มาตรการการปรับปรุงเพื่อลดหนี้สาธารณะและการขาดดุลของรัฐบาลสร้างความหนักใจให้กับมาเลเซียไม่น้อย ถึงแม้ว่าความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียถูกคาดว่าจะโตขึ้นใน ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เนื่องจากความเข้มแข็งของการลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชน Lee Heng Guie นักวิจัยทางเศรษฐกิจของ CIMB Investment Bank Bhd กล่าวว่า ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย รวมทั้งมาเลเซียอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ดังที่นักกำหนดนโยบายกำลังตกที่นั่งลำบากในการตอบสนองความสมดุลของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพในตลาดตราสารหนี้และสกุลเงิน ซึ่งการไหลออกของเงินทุนก็ยังมีขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นความท้าทายของนักกำหนดนโยบาย โดยเฉพาะในการจัดการการเปลี่ยนแปลงซึ่งถือเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากสภาพคล่องและการไหลข้าวของเงินทุนจากทั่วโลกได้เริ่มถดถอยลง ความท้าทายของนักกำหนดนโยบายในตลาดเกิดใหม่ในขณะนี้ คือ การจัดการกับความกดดันของอัตราดอกเบี้ยและสกุลเงิน
ในกรณีของมาเลเซียนั้น ความจำเป็นในการสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจโดยการลดค่าใช้จ่ายเพื่อลดหนี้สาธารณะและการขาดดุลของรัฐบาลอาจจะสร้างความชะงักต่อการลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชนซึ่งมีความแข็งแรงอยู่แล้ว ในขณะนี้ Ho Woei Chen นักเศรษฐศาสตร์ของ United Overseas Bank Ltd คาดว่า การลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชนจะได้ผลกระทบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับใช้มาตรการซึ่งจะถูกประกาศขึ้นในช่วงของการบันทึกรายการงบประมาณ ปี 2014 ในวันที่ 25 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ โดยมาตรการดังกล่าวจะถ่วงน้ำหนักในการลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชน ขณะนี้ รัฐบาลมาเลเซียได้เริ่มดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้ โดยการเพิ่มราคาน้ำมันเบนซิล 95 และดีเซล 20 เซ็นต์ต่อลิตร นักเศรษฐศาสตร์ เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ รัฐบาลมาเลเซียต้องประกาศการดำเนินการเก็บภาษีสินค้าและบริการ
ประเทศมาเลเซีย สคร.กัวลาลัมเปอร์
สำนักพัฒนาตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชีย (สพอ.) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
Email : intmk@ditp.go.th Website : www.ditp.go.th