ข้อมูลทั่วไปทางสถิติ
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานตัวเลขรายได้สุทธิ(Disposable Income : รายได้ที่หักภาษีและรวมเงินอุดหนุนต่างๆแล้ว)เฉลี่ยของแต่ละมณฑลและพิ้นที่การปกครองของจีนช่วงครึ่งปีแรก ๒๕๕๕(ตัวเลขดังกล่าววัดจากประชากรในเขตเมือง) ผลปรากฎว่าจากทั้งหมด ๒๗ ภูมิภาค นครเซี่ยงไฮ้ครองอันดับเป็นเมืองที่ประชากรมีรายได้สุทธิเฉลี่ยสูงที่สุดที่ ๒๐,๖๘๙ หยวนต่อเดือน(ราว ๓,๒๖๘ เหรียญสหรัฐฯต่อเดือน) ตามมาด้วยมณฑลเจ้อเจียงเป็นอันดับสองที่ ๑๘,๘๐๒ หยวนต่อเดือน ขณะที่อันดับสามเป็นกรุงปักกิ่งที่ ๑๘,๑๕๔ หยวนต่อเดือน ส่วนอันดับที่สี่ ห้า และหก ได้แก่ มณฑลกวางตุ้ง มณฑลฝูเจี้ยน และเมืองเทียนจิน ตามลำดับ ขณะที่เขตปกครองตนเองหนิงเซียะครองอันดับสุดท้ายที่รายได้สุทธิ ๙,๒๔๙ หยวนต่อเดือน ทั้งนี้ตัวเลขรายได้สุทธิที่รายงานออกมานั้นเป็นตัวเลขที่หักอิทธิพลของเงินเฟ้อและตัวแปรรบกวนทางเศรษฐกิจอื่นออกไปแล้ว
ตารางแสดงรายได้สุทธิเฉลี่ยในครึ่งปีแรกปี ๒๕๕๕ ของประชากรจีนในแต่ละภูมิภาคและอัตราการขยายตัว
ภูมิภาค รายได้สุทธิเฉลี่ย อัตราการขยายตัว
ในครึ่งปีแรกปี ๒๕๕๕ Yoy
(หยวนต่อคน) (ร้อยละ)
Shanghai 20,689.00 8.60
Zhejiang 18,802.00 11.70
Beijing 18,154.00 11.80
Guangdong 15,778.97 13.50
Fujian 14,661.00 12.90
Tianjin 14,155.00 10.10
Chongqing 11,760.00 13.30
Liaoning 11,458.00 14.20
Hunan 10,864.00 14.20
Hubei 10,833.00 14.20
Guangxi 10,820.00 14.10
Sichuan 10,700.00 14.00
Anhui 10,691.50 14.30
Yunnan 10,442.30 14.30
Hebei 10,232.04 12.40
Jilin 9,955.90 13.70
Jiangxi 9,752.00 14.20
Ningxia 9,249.00 14.40
ที่มาของข้อมูล : สำนักงานสถิติแห่งชาติประเทศจีน
ในครึ่งปีแรก ๒๕๕๕ พบว่า รายได้สุทธิโดยเฉลี่ยของประชากรในเขตเมืองอยู่ที่ ๑๒,๕๐๙ หยวนต่อเดือน มีอัตราการขยายตัวเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกปี ๒๕๕๔ ที่ร้อยละ ๙.๗ แต่รายได้ดังกล่าวหากคิดเป็นรายได้ที่เป็นตัวเงินทั้งหมด(Nominal Term) นั่นคือยังไม่ได้หักอิทธิพลของภาษี เงินอุดหนุนต่างๆ และเงินเฟ้อแล้วจะอยู่ที่ ๑๓,๖๗๙ หยวนต่อเดือน คิดเป็นอัตรการขยายตัวที่ร้อยละ ๑๓.๓ ซึ่งจากตัวเลขรายได้สุทธิเฉลี่ยของประชากรทั้งหมดเมื่อมาเทียบกับรายได้สุทธิของแต่ละภูมิภาคจะพบว่า นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นภูมิภาครายได้สุทธิสูงสุดมีรายได้สุทธิสูงกว่าค่าเฉลี่ยประชากรทั้งหมดราว ๘๐๐ หยวน ส่วนเขตปกครองตนเองหนิงเซียะซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีรายได้สุทธิต่ำสุด ซึ่งมีรายได้สุทธิต่ำกว่าประชากรทั้งหมดกว่า ๓,๒๐๐ หยวน ทั้งนี้มีภูมิภาคที่รายได้สุทธิสูงกว่าค่าเฉลี่ย ๑๕ ภูมิภาค และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ๑๒ ภูมิภาค
ภูมิภาคต่างๆยกเว้นนครเซี่ยงไฮ้ต่างมีอัตราการขยายตัวของตัวเลขรายได้สุทธิดังกล่าวที่เกินร้อยละ ๑๐ เมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน(ปี ๒๕๕๔)ทั้งสิ้น โดยเซี่ยงไฮ้มีอัตราการขยายตัวครึ่งปีแรกที่ร้อยละ ๘.๖ ขณะที่ภูมิภาคอื่นเช่น มณฑลเจ้อเจียงมีอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ ๑๑.๗ กรุงปักกิ่งที่ร้อยละ ๑๑.๘ ส่วนภูมิภาคที่มีตัวเลขรายได้รั้งท้ายสุดอย่างเขตปกครองตนเองหนิงเซียะมีอัตราการขยายตัวถึงร้อยละ ๑๔.๔ ซึ่งหากมองความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขรายได้กับอัตราการขยายตัวจะพบว่าเป็นไปในเชิงรผกผัน กล่าวคือ ภูมิภาคที่มีรายได้สูงเป็นอันดับต้นๆ มีแนวโน้มที่จะมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำอยู่ในช่วงเข้าใกล้เลข ๑๐ ส่วนภูมิภาคที่มีรายได้ในอันดับท้ายจะมีแนวโน้มของอัตราการขยายตัวเข้าใกล้เลข ๑๕ ซึ่งนี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจจีนเนื่องจากแสดงถึงการพัฒนาของการกระจายรายได้ประชากรที่เข้าใกล้ความเท่าเทียมกันมากขึ้น
นโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและการลดหย่อนภาษีถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำต่อเดือนและการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐที่ประกาศใช้อย่างต่อเนื่องถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัยที่หนุนให้รายได้เฉลี่ยของประชากรจีนเพิ่มสูงขึ้น โดยกระทรวงการคลังของจีนออกมารายงานว่า นโยบายต่างๆที่กล่าวมาในขั้นต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อเกื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลหรือหน่วยธุรกิจรายย่อยต่างๆที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งนโยบายเหล่านั้นได้ส่งผลทำให้รายได้สุทธิของประชากรในเมือง(Urban Resident's Disposable Income)โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างเช่นในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมานั้นกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และความมั่นคงทางสังคมของจีนรายงานว่า รัฐบาลได้ประกาศให้มณฑลรวมถึงแขตปกครองต่างของจีน ๑๖ แห่งในขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกร้อยละ ๑๙.๗(ค่าเฉลี่ย) เป็นผลให้เมืองเซินเจิ้นได้รับการจัดอันดับให้มีค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุดของประเทศที่ ๑,๕๐๐ หยวนต่อเดือน ตามมาด้วยนครเซี่ยงไฮ้อยู่ที่ ๑,๔๕๐ หยวนต่อเดือน ส่วนเมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งอยู่ที่ ๑,๒๖๐ หยวนต่อเดือน ซึ่งหากวัดจากประเทศจีนโดยรวมแล้ว รายได้สุทธิของประชากรในเขตเมืองครึ่งปีแรก ๒๕๕๕ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ ๑๒,๕๐๙ หยวนต่อเดือน ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี ๒๕๕๔ ที่ร้อยละ ๑๓.๓
ที่มา : 1. www.thaibizchina.com
2. www.shanghaidaily.com
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้