หลังจากที่รัฐบาลไต้หวันประกาศห้ามร้านค้าทั่วประเทศให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นายหลี่อิ้งหยวน รัฐมนตรีทบวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไต้หวันได้ประกาศว่า รัฐบาลไต้หวันจะยกระดับการจำกัดการใช้งานพลาสติกเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป จะห้ามร้านอาหารขนาดใหญ่และร้านเชนสโตร์ นำหลอดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งมาให้บริการกับลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้าน โดยจะต้องใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เท่านั้น ซึ่งในทันทีที่มีการบังคับใช้ระเบียบนี้ จะทำให้ไต้หวันเป็นที่แรกในโลกที่มีการห้ามใช้หลอดพลาสติก
ทั้งนี้ KFC, Wang Steak, Mr. Brown Coffee, รวมไปจนถึง Mc Donald ต่างก็ออกมาให้ความเห็น เกี่ยวกับระเบียบใหม่นี้ว่า ทางบริษัทยินดีให้ความร่วมมือกับนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ซึ่งทาง Mc Donald ชี้ว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เป็นต้นมา ทางบริษัทได้ออกแบบถุงผ้าที่ใช้ได้หลายครั้ง เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าสำหรับนำไปใช้ในการจับจ่ายซื้อของ ในขณะที่ Mr. Brown ร้านกาแฟชื่อดังของไต้หวัน ก็ชี้ว่า ทางบริษัทฯ ได้ใช้แก้วและจานชามที่ทำจากเซรามิกส์สำหรับให้บริการลูกค้าในร้านอยู่แล้ว ส่วนลูกค้าที่ซื้อกลับบ้าน หากเตรียมแก้วมาเองก็จะลดราคาให้ แต่ทาง Starbucks ชี้ว่า ในชั้นนี้ทางบริษัทฯยังไม่ทราบรายละเอียดต่างๆ ของระเบียบนี้ จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ได้
โดยหลอดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งถือเป็นเศษขยะที่มีผลต่อมลภาวะในท้องทะเลเป็นอย่างมาก ทบวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไต้หวันจึงได้มีมาตรการเพื่อลดมลภาวะที่จะเกิดขึ้น โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในปี2030 จะห้ามการใช้งานผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติกสำหรับใส่ของ ภาชนะพลาสติกสำหรับรับประทานอาหาร แก้วพลาสติก รวมไปจนถึงหลอดพลาสติก ซึ่งตามแผนการที่วางไว้ คือ ภายในปี 2020 จะมีการห้ามใช้ถุงพลาสติกในร้านค้าที่ต้องออกใบเสร็จรับเงินแบบรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและห้ามใช้งานภาชนะสำหรับใส่อาหาร รวมถึงหลอดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ ภายในร้าน ภายในปี 2025 จะมีการจำกัดการใช้งานภาชนะและหลอดพลาสติกทั้งหมด และภายในปี 2030 จะห้ามการใช้งานทั้งหมด
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขก็ได้ออกมาชี้ว่า ในตอนแรกที่มีการรณรงค์ให้ใช้งานภาชนะบรรจุอาหารแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อแก้ปัญหาด้านสุขอนามัย ดังนั้น หากมีการห้ามใช้งานภาชนะบรรจุอาหารแบบใช้แล้วทิ้งทั้งหมด บรรดาร้านค้าและร้นอาหารต่างๆ ต้องให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดภาชนะต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นด้วย
ข้อคิดเห็น/เสนอแนะของ สคต.
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนควรจะต้องให้ความสำคัญ ซึ่งเป็นปัญหาที่ทางไต้หวันให้ความสนใจเสมอมา รัฐบาลจึงได้มีนโยบายที่ปลูกฝังให้วิถีชีวิตของประชาชนไต้หวัน มีความสอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น ในส่วนของการทิ้งขยะ รัฐบาลก็มีนโยบายที่ชื่อว่า “ขยะไม่ลงพื้น” โดยประชาชนที่จะทิ้งขยะจากในบ้านจะต้องซื้อถุงขยะของเทศบาลในแต่ละท้องที่ (หาซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อทั่วไป) และในการเก็บขยะนั้น จะมีรถรับขยะมาพร้อมกัน 2 คัน สัปดาห์ละ 5 วัน ตามเวลาของแต่ละจุดรับขยะ คันหนึ่งจะเป็นรถขยะที่จะรับทิ้งขยะทั่วไป แต่จะรับเฉพาะขยะที่บรรจุอยู่ในถุงของเทศบาลที่ผูกปิดไว้อย่างเรียบร้อยเท่านั้น และอีกคันหนึ่งจะเป็นรถที่คอยรับขยะที่รีไซเคิลได้ เช่น ขยะเปียก (นำมาทาปุ๋ยหรืออาหารหมู) กระดาษ ขวด กระป๋อง หลอดไฟ ฯลฯ ทำให้ในทุกวันนี้ประชาชนไต้หวันมีความเคยชินที่จะแยกขยะ เพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อถุงขยะไปในตัว ถือเป็นนโยบายที่เป็นแบบอย่างที่ดีซึ่งไทยสามารถนำไปปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน
ที่มา: www.ditp.go.th