ของขวัญและของชำร่วยก็เป็นอีกหนึ่งประเภทสินค้าฟุ่มเฟือยที่ผู้บริโภคจีนมีความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการไม่ว่าจะเป็นเพราะความชอบส่วนตัวต่อสิ่งของเหล่านี้หรือด้วยวัฒนธรรมและวิถีการสานสัมพันธ์ของจีน ที่ควรมีของขวัญหรือของสวยงามติดไม้ติดมือให้แก่เพื่อน ผู้ใหญ่ หรือผู้อาวุโสเพื่อแสดงถึงความห่วงใย ความเคารพ ความรักและความจริงใจ ดังนั้น การมอบสิ่งของเหล่านี้จึงกลายเป็นธรรมเนียมและเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
จากการสำรวจตลาดในช่วงเดือนตุลาคมประจำปี 2555 นั้นพบว่า ตลาดของขวัญและของชำร่วยนั้นเติบโตเป็นอย่างมาก แต่ที่น่าสังเกตคือ ผู้ผลิตรายใหญ่ของจีนหลายรายหันมาสนใจในตลาดผู้บริโภคภายในประเทศมากว่าการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ งานแสดงสินค้าของขวัญและของตกแต่งบ้านนานาชาติ ประจำปี 2012 ครั้งล่าสุดถูกจัดขึ้นในวันที่ 22-25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน มีผู้ประกอบการจีนจากหลายบริษัททั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่กว่า 3,600 แห่ง เปิดแสดงสินค้าในพื้นที่มากกว่า 5,800 คูหา ประกอบด้วยสินค้าของขวัญ ของชำร่วย และของสวยงามตกแต่งบ้านชนิดต่างๆ เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะลายสวยงาม รูปปั้นเซรามิก ภาพวาดบนผืนผ้าไหม เป็นต้น
ผู้ประกอบการจีนส่วนใหญ่กว่า 90% ภายในงานแสดงสินค้า กล่าวว่า จุดประสงค์หลักของการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าครั้งนี้คือ ต้องการหาลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายจากภายในประเทศ เนื่องจากมีกำลังซื้อและปริมาณความต้องการสินค้ามากกว่าผู้ซื้อที่มาจากต่างประเทศ และผู้แสดงสินค้าก็คาดว่าทางบริษัทสามารถเพิ่มยอดและปริมาณการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการภายในประเทศได้อีกเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันนี้จีนไม่ใช่เพียงแต่ผู้ผลิตของขวัญและของชำร่วยรายใหญ่ของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นตลาดที่มีผู้บริโภคสินค้าชนิดนี้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย ดังนั้น ผู้ผลิตจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมองหาตลาดผู้บริโภคในต่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ผลิตจีนรายใหญ่บางรายนำเข้าสินค้าประเภทนี้จากต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทผลิตและจัดจำหน่ายกล่องใส่ของที่ทำจากไม้ ในเมืองเซินเจิ้น ปัจจุบันนี้ สินค้าทั้งหมด 95% ของบริษัทได้ถูกนำเข้าในรูปแบบที่ประกอบสำเร็จรูปแล้วจากประเทศเวียดนามและอินเดีย เนื่องจากมีค่าแรงถูกกว่าค่าแรงของจีนในปัจจุบัน และยิ่งเมื่อค่าเงินของจีนมีค่าสูงขึ้นก็ยิ่งได้เปรียบในตลาดต่างประเทศ การนำเข้าสินค้าที่มีต้นทุนต่ำเท่าไหร่ก็ยิ่งทำกำไรจากการขายภายในประเทศได้มากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จีนจึงเลือกที่จะผลิตในประเทศที่ให้ต้นทุนต่ำและเพิ่มปริมาณการนำเข้ามากขึ้น
หากกล่าวถึงโอกาสทางการค้าของไทยในการผลิตเพื่อการส่งออกมาแข่งขันกับจีนนั้น อาจกล่าวได้ ว่าสำหรับการผลิตเพื่อส่งออกมาขายยังตลาดระดับล่างของจีนที่มีมูลค่าสินค้าต่ำและคุณภาพธรรมดานั้น ไทยอาจเสียเปรียบในด้านต้นทุนการผลิตที่ทำให้ราคาขายสินค้าจากจีนถูกกว่ามาก ทั้งที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกัน ประโยชน์ใช้สอยเหมือนกัน จึงสามารถแข่งขันได้ลำบาก
ทว่า สินค้าไทยที่มีราคาสูงกว่า เนื่องด้วยคุณภาพและงานฝีมือที่ดีเยี่ยม ก็สามารถเข้ามาแข่งขันกับตลาดของขวัญและของชำร่วยที่เน้นงานฝีมือและความสวยงามในตลาดระดับบนได้ไม่ยาก เนื่องจากงานฝีมือของคนไทยเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความละอียดอ่อนสวยงาม คุณภาพดี จึงมีภาพลักษณ์ที่ดีในตลาดต่างประเทศ ดังนั้น ถึงแม้ว่าสินค้าไทยจะมีราคาสูง แต่หากผู้ประกอบการไทยเลือกตลาดให้เหมาะสม ก็สามารถแข่งขันในตลาดจีนได้
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจจะเข้าชมงานแสดงสินค้าประเภทของขวัญและของตกแต่งบ้านที่ประเทศจีน "Gifts and Home China Fair" ณ เมืองเซินเจิ้น สามารถเข้าชมงานได้ทุกปี โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาคือ ช่วงเดือนเมษายนและตุลาคม ซึ่งภายในงานจะแบ่งเป็นศูนย์แสดงสินค้าทั้งหมด 9 ฮอลล์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ฮอลล์ที่ 1: งานศิลปะและงานศิลปหัตถกรรม เครื่องใช้ไฟฟ้า
ฮอลล์ที่ 2: เซรามิก เครื่องแก้ว เครื่องเขียน
ฮอลล์ที่ 3: เครื่องใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์หม้อต่างๆ
ฮอลล์ที่ 4: อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ บรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ
ฮอลล์ที่ 5: Promotions
ฮอลล์ที่ 6: ของขวัญและของพรีเมี่ยมต่างๆ
ฮอลล์ที่ 7: อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณณ์เครื่องนอน กระเป๋ารูปแบบต่างๆ
ฮอลล์ที่ 8: เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว
ฮอลล์ที่ 9: เครื่องใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์กีฬาและสันทนาการต่างๆ
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลการค้าเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว โทร. (86) 20-8384-9453 e-mail: thaitcguangzhou@ditp.go.th
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
ตุลาคม 2555