น้ำตาลควรเป็นสินค้ายุทธศาสตร์แห่งชาติจีนที่เทียบเท่าข้าว ฝ้ายและน้ำมันเพื่อการบริโภค

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 12, 2014 14:31 —กรมส่งเสริมการส่งออก

กว่างซีเป็นแหล่งปลูกอ้อยที่ใหญ่สุดของจีนซึ่งผลิตน้ำตาลได้ร้อยละ 60 ของจีนโดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน - มกราคมของแต่ละปีจะเป็นฤดูการหีบอ้อยของกว่างซี แต่ปัจจุบัน เนื่องจากกำลังการผลิตอ้อยต่ำต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น การเกิดภัยธรรมชาติ และราคาน้ำตาลต่างประเทศลดลง ทำให้บริษัทที่ผลิตน้ำตาลของกว่างซีทยอยขาดทุน

ผู้แทนฯของกว่างซีรายงานว่า ธุรกิจน้ำตาลเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารรวมทั้งเป็นสินค้าบริโภคที่จำเป็นของประชาชนด้วยในขณะเดียวกัน ธุรกิจน้ำตาลยังเป็นอุตสาหกรรมสำคัญและทำรายได้หลักให้แก่ มณฑลภาคใต้ที่ห่างไกลจากส่วนกลาง เช่น กว่างซีและยูนนาน นอกจากนี้ ยังมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่อ้อย 40 ล้านคนของจีน

ปัจจุบัน เนื่องจากธุรกิจน้ำตาลของโลกอยู่ในภาวะตกต่ำจึงส่งผลกระทบต่อธุรกิจน้ำตาลในจีนด้วย "หากอาศัยกำลังของตนเอง กว่างซีคงบรรลุเป้าหมายดังกล่าวยากมาก" ผู้แทนฯ กว่างซีกล่าวว่า น้ำตาลควรเป็นสินค้ายุทธศาสตร์แห่งชาติที่เทียบเท่ากับข้าว ฝ้าย น้ำมันเพื่อการบริโภค และหวังว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจน้ำตาล เช่น การควบคุมตลาดโดยรวมการเพาะปลูกอ้อยการผลิตน้ำตาล เป็นต้น

นอกจากนี้ ความพยายามในการปรับปรุงระบบควบคุมตลาดที่ทำให้ราคาน้ำตาลมีเสถียรภาพ เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของชาวไร่อ้อย ส่งเสริมการสร้างฐานวัตถุดิบการผลิตน้ำตาล และพัฒนาบริษัทที่ผลิตน้ำตาลของกว่างซี สนับสนุนให้มีการอุดหนุนการเพาะปลูกอ้อยโดยอ้างอิงจากมาตรการอุดหนุนการเพาะปลูกข้าว รวมทั้งสนับสนุนให้มีการอุดหนุนการสำรองน้ำตาลของกว่างซี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวไร่อ้อยและบริษัทผลิตน้ำตาล

ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สคร. หนานหนิง

สำนักพัฒนาตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชีย (สออ.) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

Email : intmk@ditp.go.th Website : www.ditp.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ