การคาดการณ์ผลกระทบจากความล่าช้าของฤดูมรสุมในอินเดีย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 18, 2012 15:03 —กรมส่งเสริมการส่งออก

การคาดการณ์ผลกระทบจากความล่าช้าของฤดูมรสุมในอินเดีย

จากความล่าช้าของฤดูมรสุมในอินเดียในปีนี้ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำทั่วประเทศขาดแคลนคิดเป็นร้อยละ 23 จนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2555 ส่งผลให้ประมาณการระดับปริมาณน้ำฝนอยู่ในช่วงระหว่างเกือบเท่าปกติจนถึงต่ำกว่าปกติ โดยคาดว่าพื้นที่ที่จะขาดแคลนน้ำคือ บริเวณพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศ ซึ่งรวมถึงรัฐราชสถาน ปัญจาบ และหรยาณา ทั้งนี้ ความล่าช้าของฤดูมรสุมจะส่งผลให้อุปสงค์ในชนบทลดลง การเติบโตของเศรษฐกิจชะลอตัว และงบประมาณของรัฐบาลน้อยลง ประกอบกับการแข็งค่าของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ และเงินหยวน ทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจของอินเดียในขณะนี้อยู่ในช่วงน่าเป็นห่วง โดยภาคอุตสาหกรรมหลักของอินเดียจะได้รับผลกระทบดังนี้

ภาคสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทที่ใช้แล้วหมดไปอย่างรวดเร็ว (Fast Moving Consumer Goods: FMCGs) คาดว่าจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยประชาชนจะใช้จ่ายเงินลดลงในสินค้าจำพวกสบู่ ผงซักฟอก น้ำยาสระผม และน้ำมันใส่ผม ตลอดจนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในครัวเรือน เช่น ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ดังนั้นผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มนี้จึงมีแผนที่จะออกสินค้าชนิดใหม่สู่ตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น

สำหรับภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ยังอยู่ในช่วงเฝ้าสังเกตการณ์หรือ "Wait & Watch" โดยผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถแทรกเตอร์ ซึ่งถือเป็นพาหนะที่ใช้ในการเกษตรอาจจะได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนของแรงงานในตลาดอินเดียในปัจจุบัน อาจมีส่วนช่วยทำให้ยอดขายรถยนต์ประเภทนี้เพิ่มขึ้นได้

ด้านภาคการธนาคาร สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในช่วงเร็วเกินไปที่จะกำหนดมาตรการรับมือใดๆ โดยมีความหวังว่าเกษตรกรจะสามารถชำระเงินกู้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จากธนาคารกลางของอินเดีย อย่างไรก็ตาม ธนาคารส่วนใหญ่ได้วางแผนพัฒนาความสามารถของเกษตรกรในการใช้สินเชื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเกษตรกรจะได้สามารถชำระเงินกู้แก่ธนาคารได้

ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียได้เตรียมแผนรับมือต่อปัญหาฝนแล้งดังกล่าวใน 7 รัฐได้แก่ รัฐราชสถาน คุชราต มัธยประเทศ มหาราษฏระ กรณาฏกะ อานธรประเทศ และทมิฬนาฑู โดยการเตรียมเมล็ดพันธุ์พืชที่มีวงจรชีวิตสั้นไว้หลาย ๆ พันธุ์ เช่น ข้าวเปลือก ธัญพืชประเภทถั่วต่างๆ ละหุ่ง และงา เป็นต้น เพื่อให้เกษตรกรได้มีพืชทางเลือกในการเพาะปลูกในช่วงขาดแคลนน้ำ ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมเมล็ดพันธุ์พืชไว้จำนวน 560,000 ตัน ครอบคลุมพื้นที่ 340,000 ล้านตารางเมตร

อนึ่ง ตัวชี้วัดเศรษฐกิจของอินเดียในปัจจุบันอยู่ในระดับวิกฤต โดยดัชนีราคาขายส่ง (WPI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.89 ในเดือนมกราคม 2555 เป็นร้อยละ 7.55 ในเดือนพฤษภาคม 2555 อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลดลงเหลือร้อยละ 5.3 ในไตรมาสแรกของปี 2555 ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 9 ปี การลงทุนจากต่างประเทศชะลอตัวลงเหลือ 2.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม 2555 และอัตราการขยายตัวของการส่งออกลดลงอยู่ที่ติดลบร้อยละ 5.4 ในเดือนมิถุนายน 2555

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ

กรกฎาคม 2555


แท็ก อินเดีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ