มัธยประเทศ เป็นรัฐใหญ่อันดับสองรองจากรัฐอุตตรประเทศ มีประชากรกว่า 72 ล้านคน มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยระหว่าง ปี 2548 - 2553 สูงถึงร้อยละ 12.70 เมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจที่สุด คือ เมืองอินโดร์ จากการสำรวจของบริษัท IDFC Securities เมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 พบว่ากว่าร้อยละ 50 ของจำนวนครัวเรือนในเมืองอินโดร์ มีรายได้ต่อครัวเรือนเกินกว่าเดือนละ 30,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับประชากรเมืองอื่นๆ ของอินเดีย รัฐมัธยประเทศเป็นรัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอย่างมาก อาทิ แร่ทองแดง แร่ไพโรฟิลไลท์ ถ่านหิน และหินปูน เป็นต้น อีกทั้งเป็นรัฐอันดับหนึ่งในการผลิตถั่วเหลือง ถั่วชนิดต่างๆ และพืชน้ำมัน
มัธยประเทศเป็นรัฐที่มีราคาปัจจัยการผลิตที่ต่ำกว่ารัฐอื่นๆ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าจ้างแรงงาน และค่าสาธารณูปโภค รวมทั้งยังอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบที่สำคัญหลายชนิดที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำไปลงทุนผลิตปูนซีเมนต์ที่รัฐนี้กันอยู่หลายบริษัท ได้แก่ บริษัท Birla Corporation บริษัท Vikram Cement บริษัท และ Prism Cement นอกจากนั้น ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Pithampur ของรัฐมัธยประเทศก็ยังได้รับสมญานามว่า "Detroit of India" ในฐานะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของอินเดีย โดยมีบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไปตั้งโรงงานผลิตอยู่จำนวนมาก เช่น บริษัท Eicher Motors บริษัท Mahindra 2 Wheelers และบริษัท Caparo
ข้อเสนอแนะ
สำหรับรัฐมัธยประเทศที่นักธุรกิจไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคยนัก สิ่งที่เห็นได้ชัดว่าเป็นปัจจัยสำคัญนำมาสู่ความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐนี้ คือ ความมีวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำของมุขมนตรีของรัฐ ที่สามารถผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรมไปในทิศทางที่ชัดเจน สำหรับนักธุรกิจไทยที่มียุทธศาสตร์ที่จะไปลงทุนในประเทศอินเดีย รัฐมัธยประเทศก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ประเทศอินเดีย สคร.มุมไบ
สำนักพัฒนาการตลาดระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
Email : intmk@ditp.go.th Website : www.ditp.go.th