สมาคมผู้ผลิตเนื้อสัตว์เยอรมันกล่าวไว้ในรายงานประจำปีของสมาคมว่าในปี 2011 และ 2012 การบริโภคเนื้อสัตว์ในเยอรมนีค่อนข้างซบเซา การนำเข้าลดลง แต่การส่งออกเนื้อสัตว์ได้ขยายตัวขึ้น การบริโภคเนื้อสัตว์ต่อหัวลดลง 300 กรัมต่อคนเมื่อเทียบกับปี 2010 แต่การบริโภคเนื้อสัตว์ปีกต่อหัวเพิ่มขึ้น 100 กรัมต่อคน
เนื้อหมู 39.0 kg สัตว์ปีก 11,2 kg เนื้อวัวและลูกวัว 9.0 kg อื่นๆ 1.0 kg แพะ และ แกะ 0.6 kg เครื่องใน 0.2 kg เนื้อม้า 0.0 kg จาก Geschไftsbericht der Deutschen Fleischer-Verband 2011-2012 ประเภทและชนิดของเนื้อไก่ส่งออก
1. ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง มีสัดส่วนการส่งออกประมาณร้อยละ 70 ของมูลค่า การส่งออกทั้งหมด โดยจะใช้ไก่ทั้งตัวมาชำแหละเป็นชิ้นส่วน ได้แก่ หัว คอ ขา น่อง สะโพก ปีก อก และเครื่องใน ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งออกเป็นเนื้อไก่ถอดกระดูก ส่วนการ ส่งออกไก่ชำแหละแช่แข็งทั้งตัว มีสัดส่วนน้อยมาก เนื่องจากไทยมีต้นทุนการผลิตด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงกว่าคู่แข่งที่สำคัญคือ สหรัฐอเมริกา
2. ไก่แปรรูป มีสัดส่วนการส่งออกประมาณร้อยละ 30 ของมูลค่าการส่งออก ทั้งหมด สินค้าไก่แปรรูปส่งออกของไทย ประกอบด้วย ไก่ชุบแป้งทอดแบบญี่ปุ่น ขาไก่ย่าง ลูกชิ้นไก่ ไก่เสียบไม้ย่าง อกไก่ทอด นักเก็ตไก่ สเต็กไก่ แกงไก่ต่างๆ เป็นต้น
ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งออกเป็นอาหารแช่แข็ง ซึ่งผู้บริโภคสามารถไปอุ่นรับประทานได้ทันที
ตลาดส่งออกหลักได้แก่ ญี่ปุ่น (ร้อยละ 53.06) สหราชอาณาจักร (ร้อยละ 14.95) เนเธอร์แลนด์ (ร้อยละ 9.60) เยอรมนี (ร้อยละ 9.00) เกาหลีใต้ (ร้อยละ 4.54) ตลาดที่มีศักยภาพในการส่งออกได้แก่ ไอร์แลนด์ เดนมาร์ก ตะวันออกกลาง เอเซียใต้ และแคนาดา
ปัจจุบันการส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูปต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่สูงมาก โดยเฉพาะในด้านราคาจากประเทศคู่แข่งที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า อาทิ บราซิล และจีน รวมถึงในปีนี้มีผลผลิตไก่ในตลาดโลกมากและผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าในสหภาพยุโรป ส่งผลให้ราคาไก่ส่งออกตกต่ำมากที่สุดในรอบหลายปี
ตั่งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2555 สหภาพยุโรปได้ยกเลิกการห้ามนำเข้าไก่สดที่ชำแหละแล้ว จึงทำให้ภาพรวมของการนำเข้าไก่ชนิดนี้ของเยอรมนี กระเตื่องขึ้นเล็กน้อย คาดว่าทางเยอรมนียังรอดูอยู่ว่า ความเป็นไปของสถานการณ์ของอุตสาหกรรมไทยว่าจะดำเนินไปทางใด จะมีปัญหาไข้หวัดนกซ้ำรอยอีกหรือไม่
สหฟาร์ม บริษัทส่งออกไก่ขนาดใหญ่ประสบภาวะขาดทุนหนักมาก เนื่องจากบริหารการเงินผิดพลาด โดย 2-3 ปีก่อนได้ตั้งราคาส่งออกต่ำเกินไป ปัจจุบัน บริษัทไม่ได้จ่ายเงินค่าจ้างพนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว แรงงานเหล่านี้จึงรวมตัวกันประท้วง จนเรื่องไปถึง NGO ว่าไทยกดขี่แรงงานต่างด้าว จนสมาคม กระทรวงต่างๆ ต้องหาแนวทางแก้ปัญหา กอบกู้ภาพลักษณ์ในขณะนี้ นอกจากนี้ จีนมีไข้หวัดนกระบาด ซึ่งโรคยังไม่ถึงไทย แต่ผู้นำเข้าบางรายยังลังเลไม่สั่งซื้อสินค้า เนื่องจากจีนอยู่ใกล้ไทย จึงเกรงว่าอาจเกิดเหตุการณ์เดียวกับเมื่อหลายปีก่อน ที่ไข้หวัดนกก็ระบาดมาถึงไทย
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน