สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ดำเนินนโยบายขยายความสัมพันธ์กับหน่วยงานของรัฐบาลและผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ (Outreach) โดยจัดคณะเดินทางไปแนะนำสินค้าและบริการของไทยแก่นักธุรกิจในจังหวัดนีกาตะ และใช้โอกาสนี้ ออกพบปะเยี่ยมเยียน และให้ความมั่นใจเรื่องคุณภาพ มาตรฐานสินค้าแก่บริษัทนำเข้า และบริษัทแปรรูปที่ใช้ วัตถุดิบจากไทย
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2551 สำนักงานส่งเสริมการค้า ณ กรุงโตเกียว และสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานในจังหวัด เช่น JETRO และ Chamber of Commerce and Industry ได้จัดสัมมนาเศรษฐกิจ ในหัวข้อ “Thailand : Potential Business Partner for Japan” โดยนายสุวิทย์ สิมะสกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวได้เดินทางไปเป็นประธานและกล่าวเปิดการสัมมนา
ในครั้งนี้ โดยมีนักธุรกิจใน ท้องถิ่นให้ความสนใจเข้าร่วมจำนวน 100 คน
ในช่วงการสัมมนา นอกจากจะจัดบรรยายให้ข้อมูลและแสดงความพร้อมของไทยในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น อาหารและอาหารแปรรูป แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ ของใช้และตกแต่งบ้าน ของขวัญของชำร่วย ผลิตภัณฑ์และธุรกิจบริการสปา เป็นต้น แล้ว ยังมีการเชิญ Mr. Naomi Watanabe ประธานบริษัทนำเข้าสินค้าอาหาร มาเล่าประสบการณ์การเริ่มธุรกิจ และให้ข้อคิดในแง่มุมต่างๆที่เป็นจุดแข็งของไทย รวมทั้งได้จัด Mini-Exhibition จัดแสดงตัวอย่างสินค้าไทย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เห็นและคุ้นเคยกับสินค้าไทยด้วย
ในโอกาสที่เดินทางไปเปิดสัมมนาครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ของสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงโตเกียว ได้ร่วมการเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของจังหวัด ได้แก่ นาย Hirohiko Izumida ผู้ว่าราชการจังหวัดนีกาตะ นาย Akira Shinoda นายกเทศมนตรีเมืองนีกาตะ และนาย Eichi Tsurui ประธาน Chamber of Commerce and Industry จังหวัดนีกาตะ โดยได้ทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนว
ทางการขยายความสัมพันธ์ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศไทยกับจังหวัดนีกาตะ เป็นการวางรากฐานความสัมพันธ์ที่น่าจะพัฒนาไปสู่การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนการค้าและการดำเนินธุรกิจกับประเทศไทยมากขึ้น
ประเทศไทยกับจังหวัดนีกาตะ มีการติดต่อและดำเนินธุรกิจร่วมกันมานานแล้ว แต่ยังมีจำนวนไม่มากนัก โดยมีนักธุรกิจของนีกาตะ ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับประเทศไทยจำนวน 34 ราย เป็นรองเพียงสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีบริษัทในท้องถิ่นทำธุรกิจด้วยจำนวน 175 และ 57 ราย ตามลำดับ นอกจากนี้ นีกาตะ ยังเป็นจังหวัดที่มีคนไทยพำนักและเรียนหนังสือประมาณ 400 คน และมีผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยจำนวน 4 ร้าน รวมถึงมีการสอนภาษาไทยให้แก่ ชาวนีกาตะ โดย Niigata International Association อีกด้วย ทั้งนี้ จังหวัดนีกาตะมองว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีอำนาจซื้อสูง จึงเดินทางมาจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าของนีกาตะในกรุงเทพฯ ทุกปี รวมถึงมี Charter Flight บินตรงมายังประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยที่สนใจบุกเบิกตลาดในจังหวัดนีกาตะยังมีน้อย เพราะส่วนใหญ่มุ่งขยายตลาดในเมืองที่มีขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ยังได้ร่วมกับผู้นำเข้าญี่ปุ่นจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยร่วมกับห้างสรรพสินค้าIsetan สาขานีกาตะ ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคในท้องถิ่นเป็นอย่างดี โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจจากชาว นีกาตะเป็นพิเศษ ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ผลไม้ เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าไหม เป็นต้น นอกจากนี้ ในวันที่ 27-29 มิถุนายน 2551 สำนักงานฯ ยังได้ร่วมกับผู้นำเข้าญี่ปุ่น จัดงาน Thailand Fair ณ Uoroku Supermarket สาขา นิตซึและนากาโอกะ ในจังหวัดนีกาตะ เพื่อแนะนำสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางยิ่งขึ้นโดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายในครั้งนี้ คือ อาหารแปรรูป และผลไม้ เช่น ทุเรียน และมังคุด จากประเทศไทย
สำนักงานฯ คาดว่า การจัดกิจกรรมทั้งหลายเหล่านี้ จะช่วยให้นักธุรกิจนีกาตะ ที่ยังไม่ได้ประกอบธุรกิจการค้ากับประเทศไทยได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้นและเห็นถึงโอกาสในการทำการค้ากับประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสอง ฝ่ายเพิ่มขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว
Upload Date : 1 กรกฎาคม 2551
ที่มา: http://www.depthai.go.th