ฟิลิปปินส์เจรจาไทยเพื่อขอต่ออายุ Quantitative Restriction — QR ข้าว

ฟิลิปปินส์เจรจาไทยเพื่อขอต่ออายุ Quantitative Restriction — QR ข้าว

การจำกัดปริมาณ (Quantitative Restriction — QR) ในการนำเข้าข้าว ตามที่องค์การการค้าโลก (World Trade Organization — WTO) อนุญาตให้ฟิลิปปินส์ดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2006 มีกำหนดสิ้นสุดลงเมื่อ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา มาตรการ QR ข้าวดังกล่าวนี้ ได้กำหนดปริมาณการนำเข้าขั้นต่ำ (Minimum Access Volume — MAV) ไว้ที่จำนวน 350,000 ตัน โดยการนำเข้าข้าวในปริมาณไม่เกินนี้จะต้องเสียภาษี (Duty) 40% และถ้าเกินกว่านี้จะต้องเสียภาษีถึง 50%

รัฐบาลฟิลิปปินส์มีความต้องการที่จะต่ออายุ QR ตามที่ WTO ได้อนุญาตไว้เมื่อปี 2006 ด้วยเหตุผลเพื่อป้องกันการทะลักเข้าของข้าวราคาถูก ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับการปลูกข้าวในประเทศได้ แต่ทั้งนี้จะต้องมีการเจรจาตกลงกับประเทศที่เกี่ยวข้องด้วย โดยฟิลิปปินส์ได้แจ้งความประสงค์ต่อ WTO อย่างเป็นทางการเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ว่าจะขอเจรจาเพื่อยืดอายุ QR สำหรับการนำเข้าข้าวออกไปอีก และประเทศที่แสดงความสนใจในการเจรจาตกลงเรื่องการยืดอายุ QR ข้าว ได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา ไทย เวียดนาม กัมพูชา และเอลซัลวาดอร์

การยืดอายุ QR ข้าว จะทำให้ฟิลิปปินส์สามารถจำกัดปริมาณข้าวที่นำเข้าประเทศในแต่ละปีได้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเข้าข้าวราคาถูกจากประเทศอื่นๆ แต่การที่จะโน้มน้าวให้ประเทศต่างๆสนับสนุนการยืดอายุ QR ข้าวออกไปอีกได้ รัฐบาลจะต้องเสนอโอกาสกาสำหรับการนำเข้าสินค้าอื่นๆเป็นการทดแทน

รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องการคงมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวไว้ที่ปริมาณ MAV นี้ แต่ประเทศอื่นๆกต้องการให้เพดานโควตา MAV สูงกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ซึ่งถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ QR ข้าวจะต้องถูกยกเลิกไปโดยปริยาย และฟิลิปปินส์จะไม่มีกฎระเบียบอื่นๆ มาควบคุมปริมาณนำเข้าข้าวอีก นอกจากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามปกติ

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ทางฟิลิปปินส์ได้ขอเจรจากับไทย ซึ่งหากไม่สามารถตกลงกันได้ รัฐบาลประเทศที่เป็นคู่เจรจากันนี้ มีทางเลือกที่สามารถยื่นร้องให้ WTO ตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทได้

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา

5 กรกฎาคม 2555