ถุงพลาสติกถือเป็นสิ่งของฟุ่มเฟือยสิ่งหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีหลายประเทศได้มีการจำกัดปริมาณการผลิต ซื้อขาย และรวมถึงการใช้ถุงพลาสติกเพื่อเป็นการควบคุมการใช้ทรัพยากร และเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ประเทศจีนมีจำนวนประชากรที่มากถึง 1300 ล้านคนจึงส่งผลต่อปริมาณการใช้ถุงพลาสติกในแต่ละวันจำนวนมหาศาล จนก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณการใช้ถุงพลาสติกชนิดบางมาก ที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีก
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2551 รัฐบาลจีนได้ออกกฎสั่งห้ามผลิต จำหน่าย และใช้ถุงพลาสติกที่มีความบางน้อยกว่า 0.025 มิลลิเมตร หรือเรียกว่าถุงชนิดบางมาก นอกจากนี้ยังได้สั่งห้ามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ตแจกถุงพลาสติกฟรีให้กับลูกค้าที่มาซื้อของ และจะต้องมีการติดป้ายบอกราคาถุงพลาสติกที่จัดจำหน่ายอย่างชัดเจนอีกด้วย รัฐบาล จีนให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมาก มีการจัดหน่วยงานคอยตรวจสอบและควบคุมเช่น
หน่วยงานด้านการตรวจสอบคุณภาพ จะคอยตรวจสอบบริษัทผลิตถุงพลาสติก หากบริษัทใดละเมิด ฝ่าฝืน หรือยังทำการผลิตถุงพลาสติกที่ไม่ตรงตามมาตรฐานตามที่รัฐบาลกำหนดจะต้องถูกลงโทษ ปรับ (ขั้นต่ำสุดปรับ 100,000 หยวน) หรือถูกสั่งปิดโรงงานตามระเบียบการที่รัฐกำหนดไว้
หน่วยงานด้านอุตสาหกรรมและพาณิชย์จะทำหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบการใช้ถุงพลาสติกของห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และป้องกันมิให้มีการใช้ถุงที่ไม่ได้มาตรฐาน
หน่วยงานด้านการเงินและสรรพากรมีการใช้นโยบายการเรียกเก็บภาษีเข้ามาควบคุมการผลิต บริโภคและซื้อขายถุงพลาสติกให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้ออกนโยบาย
กฏใหม่-ส่งผลพฤติกรรมเปลี่ยน
จากการรณรงค์ที่เข้มงวดเอาจริงเอาจังของรัฐบาลส่งผลให้ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างเห็นได้ชัดประชาชน มีการนำถุงผ้า ถุงกระดาษ หรือถุงพลาสติกพกติดตัวก่อนไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ส่วนผู้ที่ไม่ได้เตรียมถุงมานั้นทางห้าง ได้มีการจัดจำหน่ายถุงหลากหลายประเภท เช่น ถุงผ้าฝ้าย ถุงผ้าไนล่อน ถุงกระดาษ หรือถุงพลาสติกที่มีความหนามากกว่า 0.025 มิลลิเมตรโดยมีป้ายบอกราคาถุงเหล่านี้อย่างชัดเจน เพราะทางห้างร้านไม่สามารถแจกถุง พลาสติกให้ลูกค้าฟรีเหมือนเมื่อก่อน
ดังนั้นการที่ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายที่ต้องซื้อถุงพลาสติกเองนั้นสามารถทำให้ลูกค้าได้เห็นถึงค่าของถุงที่พวกเขาได้เสียเงินซื้อ ส่งผลให้การมาซื้อ สินค้าในครั้งต่อไปจะทำให้เกิดการเตรียมพกถุงมาด้วย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนจีนให้ความสำคัญกับรายจ่าย และพื้นฐานการดำเนินชีวิตของคนจีนส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบบประหยัดมัธยัสถ์อยู่นั่นเอง
ถุงชอปปิ้ง-ถุงแฟชั่น
หลังจากที่รัฐบาลได้ออกกฎมาดังกล่าวถุงพลาสติกชนิดบางมาก ใช้ครั้งเดียวทิ้งได้ปริมาณค่อยๆลดลง ทำให้สินค้าที่เห็นในท้องตลาดจำพวกถุงผ้าฝ้าย ถุงผ้าไนลอน หรือถุงกระดาษมีวางจำหน่ายอยู่ตามสถานที่ทั่วไปจนเกิดเป็นกระแสแฟชั่นขึ้นมาให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังๆเช่น Bossini ส่วนเสื้อผ้า รองเท้า แบรนด์จีนชั้นนำคุณภาพสูงต่างๆเช่น Coey
สำหรับบรรยายกาศการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตในนครเฉิงตู เช่นห้างคาร์ฟู อิเซตัน อิโตะโยคาโด และอื่นๆ ลูกค้าส่วนใหญ่ได้รับรู้ถึงกฏระเบียบดังกล่าว และได้มีการนำถุงชอปปิ้งติดตัวในการไปซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือบางรายจำเป็นต้องจ่ายเงินในการซื้อถุงใส่ของหากไม่ได้มีการพกติดตัวไปด้วย เช่นห้างคาร์ฟู จะมีการจำหน่ายถุงชอปปิ้งหลากหลายแบบโดยเน้นที่ผลิตจากวัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสามารถใช้ซ้ำหรือซักได้ ราคาตั้งแต่ 3-9 หยวนต่อใบ (15-45 บาท)
IKEA ศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้านชั้นนำของประเทศสวีเดนที่เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศจีน เริ่มมีการใช้นโยบายไม่แจกถุงพลาสติกฟรีให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2549 โดยลูกค้าจะต้องซื้อถุงพลาสติก หรือถุงผ้าไนลอนเอง นับเป็นห้างชั้นนำที่ให้ความสำคัญด้านการรักษาสภาพแวดล้อมโลกเป็นรายแรกๆ
จากนโยบายนี้ส่งผลให้โรงงานผลิตถุงพลาสติกขนาดเล็กหลายแห่งได้ปิดตัวลงไปเนื่องจากยอดผลิตสินค้าลดน้อยลงจำนวนมาก โรงงานขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบเช่นกันแต่เนื่องจากยังมีลูกค้ารายสำคัญเช่น ห้างสรรพสินค้า ซูปเปอร์มาร์เก็ตร้านค้าต่างๆจึงยังดำเนินกิจการส่วนโรงงานที่ผลิตถุงประเภทอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆอยู่แล้วนั้นถือเป็นโอกาสที่ดี ที่มียอดการผลิตและจำหน่ายสูงขึ้น
ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2551 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศนครเฉิงตูได้มีการจัดกิจกรรมเทศกาลผลไม้ไทยร่วมกับห้างอิโตะโยคาโด และห้างคาร์ฟูได้มีการจัดทำถุงผ้าฝ้ายเพื่อแจกสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานโดยรูปแบบของถุงจัดทำเป็นรูปผลไม้ไทย 12 ชนิดและด้านหลังเป็นชื่อ ที่อยู่ของสำนักงาน รวมทั้ง website กรมส่งเสริมการส่งออก เป็นการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยรวมทั้งเป็นการสื่อให้เห็นถึงความร่วมมือและสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งของจีนและของโลก
Upload Date : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศนครเฉิงตู
14 กรกฏาคม 2551
ที่มา: http://www.depthai.go.th