช้ชิ้นส่วนไม่ได้ตามเกณฑ์แล้ว จะทำให้มีราคาสูงขึ้นมากประมาณร้อยละ 15-20 เป็นต้น

2. ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ในปี 2555 สคต. คาดการณ์ว่าสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์จะขยายตัวได้ไม่มากนักเนื่องจาก การประสบปัญหาด้านอทุกภัยส่งผลต่อผลผลิตยางพาราและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องต้องหยุดการผลิตและไม่สมารถส่งออกได้ตามปกติ ทำให้ปี 2555 สคต. คาดการณ์ว่าการส่งออกยางพาราของไทยมายังบราซิลจะขยายตัวร้อยละ 0-5 มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 385 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบราซิลยังมีความต้องการสินค้าอยู่เนื่องจากผลิตภัณฑ์ยางพาราในประเทศมีไม่เพียงพอ ส่วนใหญ่มีคุณภาพที่แย่กว่าและมีราคาสูงกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ไทย หรือมาเลเชีย เป็นต้น

3. ด้ายและเส้นด้ายคุณภาพสูง ในปี 2555 สคต. คาดการณ์ว่าเส้นด้ายคุณภาพสูง โดยเฉพาะเส้นด้ายวิสคอสและโพลีเอสเตอร์ยังขยายตัวในการส่งออกมาบราซิลได้ดีอยู่ โดยน่าจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 5 มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 105 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องการสอบสวนการที่รัฐบาลบราซิลกล่าวหาประเทศไทย อินโดนิเชีย อินโดนีเชีย ว่ามีการทุ่มตลาดสินค้าเส้นด้ายวิสคอส และอาจพิจารณาเรียกเก็บอากรตอบโต้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สินค้ามีราคาแพงขึ้นจนอาจส่งผลให้มีการชะลอการนำเข้าได้

4. ส่วนประกอบและอะไหล่จักรยานยนต์ ในปี 2555 สคต. คาดการณ์สินค้าส่วนประกอบและอะไหล่จักรยานยังมีแนวโน้มที่สดใสและจะขยายตัวกว่าร้อยละ 20 มีมูลค่าการส่งออก 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากความต้องการจักรยานยนต์ของตลาดยังมีมากโดยคาดการณ์การผลิตจักรยานยนต์ในประเทศจากผู้ผลิต เช่น HONDA, YAMAHA, HARLEY DAVISON, DUCATI เป็นต้น จะขยายตัวถึงร้อยละ 17 ส่งผลให้มีการนำเข้าชิ้นส่วนมากขึ้นตามไปด้วย โดยชิ้นส่วนของประเทศไทยเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากคุณภาพที่ดีกว่าจีนและราคาที่เหมาะสม

5. เม็ดพลาสติก สคต. คาดการณ์ว่า การส่งออกเม็ดพลาสติกของไทยจะชะลอตัวลงโดยลดลงร้อยละ 20 มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องสอบสวนการทุ่มตลาดในสินค้าเม็ดพลาสติกโพลีคาร์บอนเนต แต่อย่างไรก็ดี ความต้องการเม็ดพลาสติกของบราชิลที่ต้องการเม็ดที่มีคุณภาพดีอยู่ตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวของบราซิลยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จึงขึ้นอยู่กับราคาของสินค้าว่าสามารถแข่งขันได้มากน้อยแค่ไหน และหากผลการสอบสวนเป็นไปในทางบวกการส่งออกสินค้าดังกล่าวก็อาจกลับมาขยายตัวได้ต่อไปในไตรมาสที่ 3 และ 4 ก็ได้ 6. อาหารทะเลกระป๋อง แปรรูปและเครื่องปรุงอาหารไทย สคต. คาดการณ์ว่า การส่งออกอาหารทะเลกระป๋องและเครื่องปรุงอาหารไทย ยังขยายตัวได้ดี ตามความต้องการสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นของคนบราซิล และเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวอยู่ โดยคาดว่าการส่งออกในสินค้าดังกล่าวจะขยายตัวร้อยละ 35 มีมูลค่าการส่งออก 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และน่าเชื่อว่ายังน่าจะมีการขยายตัวได้ต่อไปอีกมากหากอาหารไทยเป็นที่รู้จักและนิยมมากขึ้นในอนาคต

สคต. เซาเปาโล

มิถุนายน 2555