จากการที่เกิดวิกฤตโรคท้องร่วงระบาดในลูก
สุกรของ
ไต้หวันตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีลูก
สุกรเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 2.2 แสนตัว และส่งผลให้ราคาเนื้อ
สุกรใน
ไต้หวันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายเฉินเหวินเต๋อ รอง
ประธานสภาเกษตร
ไต้หวันได้ชี้แจงว่า สภาเกษตรจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบว่ามีการกักตุนสินค้าเพื่อปั่นราคาให้สูงขึ้น และมีการเจรจากับกระทรวงการคลังเพื่อขอให้ลดภาษีนำเข้าสินค้าเนื้อ
สุกรเป็นกรณีพิเศษจากร้อยละ 12.5 ให้เหลือร้อยละ 6.25 โดยจะมอบหมายให้ National Animal Industry Foundation (NAIF) เป็นผู้นำเข้าในปริมาณ 3,000 ตัน เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนเนื้อ
สุกรในประเทศ และหากทุกอย่างราบรื่นคาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยนำเข้าได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม นายพานม่งอัน สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรคฝ่ายค้าน (DPP) แย้งว่า การแก้ปัญหาเนื้อสุกรในประเทศขาดแคลนด้วยการลดภาษีนำเข้าให้กับเนื้อสุกรนำเข้าถือเป็นการทำร้ายเกษตรผู้เลี้ยงสุกรโดยตรง ควรจะลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในส่วนของสินค้าข้าวโพดสำหรับเลี้ยงสัตว์จะทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์มากกว่า
ประเทศไต้หวัน สคร. มะนิลา
สำนักพัฒนาตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชีย (สออ.) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
Email : intmk@ditp.go.th Website : www.ditp.go.th