1.คำนำ
กล้วยไม้ตัดดอกในสหรัฐฯ ถือเป็น Exotic Flowers ราคาสูง นิยมนำมาใช้จัดช่อดอกไม้/แจกันดอกไม้ ตกแต่งภายในและภายนอกสถานที่ ประดับเค้กแต่งงาน ประดับบนโต๊ะอาหาร และประดับจานอาหาร กล้วยไม้ตัดดอกที่ใช้ในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ไทย เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ มาเลเซียและเวียดนาม และสามารถหาซื้อได้จากฟาร์มกล้วยไม้ในสหรัฐฯ โดยรัฐที่ปลูกกล้วยไม้ในสหรัฐฯ มากที่สุด คือ แคลิฟอร์เนีย รองลงมา คือ ฟลอริดา และฮาวาย
2.ตลาดสหรัฐฯ
2.1 ตลาดในประเทศ
ช่วงที่มีการซื้อขายคึกคัก (Peak Season) คือ ช่วงวันแม่ของสหรัฐฯ (อาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม) วันวาเลนไทน์ วันคริสต์มาส งานจัดเลี้ยงต่างๆ และงานแต่งงาน ช่วงเทศกาลจัดงานแต่งงาน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน ถึง พฤศจิกายน (โดยเฉพาะเดือนมิถุนายน สิงหาคม กันยายน และตุลาคม เป็นเดือนที่นิยมจัดงานแต่งงานมากที่สุด)
พันธุ์กล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมในตลาดสหรัฐฯ ได้แก่
- Dendrobium - Cymbidium - Vanda -Oncidium - Cattaleya
- Arachnis & Arantheras - Stephanotis - Phalaenopsis - Mokaras & Arandas
2.2 ตลาดนำเข้า
มูลค่าการนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกในปี 2554 รวมทั้งสิ้น 13.55 ล้านเหรียญสหรัฐ (406.50 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ พันธุ์ Dendrobium (HS code: 0603130050) และพันธุ์ที่ไม่ใช่ Dendrobium (HS code: 0603130060)
มูลค่าการนำเข้าในช่วงเดือนม.ค. - พ.ย. 2555 เป็นมูลค่า 14.61 ล้านเหรียญสหรัฐ (438.30 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.52 โดยนำเข้าจากไทยมากที่สุด มูลค่า 8.46 ล้านเหรียญสหรัฐ (253.80 ล้านบาท) หรือ มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 57.91 ของการนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกของสหรัฐฯ โดยแบ่ง
- เป็นพันธุ์ Dendrobium มูลค่า 8.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (240.30 ล้านบาท) โดยนำเข้าจากไทยมากที่สุด มูลค่า 7.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (230.70 ล้านบาท) คิดเป็น 95.90% ของการนำเข้าจากทั่วโลก รองลงมา ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ (3.09%) ปานามา (0.50%) และสิงคโปร์ (0.26%)
- พันธุ์ที่ไม่ใช่ Dendrobium มูลค่า 6.60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (198 ล้านบาท) โดยนำเข้าจาก เนเธอร์แลนด์มากที่สุด มูลค่า 4.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (122.10 ล้านบาท) คิดเป็น 61.62% ของการนำเข้าจากทั่วโลก รองลงมา ได้แก่ นิวซีแลนด์ (12.15%) ไทย (11.78%) และมาเลเซีย (9.09%)
- 6 ประเทศแรกที่สหรัฐฯ นำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกมากที่สุด ได้แก่ ไทย (57.91 %) เนเธอร์แลนด์ (29.52 %) นิวซีแลนด์ (5.50 %) มาเลเซีย (4.18 %) เวียดนาม (0.95 %) และ ไต้หวัน (0.78 %)
ตารางที่ 1: มูลค่าการนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกในสหรัฐฯ
กล้วยไม้ตัดดอก (Fresh Cut Orchids; HS 06.03.1300)
มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ)
ม.ค. - ธ.ค. ม.ค. - พ.ย. % ส่วนแบ่งตลาด % อัตราการเปลี่ยนแปลง ลำดับที่ ประเทศ 2554 2554 2555 2555 ม.ค.-พ.ย.55/54 ทั่วโลก 13.55 12.54 14.61 100 16.52 1 ไทย 6.63 6.21 8.46 57.91 36.38 2 เนเธอร์แลนด์ 4.86 4.35 4.31 29.52 -0.76 3 นิวซีแลนด์ 0.9 0.9 0.80 5.50 -10.28 4 มาเลเซีย 0.69 0.65 0.61 4.18 -5.36 5 เวียดนาม 0.19 0.17 0.14 0.95 -15.76 6 ไต้หวัน 0.14 0.14 0.11 0.78 -15.65 อื่นๆ 0.14 0.12 0.18 1.23 50.00 Source of Data: U.S. Dept. of Commerce, Bureau of Census (World Trade Atlas) ตารางที่ 2:มูลค่าการนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอก พันธุ์ Dendrobium ในสหรัฐฯ กล้วยไม้ตัดดอกพันธุ์ Dendrobium ( HS 0603130050) มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ) ม.ค. - ธ.ค. ม.ค. - พ.ย. % ส่วนแบ่งตลาด % อัตราการเปลี่ยนแปลง ลำดับที่ ประเทศ 2554 2554 2555 2555 ม.ค.-พ.ย.55/54 ทั่วโลก 6.241 5.821 8.013 100.00 37.65 1 ไทย 5.786 5.396 7.685 95.90 42.4 2 เนเธอร์แลนด์ 0.422 0.392 0.247 3.09 -36.95 3 ปานามา 0.004 0.004 0.040 0.50 878.38 4 สิงคโปร์ 0.011 0.011 0.021 0.26 96.84 อื่นๆ 0.018 0.018 0.02 0.25 10.00 Source of Data: U.S. Dept. of Commerce, Bureau of Census (World Trade Atlas) ตารางที่ 3: มูลค่าการนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกพันธุ์ที่ไม่ใช่ Dendrobium ในสหรัฐฯ กล้วยไม้ตัดดอกพันธุ์ที่ไม่ใช่ Dendrobium ( HS 0603130060) มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ) ม.ค. - ธ.ค. ม.ค. - พ.ย. % ส่วนแบ่งตลาด % อัตราการเปลี่ยนแปลง ลำดับที่ ประเทศ 2554 2554 2555 2555 ม.ค.-พ.ย.55/54 ทั่วโลก 7.305 6.719 6.599 100.00 -1.78 1 เนเธอร์แลนด์ 4.436 3.954 4.067 61.62 2.83 2 นิวซีแลนด์ 0.891 0.891 0.802 12.15 -10.07 3 ไทย 0.845 0.808 0.777 11.78 -3.83 4 มาเลเซีย 0.691 0.645 0.600 9.09 -7.07 อื่นๆ 0.442 0.421 0.353 5.35 -19.26 Source of Data: U.S. Dept. of Commerce, Bureau of Census (World Trade Atlas) 3.คู่แข่ง คู่แข่งทางการค้าของไทย คือ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมการปลูกและส่งออกดอกไม้สด เนื่องจาก มีคุณภาพ สีสันสวยงาม คงทน และหน่วยงาน USDA ของสหรัฐฯ จัดให้กล้วยไม้ตัดดอกจากเนเธอร์แลนด์อยู่ในกลุ่มที่มีความ เสี่ยงต่ำ (Low) ในการพบแมลงศัตรูพืชปะปนในดอกไม้ สำหรับกล้วยไม้ตัดดอกจากไทย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง (High) ในการพบแมลงศัตรูพืชปะปนในดอกไม้ 4.ช่องทางการจัดจำหน่าย ผู้นำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกในสหรัฐฯ จะส่งจำหน่ายให้ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าส่งจะส่งจำหน่ายให้แก่ผู้ค้าปลีก เช่น ร้านดอกไม้ (Florist) โรงแรม นักออกแบบการจัดดอกไม้ นักออกแบบงานแต่งงานและสถานจัดเลี้ยงต่างๆ ผู้ให้บริการจัด/ส่งช่อดอกไม้ ร้านอาหาร และร้านรับทำเค้กแต่งงาน เป็นต้น 5. กฎระเบียบการนำเข้า 5.1 USDA การนำเข้าสินค้าพืชและผลิตภัณฑ์พืชเข้าสหรัฐฯ อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงาน Animal and Plant Health Inspection Service (APHIS ), United States Department of Agriculture (USDA ) โดย APHIS เป็นผู้จัดทำโปรแกรมการควบคุมและกักกันพืช (Plant Protection and Quarantine หรือ PPQ Program) โปรแกรมการตรวจสอบล่วงหน้า (Preclearance Inspection) และการกำจัดแมลง (Treatment) ณ จุดนำเข้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคหรือแมลงศัตรูพืชจากต่างประเทศ และเนื่องจากกล้วยไม้ถือว่าเป็นพืชพันธุ์สงวน การนำเข้ากล้วยไม้จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของ The Convention on International Trade in Endangered Species (CITES ) ซึ่งเป็นอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ขั้นตอนการนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอก 1.กล้วยไม้ตัดดอกที่นำเข้าสหรัฐฯ จะต้องเป็นชนิดที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าได้จาก CITES 2.ผู้นำเข้าต้องขอใบอนุญาตการขนส่งพืชและผลิตภัณฑ์เข้าสหรัฐฯ (หรือ PPQ Permits) โดยกรอกแบบฟอร์ม PPQ 587 และขอใบอนุญาตนำเข้าเพิ่มเติมกรณีนำเข้าพืชพันธุ์สงวน (PPQ Form 621) โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 70 เหรียญสหรัฐฯ มีกำหนดอายุ 2 ปีนับจากวันที่ออกใบอนุญาต ผู้นำเข้าสามารถลงทะเบียนและกรอกข้อมูลออนไลน์ผ่าน "e-permits " ของ USDA หรือส่งทางไปรษณีย์ 3.จัดเตรียมเอกสารและข้อมูลต่างๆ เช่น Air Way Bill, Packing List, Invoice, Phytosanitary Certificate , Notice of Arrival, Preclearance Form (PPQ 203) ลักษณะการใช้ของสินค้า (เช่น ดอกไม้สด) จุดปลายทางของสินค้า(Destination) แหล่งปลูก/กำเนิดสินค้า ชื่อวิทยาศาสตร์ของสินค้า วัตถุประสงค์ในการนำเข้า (เชิงพาณิชย์หรือไม่ใช่พาณิชย์) 4.การนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกทุก Shipment ต้องผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจ (Inspector) ณ จุดนำเข้า ถ้าผู้ตรวจพบแมลงหรือเชื้อโรคที่ปะปนมากับดอกไม้ ผู้ตรวจจะส่ง "Emergency Action Notification (PPQ Form 523)" ให้แก่ผู้นำเข้า เพื่อทำความสะอาด กำจัดแมลงและเชื้อโรค ทำลายสินค้า หรือส่งสินค้ากลับคืน โดยผู้นำเข้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับการกำจัดแมลง/ทำลายสินค้า หรือส่งกลับ 5.ถ้าผู้ตรวจพบแมลง ชนิด "Agromyzides" จะทำการรมควัน (Fumigation) ด้วยสาร Methyl bromide ท่าอากาศยานที่มีการนำเข้า/ตรวจสอบกล้วยไม้ตัดดอกเข้าสหรัฐฯ เมืองท่า โทร. Brownsville, Texas 956-548-2543 El Paso, Texas 915-872-4720/ 22 Honolulu, Hawaii 808-861-8492 Houston, Texas 281-443-2063 Linden, New Jersey 908-862-2012 Los Angeles, California 310-215-2120 Miami, Florida 305-526-2825 New Orleans, Louisiana 504-589-6731 New York, New York 718-553-1732 Nogales, Arizona 520-287-4783/ 84 Orlando, Florida 407-648-6856 San Diego, California 619-662-7333 San Francisco, California 650-876-9093 San Juan, Puerto Rico 787-253-4699 Seattle, Washington 206-764-6547 ด่านนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกมากที่สุด ได้แก่ ด่านลอสแอนเจลีส ฮอนโนลูลู ไมอามี นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก 5.2 ภาษีการนำเข้า / สิทธิ GSP กล้วยไม้ตัดดอกของไทยจัดอยู่ในรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ไม่เสียภาษีนำเข้า (โดยทั่วไป ภาษีนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอก ร้อยละ 6.4) 6. SWOT สถานะการค้ากล้วยไม้สดไทยในสหรัฐฯ จุดแข็ง (Strength) 1. ไทยสามารถผลิตดอกกล้วยไม้ได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศและความชื้นเหมาะสม 2. กล้วยไม้ไทยมีคุณภาพ ราคาเหมาะสม เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิต และการบรรจุ (Packing) สินค้า 3. ไทยมีกล้วยไม้หลากหลายพันธุ์ที่มีสีสันสวยงาม คงทน จุดอ่อน (Weakness) 1. ผู้ส่งออกไทยขาดความสม่ำเสมอในการควบคุมคุณภาพกล้วยไม้ โดยปัญหาที่พบบ่อยครั้ง ได้แก่ แมลงศัตรูพืชที่ปะปนมากับดอกไม้ และการควบคุมความชื้นในขณะบรรจุสินค้าในกล่อง ซึ่งส่งผลให้ดอกไม้เหี่ยว เก็บไว้ไม่นาน และเน่าเสียง่าย 2. ผู้ส่งออกไทยบางรายขึ้นราคาสินค้าเกินควรในช่วงเทศกาลที่ต้องการนำเข้าสินค้ามาก ทำให้ผู้นำเข้าหันไปซื้อสินค้าจากประเทศอื่นแทน หรืองดการนำเข้าสินค้านี้ชั่วคราว ส่งผลให้เสียโอกาสทางการค้าในอนาคต โอกาสทางการค้า (Opportunities) 1. ไทยได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) ทำให้ราคากล้วยไม้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ได้ 2. สหรัฐฯ ไม่สามารถปลูกกล้วยไม้บางพันธุ์ได้ จึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ (รวมทั้งจากไทย) 3. สหรัฐฯ มีต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตและบรรจุกล้วยไม้ ตัดดอกสูง จึงทำให้การนำเข้ามีราคาถูกกว่า อุปสรรคทางการค้า (Threat) การเข้มงวดในการควบคุมแมลงศัตรู/เชื้อโรคที่ปนในดอกกล้วยไม้จากหน่วยงาน USDA และ APHIS โดย USDA ระบุกล้วยไม้ไทยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่พบแมลงศัตรูพืช 7. ปัญหาที่ผู้นำเข้าประสบในการนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอกจากไทย 7.1 คุณภาพสินค้าไม่สม่ำเสมอ 7.2 ปริมาณ (Supply) กล้วยไม้ไทยไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ราคาขึ้นลงแตกต่างกันมาก เนื่องจากแต่ละฟาร์มกล้วยไม้มีวงจรการปลูกและตัดกล้วยไม้ รวมทั้งพักฟื้นต้นกล้วยไม้ในเวลาใกล้เคียงกัน ส่งผลให้สินค้าบางครั้งล้นตลาด (ราคาตก) และบางครั้งขาดตลาด (ราคาแพง) 7.3 ผู้ส่งออกบางรายขึ้นราคาเกินควรในช่วงเทศกาล ซึ่งผู้นำเข้าต้องการสินค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้นำเข้าหันไปสั่งซื้อสินค้าจากประเทศอื่นแทน หรืองดการนำเข้าพันธุ์กล้วยไม้นี้ชั่วคราว 7.4 การรมควันกล้วยไม้ตัดดอกจากไทยยังพบปัญหาเรื่องการกำจัดแมลงศัตรูพืชที่ปะปนมากับกล้วยไม้ ซึ่งหากไม่ผ่านมาตรฐานของ APHIS (Animal and Plant Health Inspection Service) และมีการตรวจพบ จะสั่งให้ทำลายทิ้งทันที ซึ่งมีค่าใช้จ่ายครั้งละประมาณ 1,000 เหรียญสหรัฐ 8. ปัญหาที่ผู้ส่งออกไทยประสบในการส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกเข้าสหรัฐฯ เงื่อนไขการชำระเงินในปัจจุบัน เป็นแบบ Credit Term ซึ่งผู้ส่งออกไทยบางรายเจอปัญหาการชำระเงินล่าช้า หรือหลีกเลี่ยงการชำระเงินของผู้นำเข้าดอกกล้วยไม้สด โดยอ้างว่าสินค้าเสียหายแต่ไม่ส่งหลักฐานแสดงสินค้าที่เสียหายให้แก่ผู้ส่งออกไทย ทำให้การติดตามการชำระหนี้ของผู้ส่งออกไทยเป็นไปอย่างยากลำบาก 9.แนวทางการส่งเสริมการส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกไทย 9.1 กรมฯ ควรแนะนำผู้ส่งออกไทยควรพิจารณาทำการค้ากับผู้นำเข้าดอกไม้สดที่เชื่อถือได้เท่านั้น 9.2 สคร. ช่วยเหลือการจัดทำ Business Matching ให้ผู้ประกอบการไทยกับผู้นำเข้าในสหรัฐฯ 9.3 เข้าร่วมงานแสดงสินค้าดอกไม้ (Floral Expo) ในนามของสมาคมฯ หรือหน่วยงานราชการไทย ดังนี้ - งาน 68 th Santa Barbara International Orchid Show วันที่ 8-10 มีนาคม 2556 เมืองซานตา บาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย Website: http://www.sborchidshow.com - งาน World Floral Expo 2013 วันที่ 13-15 มีนาคม 2556 เมืองนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก Website: http://www.hppexhibitions.com/floriculture/2013/nyc - งาน International Floriculture Expo 2013 วันที่ 19-21 มิถุนายน 2556 เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา Website: http://www.floriexpo.com 10. รายชื่อผู้นำเข้าในสหรัฐฯ ในเขตดูแลของสคร.ไมอามี 10.1 N&N Orchids Inc. Contact: Mr. Verapong Halelamien 2200 NW 102 Ave. Unit #1, Miami, FL 33172 USA Tel: (+1) 305-406-3766 Fax: (+1) 305-718-8488 Email: admin@nnorchid.com ; villy@nnorchid.com Website: www.nnorchid.com 10.2 Bangkok Orchids Inc. Contact: Mr. Steve Ninchavee 7333 NW 56 Street, Miami, FL 33166 USA Tel: (+1) 305-887-3000 Email: bangkokorchids@bellsouth.net 10.3 National Orchids, Inc. 6911 NW 46 Street, Miami, FL 33166 USA Tel: (+1) 305-436-5678 Fax: (+1) 305-436-7989 Email: dendro@aol.com Website: www.orchidsfromthailand.com 10.4 Mayesh Wholesale Florist, Inc. - Miami 1406 NW 82 nd Avenue, Miami, FL 33126 USA Tel: (+1) 305-468-9847 Fax: (+1) 305-468-9453 Website: www.mayesh.com 10.5 Bangjong Orchids (เน้นนำเข้าต้นกล้วยไม้) Mr. Banjong Mianmanus 17720 SW 218th St., Miami, FL 33170 USA Tel: 305-247-8854 Fax: 786-243-1899 Email: bangjong_orchids@hotmail.com 11. หน่วยงานราชการของไทยในสหรัฐฯ (ด้านการเกษตร) ดร.อดิศร พร้อมเทพ อัครราชทูต (ฝ่ายการเกษตร) สำนักที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. Office of Agricultural Affairs Royal Thai Embassy, Washington D.C. 1024 Wisconsin Ave., Washington D.C. 20007 USA Tel: (+1) 202-338-1543 Fax: (+1) 202-338-1549 Email: moacdc@thaiembdc.org Website: http://moacdc.thaiembdc.org/htmls/aboutus.html แหล่งข้อมูล: 1.About flowers: www.aboutflowers.com 2.Orchid Research Program: http://www.hrt.msu.edu/faculty/Runkle/Orchid/Orchid_Research.htm 3.USDA Cut Flowers and Greenery Manual : http://www.aphis.usda.gov/import_export/plants/manuals/ports/downloads/cut_flower_imports.pdf 4.CITES: http://www.aphis.usda.gov/import_export/plants/plant_imports/cites_endangered_plants.shtml ; http://www.cites.org/eng/app/appendices.php 5.USDA designated ports: http://www.aphis.usda.gov/import_export/plants/plant_imports/downloads/list.pdf 6.Importing orchids: http://www.chaoticexotics.biz/importing.pdf สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เมืองไมอามี