จากการประกาศมาตรการปิดถนนของฝ่ายค้านรัฐบาล คือ พรรคชาตินิยมบังคลาเทศ (Bangladesh Nationalist Party: BNP) และพันธมิตร ส่งผลให้
นักธุรกิจในประเทศ และผู้ส่งออกจำนวนมากมีปัญหาการขนส่งสินค้า รถบรรทุกข้าวและสิ่งของอุปโภคบริโภคซึ่งไม่สามารถส่งสินค้าไปถึงที่หมายได้ ส่งผลให้ราคาสินค้ามีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากหลายบริษัทปล่อยรถขนส่งสินค้าไปก่อนหน้าการประกาศมาตรการปิดถนนแล้ว โดยบริษัท Mohammadi Group ผู้ส่งออกสินค้าสิ่งทอได้จ้างรถตู้เพื่อขนส่งสินค้าจำนวน 13 คัน ในอัตรา 40,000 ดากา ซึ่งสูงกว่าอัตราปกติกว่า 2 เท่า แต่ต้องเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้าจากโรงงานไปยังท่าเรือจิตตะกองหลังจากที่มีการประกาศปิดถนน อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังพยายามเจรจากับคู่ค้าขอเพิ่มระยะเวลาในการส่งสินค้า ซึ่งหากคู่ค้าไม่ยินยอม บริษัทจำเป็นต้องขนส่งสินค้าทางอากาศซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านโรงงานที่ต้องนำวัตถุดิบนำเข้าจากท่าเรือมาใช้ในการผลิตด้วย โดยบริษัทส่วนใหญ่ได้ระงับแผนการขนส่งสินค้าไปยังศูนย์กระจายสินค้าแล้ว แต่หากสถานการณ์ไม่ยุติจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมาก เนื่องจากสินค้าในสต็อกศูนย์กระจายสินค้ามีไม่เพียงพอ
ด้านอุตสาหกรรมในประเทศ อาทิ ปศุสัตว์ฟาร์มไก่ก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองอย่างหนักเช่นกัน โดยตลอดระยะเวลา 3 เดือน ที่เกิดเหตุรุนแรงทางการเมือง อุตสาหกรรมเสียหายไปแล้วคิดเป็นมูลค่า 4 หมื่นล้านดากา เนื่องจากปัญหาด้าน supply chain และจากมาตรการปิดถนนส่งผลให้เกษตรกรเลี้ยงไก่ ต้องทำลายไข่และลูกเจี๊ยบทุกสัปดาห์ คิดเป็นมูลค่า 200.47 ล้านดากา เพราะผลกระทบจากการปิดถนนทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของเกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากค่าขนส่งที่สูงขึ้น แต่จำหน่ายสินค้าได้ในราคาต่ำลง โดยไก่ต้มสุกมีราคา 70-80 ดากา/กิโลกรัม จากปกติราคา 110-120 ดากา/กิโลกรัม และจำหน่ายลูกเจี๊ยบในราคา 15-20 ดากา ทั้งที่มีราคาต้นทุนขั้นต่ำที่ 35 ดากา แต่ผู้ค้าปลีกกลับนำสินค้ามาจำหน่ายในราคาสูงกว่าปกติ
นอกจากนี้ ภาวะดังกล่าวยังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของบังคลาเทศเพิ่มสูงขึ้นอีกร้อยละ 0.12 จากอัตราร้อยละ 7.03 เป็นอัตราร้อยละ 7.15 โดยในเขตชนบทจะมีอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าในเมือง
ประเทศบังคลาเทศ สคร. ธากา
Email: newmarket@ditp.go.th Website: www.ditp.go.th
--สำนักพัฒนาตลาดใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ--