การส่งออกของไทยไปซาอุดีอาระเบีย ปี 2555 โตสวนกระแส ขยายตัวถึงร้อยละ 24.99

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 17, 2012 13:57 —กรมส่งเสริมการส่งออก

การส่งออกของไทยไปซาอุดีอาระเบีย ปี 2555 โตสวนกระแส ขยายตัวถึงร้อยละ 24.99

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ (นายศิวะลักษณ์ นาคาบดี) เปิดเผยว่าปี พ.ศ. 2555 (มค.-กค.) การค้าระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบีย ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 6,142 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ขยายตัวร้อยละ 19.05) โดยไทยนำเข้าสินค้า 4,439 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยส่งออกสินค้าไปซาอุฯ 1,703 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปี 2555 (มค.-กค.) สินค้าที่ไทยส่งออกไปซาอุฯ มากที่สุด ได้แก่ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน (มูลค่า 715 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.23) เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน (มูลค่า 145 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 54.88) อาหารทะเลแปรรูป (มูลค่า 93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 102.09) เคมีภัณฑ์ (มูลค่า 89 เหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวลดลงร้อยละ 16.00) และสินค้าตู้เย็น ตู้แช่ และชิ้นส่วน (มูลค่า 76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 41.55) ตามลำดับ

ช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีนี้ การส่งออกของไทยไปซาอุฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลจากสะสมของสินค้าที่ค้างส่งในช่วงปลายปี 2554 จากเหตุอุทกภัยในประเทศไทย และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการนำเข้าที่แท้จริง (Real Demand) ที่เพิ่มขึ้น จากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของซาอุฯ รายได้จากน้ำมัน ตลอดจนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐบาลเองด้วย สำหรับปัญหาในยูโรโซนไม่น่าจะมีผลกระทบมากนักต่อซาอุฯ เนื่องจากมิใช่ตลาดส่งออกน้ำมันหลัก แต่การนำเข้าสินค้าจากยูโรโซนอาจเพิ่มขึ้นจากค่าเงินยูโรที่อ่อนตัวลง

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยด้านลบที่อาจมีผลต่อเศรษฐกิจของซาอุฯ ซึ่งยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่ามีการฟื้นตัว ในปัจจุบันซาอุฯ ผูกค่าเงินซาอุดีรียัลไว้กับเงินเหรียญสหรัฐฯ หากค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนตัวลง ค่าเงินรียัลก็จะอ่อนตัวลงด้วยในสัดส่วนเดียวกัน นอกจากนี้ การส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว อาจส่งผลให้มีความต้องการนำเข้าน้ำมันจาก ซาอุฯ ลดลงด้วย ในด้านของเศรษฐกิจภายในประเทศ ยังต้องจับตามองอัตราเงินเฟ้อที่อาจสูงขึ้น จากผลของราคาสินค้าเกษตรและอาหาร ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลก

เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยด้านบวกและลบที่กล่าวมาข้างต้น ในปี 2555 คาดว่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังซาอุฯ ทั้งปี น่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างน้อยประมาณร้อยละ 10-12 หรือมูลค่าส่งออกขั้นต่ำประมาณ 2,480 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ หากความต้องการนำเข้าที่แท้จริง (Real Demand) ของซาอุฯ เพิ่มขึ้นจริง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการนำเข้าจากไทยเพิ่มเกินกว่าร้อยละ 12 ในปีนี้

อนึ่ง ในปี พ.ศ. 2554 การค้าระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบีย ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 9,640 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ขยายตัวร้อยละ 21.26) โดยไทยนำเข้าสินค้า 7,386 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันดิบ) และไทยส่งออกสินค้าไปซาอุฯ 2,254 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.45 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ปี 2554 สินค้าที่ไทยส่งออกไปซาอุฯ มากที่สุด ได้แก่ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน (มูลค่า 855 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวลดลงร้อยละ 22.23) สินค้าเคมีภัณฑ์ (มูลค่า 181 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 229.99) เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน (มูลค่า 155 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 75.12) เครื่องจักรและชิ้นส่วน (มูลค่า 102 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 112.78) และ ผลิตภัณฑ์ยาง (มูลค่า 93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 68.13)

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์

10 กันยายน 2555


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ