แหล่งผลิตและตลาดลำไยสดที่สำคัญของจีนที่สำคัญ ได้แก่ มณฑลกวางตุ้ง มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลกวางซี มณฑลไห่หนาน และไต้หวัน รวมผลผลิตเป็นร้อยละ 50 ของโลก ปริมาณผลผลิตที่มากหรือน้อยในแต่ละปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศโดยเฉพาะในปีที่มีพายุไต้ฝุ่นมากจะมีผลผลิตลดลง โดยทั่วไปผลผลิตลำไย จะมีผลผลิตมากสลับกับผลผลิตน้อยในแต่ละปี ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่มีผลผลิตน้อย
เริ่มในเดือนสิงหาคม-กันยายน
ส่วนใหญ่ จะอยู่ทางตอนใต้ของจีนคือมณฑลที่มีการเพาะปลูกลำไยข้างต้น โดยจะมีการบริโภคอย่างน้อยร้อยละ 50 ของผลผลิตทั้งหมดและอีกอย่างน้อยร้อยละ 50 จะนำไปผลิตเป็นลำไยอบแห้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความต้องการบริโภคเป็นสำคัญ
การนำเข้าจากไทย ปี 2554 นำเข้าจากไทยปริมาณรวม 205,700 ตันมูลค่า 248.88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 96.24
1. มณฑลกวางตุ้ง ที่เมืองเสิ่นเจิ้นและกวางโจวปริมาณรวม 184,657 ตันมูลค่า 225.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.82
ราคาส่งเฉลี่ย 16.20 หยวนต่อกิโลกรัม (81 บาท) ราคาปลีกเฉลี่ย 20-24 หยวนต่อกิโลกรัม (100-120 บาท)
ภาษีการนำเข้าร้อยละ 0 และภาษีมูลค่าเพิ่มลำไยสดร้อยละ 13
แม่น้ำโขงน้อยลง เข้ามาทาง R3Aคุนหมิง และทางR12 (นครพนม-กวางซี) ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า มากขึ้น
การนำเข้าจากไทย ปี 2554 จีนนำเข้าจากไทย จำนวน 73,000 ตัน มูลค่า 79.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 40.24
1.เมืองเซียงไฮ้ มูลค่า 35,030 ตัน มูลค่า 36.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
2.มณฑลฝูเจี้ยน(ฝูโจวและเซี่ยเหมิน) จำนวน 22,794 ตัน มูลค่า 27.41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
4 เดือนแรกของปี 2555 มีปริมาณ 3,303 ตัน มูลค่า 4.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯเปรียบเทียบกับปริมาณการนำเข้า 4 เดือนแรกของ 2554 ลดลงร้อยละ 67.95 ตลาดสำคัญ ในการรับซื้อและจัดจำหน่ายลำไยอบแห้งของจีน ได้แก่ เมือง ผู่เถียน มณฑลฝูเจี้ยน เมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียง เมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ตำบล หนานซา เมืองกวางโจว เมืองเจ้าซิ่ง มณฑลกวางตุ้ง ตลาดขายส่ง เมืองฉางซา มณฑลหูหนาน และตลาดขายส่งเมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียง
เริ่มในเดือนสิงหาคม-กันยายนและหรือช่วงที่มีการซื้อขายลำไยอบแห้งมากที่สุดในจีนเดือนธันวาคม-มกราคมเพราะเป็นช่วงก่อนตรุษจีน ฤดูซื้อขายลำไยของไทย กรกฎาคม-สิงหาคม
ทางตอนเหนือของจีน
ราคาส่งเฉลี่ย(สต็อกเก่า) เกรด AA 13-19 หยวนต่อกิโลกรัม (65-95 บาท) เกรด A 6-8 หยวนต่อกิโลกรัม (30-40 บาท) ราคาส่งเฉลี่ย(สต็อกใหม่) เกรด AA 22-23 หยวนต่อกิโลกรัม (110-115 บาท) เกรด A 12-13 หยวนต่อกิโลกรัม (60-65 บาท) ภาษี
ภาษีการนำเข้าร้อยละ 0 และภาษีมูลค่าเพิ่มลำไยอบแห้งร้อยละ 17
เนื่องจากราคาลำไยในช่วงฤดูซื้อขายใหม่ในปีนี้มีราคาสูงขึ้น คาดว่าการนำเข้าจะลดลง ประกอบกับในช่วงนี้ยังเป็นหน้าร้อนความต้องการบริโภคยังไม่สูง จะต้องรอดูในช่วงปลายปี(สิงหาคม-กันยายน)จนไปถึงตรุษจีนหากราคาไม่แตกต่างจากราคาของจีนมากนัก น่าจะมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นเพราะคนจีนจะบริโภคในหน้าหนาวมากกว่าหน้าร้อน
1. ศุลกากรจีนตั้งราคาศุลกากรสูง ที่ 2.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อกิโลกรัม CNF
2. จากปัญหาข้อ 1 ผู้ประกอบการจีนบางรายจะนำเข้าโดยไม่แบ่งเกรดหรือลดเกรดเพื่อหลีกเลี่ยงการประเมินภาษี เมื่อศุลกากรตรวจสอบพบสินค้าที่ผู้นำเข้าจากจีนมีการแจ้งเกรดลำไยไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มลดลงทำให้ศุลกากรจีนเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าและมีการกักกัน และตรวจสอบลำไยอบแห้งมากขึ้น โดยเฉพาะที่พอร์ตเซี่ยเหมินและหนิงโป ทำให้ในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมาปริมาณการนำเข้าที่พอร์ตดังกล่าวลดลงและปริมาณการนำเข้าที่พอร์ตเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้น
3.ได้มีการนำเข้าลำไยอบแห้งทางชายแดนหนานหนิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจากข้อ1 ในโอกาสต่อไป รัฐบาลจีนจะมีการตรวจสอบเข้มงวดที่ชายแดนมากขึ้นและทำให้ราคาลำไยอบแห้งสูงขึ้น
4. สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์สูงกว่าที่ทางการจีนกำหนด
การจัดระบบระเบียบตลาดการค้าให้เหมาะสม การรวมกลุ่มกันเพื่อส่งออกสินค้า เช่นการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า การจัดทำ Business matching และประชาสัมพันธ์สินค้า เช่น การจัด Road Show ในแหล่งที่มีการขายส่งสินค้าได้แก่ เมืองฉางซา มณฑลหูหนาน และเมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียง และในแหล่งที่มีการบริโภคสินค้า ได้แก่ เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเฮยหลงเจียง มณฑลอันฮุย มณฑลเจียงซู มณฑลซานตง เนื่องจากมีอากาศหนาวไม่สามารถเพาะปลูกลำไยได้
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน