นายราเชนทร์ พจนสุนทร (อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก) กล่าวว่า ในปัจจุบันการนำเข้าเครื่องประดับอัญมณีจากประเทศญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2549 (ม.ค.-ธ.ค.) โดยญี่ปุ่นมีการนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับจากไทยมีมูลค่าถึง 192.38 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 1.70 โดยนำเข้าเครื่องประดับทองคำเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาตามลำดับ คือ เครื่องประดับไข่มุก เพชร พลอย ทับทิม มรกต รัตนชาติอื่นๆ เครื่องประดับทองคำขาว และไข่มุก ซึ่งไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 6.18
ในปัจจุบันเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชากรมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นและมีกำลังในการจับจ่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่นมีประเพณีในการมอบของขวัญให้แก่กันและกัน และนิยมซื้อเครื่องประดับอัญมณีเป็นของขวัญให้กันในโอกาสต่างๆ และเครื่องประดับประเภทเครื่องเงินเป็นก็ที่นิยมมาก และมีแนวโน้มการนำเข้าเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างถูก มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก โดยเฉพาะในหมู่วันรุ่นทั้งชายและหญิง นิยมเลือกซื้อเครื่องประดับเงินหลากหลายรูปแบบเพื่อให้เข้ากับแฟชั่น ส่วนทองคำขาวเป็นเครื่องประดับที่ชาวญี่ปุ่นมองว่ามีค่าและเป็นอัญมณีเครื่องประดับที่มีระดับ
ในปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีแนวโน้มความนิยมใหม่ของคนในวัน Baby Boomers คือ การแต่งตัวแบบเดียวกันตามแฟชั่น (Unisex-type-Fashions) ซึ่งพบมากในการแต่งกายเสื้อผ้าตามแฟชั่น ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในวงการเครื่องประดับ โดยมีการออกแบบเครื่องประดับสำหรับคู่หนุ่มสาวให้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งกำลังเป็นแฟชั่นนิยมในขณะนี้โดยเฉพาะกลุ่ม Baby Boomers และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงมากขึ้นในอนาคต
ลู่ทางตลาดที่น่าสนใจในการเจาะขยายตลาดเครื่องประดับและอัญมณีในประเทศญี่ปุ่น คือ การจำหน่ายทาง Mail Order Catalogue การจำหน่ายทางโทรทัศน์ช่องต่างๆ ซึ่งมักจะจัดจำหน่ายคั่นรายการ/โปรแกรม การจำหน่ายทางโทรศัพท์ที่จำหน่ายสินค้าเป็นการเฉพาะ อาทิ ช่อง Shop Channel และจำหน่ายทาง Internet ซึ่งในอนาคตคาดว่าการนำเข้าสินค้าเครื่องประดับอัญมณีในประเทศญี่ปุ่นจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.....
ที่มา: http://www.depthai.go.th