ประเทศชิลีถือเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นคู่ค้าที่สำคัญของจีนในภูมิภาคอเมริกาใต้ โดยคาดการณ์ว่าจากผลของเขตการค้าเสรีที่มีการผลักดันอย่างต่อเนื่องของ ๒ ประเทศ จะทำให้ยอดการค้าระหว่าง ๒ ประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทั้งนี้คาดว่ายอดการค้าของ ๒ ประเทศจะอยู่ที่ราว ๓๕,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี ๒๕๕๕ นี้ สืบเนื่องจากสถิติการค้าในปี ๒๕๕๔ ตัวเลขทางการค้าระหว่าง ๒ ประเทศอยู่ที่ราว ๓๑,๓๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีการขยายตัวทางการค้าที่ร้อยละ ๑๕ เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยยอดการส่งออกจากจีนไปชิลีคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ ๒๐ ของยอดการวส่งออกจากชิลีไปยังต่างประเทศทั้งหมด
ตัวเลขทางการค้าระหว่างจีนและชิลีมีการขยายตัวขึ้นในอัตราที่น่าพอใจทุกปี โดยในปี ๒๕๔๘ หลังจากที่ ๒ ประเทศได้เซ็นสัญญาเขตการค้าเสรี(FTA) แบบทวิภาคี ได้เป็นการผลักดันให้สินค้ากว่า ๖,๐๐๐ ชนิดจาก ๒ ประเทศได้รับการยกเว้นภาษีสินค้า จนเป็นผลให้การค้าระหว่าง ๒ ประเทศมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ชิลีถืเป็นประเทศแรกในแถบละตินอเมริกาที่เริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนอย่างเปิดเผย อีกทั้งยังเป็นประเทศแรกๆในภูมิภาคดังกล่าวที่เซ็นสัญญาเขตการค้าเสรีแบบทวิภาคีกับจีนด้วย แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศและการตระหนักรู้ในศักยภาพของประเทศจีนก่อนประเทศอื่นๆในภูมิภาคดังกล่าว
ซึ่งสองประเทศถือว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลทางการค้าที่พึ่งพิงกันระหว่างสินค้าปฐมภูมิและสินค้าทุตติยภูมิ ทั้งนี้หากพิจารณาจากโครงสร้างของสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้าหลักจาก ๒ ประเทศจะพบว่าเป็นรูปแบบของสินค้าเกษตรแลกเปลี่ยนกับสินค้าอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง ซึ่งสินค้าหลักที่จีนส่งออกไปชิลี ได้แก่ ส่วนประกอบและเครื่องมือในโรงงาน อุปกรณ์โทรคมนาคม วัสดุเครื่องใช้ภายในครัวเรือน เครื่องแต่งกาย ของเล่น รองเท้า และเครื่องมือที่ใช้ในการคมนาคมต่างๆ ด้านสินค้าชิลีหลักที่ชิลีส่งออกมายังจีน ได้แก่ แร่ดีบุก กระดาษ ไม้ที่ใช้ในการก่อสร้างและแปรรูป และสัตว์น้ำ ดังนั้นจะเห็นว่าประเทศจีนเป็นผู้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปยังประเทศชิลี ขณะที่ประเทศชิลีก็ส่งออกสินค้าเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติมายังประเทศจีน ทั้งนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านม่า สินค้าจากชิลีที่ตลาดจีนให้ความสนใจและมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วได้แก่ ไวน์แดง สาหร่ายทะเล และผลไม้สด
ผลไม้สดจากประเทศชิลีจะถูกกระจายไปยังช่องทางการตลาดต่างๆทั่วประเทศจีน โดยในขั้นแรก ผลไม้สดจะถูกลำเลียงมาที่ตลาดขายส่งพืชผักและผลไม้ Jiangnan ที่เมืองกวางโจว จากนั้นผลไม้สดก็จะถูกกระจายไปยังหัวเมืองสำคัญต่างๆ ในจำนวนนี้รวมถึงกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองเทียนจิน และเมืองต้าเหลียน
นอกจากนี้ ชิลียังมีแนวคิดที่น่าสนใจในการทำการตลาดโดยได้จัดโซนเพื่อแสดงสินค้าทางด้านผลไม้ร่วมกับการท่องเที่ยวเพื่อแสดงโอกาสทางการค้าในตัวผลไม้จากประเทศชิลี โดยชิลีได้อาศัยพื้นที่ราว ๒๖ เฮตเตอร์ในเขตชนบทของ Jixian เมืองเทียนจินเป็นศูนย์จัดแสดงการปลูก(Demonstration Farm)องุ่นพันธุ์จากชิลีร่วมกับผลไม้อื่นๆซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศ ซึ่งในพื้นที่จัดแสดงดังกล่าวนอกจากการปลูกพืชแล้ว ยังมีการจัดโซนสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างโรงแรมห้าดาว ศูนย์ประชุม สนามกอล์ฟ รวมถึงสวนธรรมชาติสวยงาม ซึ่งในสวนดังกล่าวยังมีมุมสวยงามสำคัญนั่นคือการจำลองเอาภูมิทัศน์ของเกาะทางใต้อย่าง Stone Heads ไว้ด้วยนับเป็นการรวมเอาการท่องเที่ยวมาไว้กับการจัดแสดงสินค้าที่ลงตัวได้เป็นอย่างดี
หากกล่าวถึงประเทศชิลีแล้ว คนทั่วไปคงคิดถึงทรัพยากรเมืองแร่และไวน์องุ่น ซึ่งทั้งสองกลุ่มสินค้าดังกล่าวถือเป็นธุรกิจทำเงินหลักของประเทศชิลี แต่ด้วยพื้นที่ในเขต Jixian เมืองเทียนจินของจีน ได้รับการเนรมิตเป็นพื้นที่การเกษตรเพื่อจัดแสดงศักยภาพของสินค้าการเกษตรจากชิลี รวมถึงยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวจีนด้วย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้