สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก ใคร่ขอนำเรียนมาเผยแพร่แก่ให้ภาคเอกชนไทยมาเพื่อจะได้ทราบการตรวจสอบและสำรวจสถานะของบริษัท Expo-guide ดังรายละเอียดดังต่อไปนี้
๑. จากฐานข้อมูลที่สำนักส่งเสริมธุรกิจ SMEs เพื่อการส่งออก ได้จัดส่งข้อมูลให้สำนักงานฯ และจากการหาข้อมูลเพิ่มเติมในพื้นที่ของบริษัท Expo-guide สำนักงานฯ ได้นำมาศึกษาวิเคราะห์กิจการและลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัท Expo-guide และพบว่า มีความไม่ชอบมาพากลของการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยเป็นวิธีการทำงานโดยการเสนอบริการและการเสนอให้ร่วมเป็นสมาชิกโดยตั้งใจให้ผู้ที่สนใจหรือผู้สมัครเข้าร่วมรับบริการให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความคลาดเคลื่อนกว่าความเป็นจริง
๒. บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดทำสมุดธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต business directory online ชื่อบริษัทที่จดทะเบียนการค้าในท้องถิ่นคือบริษัท Expo Guide, S de R.L. de C.V. โดยคาดว่าจะตั้งอยู่ในประเทศเม็กซิโก วิธีการเสนอบริการทั่วไป จะกระทำโดยการส่งใบสมัครไปยังบริษัททั่วโลก ที่อยู่หรือที่ตั้งของบริษัทฯ ที่แจ้งไว้มีหลายแห่งในประเทศเม็กซิโกและในต่างประเทศอีกด้วย สำหรับ ๓ แห่งที่ระบุไว้ในข้อมูลของบริษัทฯ สำนักงานฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่ฯ ไปสำรวจที่อยู่แห่งหนึ่ง แต่ไม่พบอาคารตามที่อ้างถึง อีกแห่งหนึ่งเป็นที่อยู่ทางไปรษณีย์ P.O.BOX ส่วนที่อยู่ ณ Ave Horacio #340-3, Col Chapultepec Morales, C.P. 11570 Mexico D.F. Mexico ตั้งอยู่เป็นอาคารสูง มีผู้รักษาความปลอดภัยอาคาร ซึ่งได้แจ้งว่า มีบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่จริง นอกจากนี้ ที่อยู่ที่ระบุไว้ในต่างประเทศล้วนเป็นที่อยู่ทางไปรษณีย์ทั้งสิ้น และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเป็นลักษณะแบบ visual office เท่านั้น
๓. การหาข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัทฯ พบว่ามีรายงานของสำนักผู้คุ้มครองผู้บริโภคของคณะกรรมการการค้าแห่งชาติของประเทศเม็กซิโก Bureau of Consumer Protection The Federal Trade Comission ได้มีการลงโทษการปรับลงโทษบริษัทฯ ในปี ๒๕๕๓ เป็นเงินจำนวน ๓ ล้านเปโซ (ประมาณ ๙ แสนบาท) จากเหตุผลของการกระทำของบริษัทที่กระทำการโฆษณาหลอกลวงผู้บริโภค ตามรายละเอียดเอกสารดังแนบ ๑
๔. นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในเวปไซด์ที่มีการลิงค์ไว้อีกหลายแห่ง ซึ่งได้เปิดโปงพฤติกรรมและวิธีการการกระทำการหลอกลวงและโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้ผู้สมัครหลงเชื่อ และหากสมัครเข้าไปแล้ว ก็จะทำการออกจดหมายขู่กรรโชค โดยอ้างว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ผู้ที่หลงเชื่อตกใจและจำยอมจ่ายเงินเพื่อค่าบริการที่อ้างของบริษัทฯ โดยเวปไซด์ที่เปิดเผยข้อมูลการกระทำของบริษัท
๕. วิธีการง่ายๆ ของบริษัท คือการส่งใบสมัครไปยังบริษัทต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมในงานแสดงสินค้าทั่วโลก และเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าผู้จัดงานฯ เป็นผู้กระทำการติดต่อ หรือมอบอำนาจให้บริษัทติดต่อแทนกับผู้ร่วมงานฯ เพื่อทำโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับงานฯ แต่แท้จริงแล้ว เป็นการโฆษณาเพียงในเวปไซด์ของบริษัทฯ เท่านั้นเป็นการโฆษณาเพียงในเวปไซด์ของบริษัทฯ เท่านั้น
๖. บริษัทฯ มีเครือข่ายหรือผู้ร่วมมือในหลายประเทศ เนื่องจากการสั่งจ่ายหรือบัญชีสั่งจ่ายจะผ่านในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในยุโรปและในสหรัฐอเมริกา และในรูปแบบของหน่วยงานติดตามหนี้สิน แต่ไม่พบว่าให้มีการโอนเงินเข้าในประเทศเม็กซิโก ลักษณะการติดตามหนี้ จะกระทำแบบข่มขู่เพื่อให้มีการจ่ายเงินทันที แต่ในปัจจุบัน ก็ไม่พบหลักฐานใดหรือเอกสารใดว่า มีการติดตามหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งเชื่อได้ว่า บริษัทฯ ไม่มีหน่วยงานทางกฎหมายจริงตามที่อ้าง
๗. ในงานแสดงสินค้าบางงานฯ ผู้จัดงานฯ ได้กระทำการระบุในใบโฆษณาหรือข้อมูลของงานฯ ว่าบริษัท Expo guide มิได้เกี่ยวข้องของผู้จัดงานหรืองานแสดงสินค้า เพื่อประกาศให้สาธารณชนและผู้เข้าร่วมทราบอีกทางหนึ่ง ดังเช่นตัวอย่างการประกาศของผู้จัดงานฯ ตามรายละเอียดเอกสารดังแนบ ๓ ด้วยเหตุผลดังกล่าว สำนักงานฯ จึงได้หารือกับทนายความผู้เชี่ยวชาญในประเทศเม็กซิโกเพื่อขอสอบถามและหารือวิธีการกระทำของบริษัทดังกล่าวและได้ให้ความเห็นและการแนะนำดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
๑. คำถาม ในแง่ของการดำเนินการทางกฎหมาย
ตำตอบ : แม้ว่าบริษัทจะกระทำความผิดกฎหมาย แต่เป็นไปได้ยากและเสียเวลานานที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายกับบริษัทมดังกล่าวในประเทศเม็กซิโก เนื่องจากกฎหมายจะต้องชี้ไปหาที่ตัวบุคคลผู้กระทำความผิด ซึ่งในหนังสือบริษัทฯ ได้อ้างอิงบุคคลหนึ่งบุคคลเดียวเป็นผู้ลงนามในครั้งแรก อ้างว่าเป็นผู้บริหาร แต่การลงนามเป็นการลงนามแบบ digital signature ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนี้มีตัวตนหรือไม่
๒. คำถาม แนวทางที่สำนักงานฯ ควรติดต่อเพื่อหารือการแก้ไขปัญหาหรือไม่ และการเจรจาในเรื่องค่าใช้จ่าย
คำตอบ : ทนายฯ มีความเห็นว่าไม่ควรที่จะติดต่อกับบริษัทฯ หากมิได้เกิดความเสียหาย หรือสูญเสียเงินไปจริง เนื่องจากการหารือหรือการเจรจาใดๆ จะเป็นการยอมรับว่ามีหนี้จริง ซึ่งบริษัทดัง กล่าวจะหาวิธีการกระทำการข่มขู่กรรโขคต่อไปจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังต้องพิสูจน์ทางกฎหมายว่า บริษัทกระทำความผิดจริง เนื่องจากบริษัทได้ให้บริการไปจริงและอาจอ้างว่าได้ให้บริการไปแล้ว
ทนายฯ ยังเชื่อว่า วิธีการทำมาหากินของบริษัทฯ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการเรียกเก็บเงิน จะต้องมีบุคคลหรือหน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองอยู่ในรูปแบบขององค์กรอาชญากรรม organized crime ซึ่งประเทศเม็กซิโกมีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว ทั้งในธุรกิจค้ายาเสพติดและกิจการการค้าผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังเชื่อได้ว่า บริษัทฯ ก็คงจะมีความสามารถที่จะหลีกเลี่ยงหรือการปกป้องรักษาผลประโยชน์ทางกฎหมายของตนเอง หากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริง เช่นการดำเนินการโฆษณาในเวปไซด์ของบริษัทซึ่งถือได้ ว่าบริษัทฯ ได้ให้บริการไปแล้ว จึงสามารถที่จะเรียกร้องค่าตอบแทนจากผู้รับบริการได้ และจะต้องพิสูจน์กันในทางกฎหมาย แม้กระทั้ง การที่สำนักผู้คุ้มครองผู้บริโภคฯ ได้กระทำการปรับบริษัทฯ ไปแล้วในปี ๒๕๕๓ ก็ตาม แต่มิได้พิสูจน์ได้ว่า หรือมีหลักฐานใดว่าบริษัทดังกล่าวได้ยินยอมจ่ายเงินค่าปรับไป
๓. คำถาม บริษัทที่ได้รับผลกระทำควรจะดำเนินการอย่างไรอย่างไร
ทนายฯ แนะนำว่า ผู้ส่งออกไม่ควรสนใจ ในกรณีที่ติดต่อมาทางเมล์ก็ลบออกมา หรือกระทำการ block อีเมล์ดังกล่าวออกไป ไม่ควรติดต่อกลับหรือหารือกับบริษัทโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้มีการติดต่อของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และห้ามส่งเงินหรือโอนเงินไปให้บริษัทฯ ไปโดยเด็ดขาด เพราะจะไม่มีโอกาสที่จะได้เงินคืนจากการศึกษาวิเคราะห์ของข้อมูลทั้งหมด สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงเม็กซิโก มีความเห็นดังต่อไปนี้
๑. ผู้ส่งออกไม่ควรสนใจ ในกรณีที่ติดต่อมาทางเมล์ก็ลบออกมา หรือกระทำการ block อีเมล์ดังกล่าวออกไป ไม่ควรติดต่อกลับหรือหารือกับบริษัทโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้มีการติดต่อของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และห้ามส่งเงินหรือโอนเงินไปให้บริษัทไปโดยเด็ดขาด เพราะจะไม่มีโอกาสที่จะได้เงินคืนตามคำแนะนำของทนายฯ
๒. ตามที่สำนักฯ ได้แจ้งว่า บริษัทฯ ได้กระทำการติดโลโก้หรือชื่อกรมฯ ในหนังสือเชิญชวนแก่ผู้สนใจ ในกรณีนี้ สำนักงานฯ ใคร่ขอสำเนาหรือหลักฐานฯ มาให้สำนักงานฯ เพื่อจะได้นำไปให้ทนายความฯ พิจารณาว่า จะนำมาฟ้องร้องทางกฎหมายได้หรือไม่ แต่ทนายได้เผยว่า จะต้องใช้เวลานานและงบประมาณมากเพื่อเข้าสู่ขบวนการทางศาล โดยสิ่งที่ทนายให้ความเห็นว่า สำนักงานฯ สามารถทำหนังสือไปยังบริษัทฯ เพื่อให้เลิกการกระทำ และ/หรือห้ามการติดโลโก้หรือชื่อกรมฯ ในหนังสือของบริษัทโดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งหากยังคงกระทำอยู่ สำนักงานฯ ได้รับอำนาจเพื่อปกป้องและอำนาจในการฟ้องร้องในประเทศเม็กซิโก
๓. ทั้งนี้สำนักงานฯ ได้ขอให้หน่วยงานของกรมฯ พิจารณาเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทฯ ให้มากที่สุดว่า บริษัทฯ มิได้เกี่ยวข้องกับกรมฯ หรืองานแสดงสินค้าที่กรมฯ จัดเพื่อมิให้ผู้ส่งออกไทยตกเป็นเหยื่อของบริษัทฯ ดังกล่าวต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก