ตลาดสินค้าแบบยั่งยืนในสหรัฐอเมริกา

กระแสความยั่งยืน
          กระแสความต้องการความยั่งยืน (Sustainable) ได้เพิ่มและขยายตัวมากขึ้นเป็นลำดับในสหรัฐฯ ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่ผลิตแบบไม่ทำลายสภาพแวดล้อม โรงงานอุตสาหกรรมจึงหันมาให้ความสนใจต่อการผลิตแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นการช่วยประหยัดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และก่อให้เกิดสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาสนองตอบความต้องการของผู้บริโภค การดำเนินการผลิตแบบยั่งยืนจะช่วยลดต้นทุนการผลิต ใช้ทรัพยากรให้มีประโยชน์สูงสุด ลดของเสีย (Waste) และยืดอายุของทรัพยากรธรรมชาติ
Wal-Mart สนับสนุนกระแสความยั่งยืน
          Wal-Mart ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มียอดจำหน่ายประมาณ 345 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้ก้าวมามีบทบาทและเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในสหรัฐฯ โดยได้กำหนดนโยบายสนับสนุนด้านการบริหารจัดการของบริษัทฯ เป็นแบบยั่งยืน (Sustainable Operations) ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้พลังงาน การกำจัดขยะมูลฝอย ระบบการกระจายสินค้า (Supply Chain) และการจัดซื้อสินค้า (Sourcing) ห้าง Wal-Mart ได้กำหนดมาตรฐานในด้านความยั่งยืน (Sustainable Standard) ขึ้นมาเป็นบรรทัดฐานให้โรงงานที่ผลิตและส่งสินค้าให้ห้าง Wal-Mart ต้องปฏิบัติตาม มี 4 ประการ คือ
          1. การผลิตที่เกิดการสูยเสียน้อยที่สุด
          2. การผลิตที่มีผลเสียต่อมลภาวะน้อยที่สุด
          3. การจัดการกับขยะและสิ่งปฏิกูลให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด
          4. ให้ความเคารพต่อด้านสิทธิมนุษยชน และกฎและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น Fair Trade Labor Practices และ Environment Protection เป็นต้น 
เครื่องประดับแบบยั่งยืน
          เครื่องประดับแบบยั่งยืน คือ เครื่องประดับที่มีกระบวนการผลิตซึ่งสามารถสืบเส้นทางหรือแหล่งที่มา (Traceability) ของสินค้าจากร้ายขายกลับไปยังแหล่งวัตถุดิบหรือเหมืองแร่ทองเงิน เพชร และอัญมณี ที่มาใช้ในการผลิตได้
          ห้าง Wal-Mart ได้นำสินค้าเครื่องประดับมาเป็นตัวชูโรงในการนำเสนอสินค้าแบบยั่งยืนให้แก่ผู้บริโภค ห้างได้ปฐมกฤษ์โดยเสนอเครื่องประดับชุด Love Earth Jewelry Collection ซึ่งเป็นเครื่องประดับแบบยั่งยืนที่ผลิตจากทองและเงิน เข้าจำหน่ายในห้างฯ และห้างในเครือ (Sam Club) เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2551 (รายงานข่าวโดยสำนักข่าว Reuters) เครื่องประดับที่นำออกจำหน่ายเป็นแบบ Fine Jewelry ทั้งชนิดเป็น Gold & Sterling Silver ซึ่งมีราคาจำหน่ายปลีกประมาณ 50-200 เหรียญสหรัฐฯ รูปแบบเครื่องประดับที่นำเสนอ ได้แก่ Bracelets, Earrings, Pendants และ Necklace และ ห้างฯ คาดว่าเครื่องประดับแบบยั่งยืน จะเป็นเครื่องประดับกลุ่มใหม่อีกกลุ่มหนึ่งที่จะโดดเด่นและได้รับความนิยมในตลาดสหรัฐฯ ในอนาคต
          ปัจจุบัน ห้าง Wal-Mart และ Sam Club มียอดจำหน่ายเครื่องประดับและอัญมณีประมาณ 3.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ (96 พันล้านบาท) หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 8 ของยอดจำหน่ายเครื่องประดับและอัญมณีรวมของสหรัฐฯ ห้าง Wal-Mart ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะเพิ่มสัดส่วนของยอดขายเครื่องประดับแบบยั่งยืนเป็นร้อยละ 10 หรือจำนวนประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2010 (พ.ศ.2553)
          นอกจากนั้นแล้ว ห้าง Wal-Mart ตั้งเป้าหมายในระยะยาว (ไม่ระบุระยะเวลา) ว่าเครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง และ เครื่อประดับเพชร ทั้งหมดที่จะจำหน่ายในห้างฯ และห้างฯ ในเครือในสหรัฐฯ ในอนาคตข้างหน้า จะต้องสืบย้อนกลับไปหาที่มาของวัตถุดิบได้ทั้งหมด
          ผู้ประกอบการที่อยู่ในลูกโซ่ หมายเลข 1-4 จะต้องดำเนินการผลิตแบบยั่งยืนและผ่านการรับรอง (Certified) จาก Wal-Mart ซึ่งจะดำเนินการเป็นขั้นตอนไป โดยในชั้นต้นจะเริ่มจากการรับรองแหล่งวัตถุดิบหรือเหมืองแร่เป็นลำดับแรก
ข้อเสนอและคิดเห็น
          1. ห้าง Wal-Mart เป็นร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อวงการค้าและการผลิตมากในสหรัฐฯ และมีคู่ค้าในสหรัฐฯ และในต่างประเทศทั่วโลกมากกว่าหมื่นรายที่ห้าง Wal-Mart ซื้อสินค้ามาจำหน่าย การปรับนโยบายต่างๆ ห้าง Wal-Mart จะส่งผลให้คู่ค้าต้องปรับแผนไปตามความต้องการของ Wal-Mart หรือมองอีกมุมหนึ่งห้าง Wal-Mart ใช้ความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกของโลกและความได้เปรียบชิงการค้ามาเป็นเชิงบังคับให้คู่ค้าต้องยอมรับและปฏิบัตตามข้อกำหนดหรือนโยบายต่างๆ หากไม่ดำเนินตาม ก็อาจจะมีผลต่อการซื้อสินค้าของห้างฯ การทำการค้าร่วมกันในอนาคต ปัจจุบันห้าง Wal-Mart ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนเป็นเป้าหมายสำคัญ จะส่งผลกระทบท่อผู้ผลิต/จัดจำหน่ายใน Supply Chain ที่ขายสินค้าหรือให้บริการแก่ห้าง Wal-Mart ในการปรับกระบวนการผลิตสินค้าหรือการให้บริการให้ตรงตามมาตรฐานความยั่งยืนของห้างฯ
          2. ปัจจุบัน ห้าง Wal-Mart ได้ดำเนินด้านยั่งยืนกับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ที่ให้บริการแก่ห้างฯ ไปแล้ว แต่ในด้านกลุ่มสินค้า ห้าง Wal-Mart ได้เลือกสินค้าเครื่องประดับ เป็นสินค้ากลุ่มแรกที่ห้างฯ เลือกดำเนินการด้านความยั่งยืน ซึ่งห้าง Wal-Mart ตีกรอบให้คู่ค้าที่อยู่ใน Supply Chain ต้องการดำเนินการผลิตตามมาตรฐานความยั่งยืนของห้างฯ และคาดว่าสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้จะเป็นสินค้าลำดับต่อไปที่ห้าง Wal-Mart จะเริ่มบังคับให้คู่ค้าดำเนินการในด้านความยั่งยืน
          3. ห้าง Wal-Mart ซื้อสินค้าจากประเทศไทยประมาณปีละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เครื่องประดับเป็นสินค้าสำคัญรายการหนึ่งที่ห้าง Wal-Mart นำเข้าจากไทย สินค้าอื่นๆ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ อาหาร (ห้างฯ ซื้อสินค้าบางรายการซื้อผ่านผู้นำเข้า) ดังนั้น ผู้ผลิต/ส่งออกไทยที่ทำการค้ากับห้าง Wal-Mart ไม่ว่าจะเป็นโดยตรง หรือผ่านผู้นำเข้า โดยเฉพาะสินค้าเครื่องประดับและเฟอร์นิเจอร์ไม้ (ลำดับต่อไป) ควรจะควรเตรียมตัวศึกษา วางแผน และปรับแนวทางเพื่อรับสถานการณ์ความต้องการความยั่งยืนที่จะถึงในอนาคต
          4. ปัจจุบัน ความยั่งยืนเป็น Trend ของตลาดที่ได้รับรับความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับโรงงานและธุรกิจต่างๆ ขานรับการปฏิบัติตามแนวทางความยั่งยืนมากขึ้น และได้ขยายตัวเข้าไปสู่กลุ่มสินค้าต่างๆ มากชึ้น เช่น เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม กระเป๋า และอาหารทะเล เป็นต้น ซึ่งกระแสความยั่งยืนในสหรัฐฯ จะมีผลต่อการนำเข้าสินค้าไทยในอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้น ผู้ผลิต/ส่งออกไทย (รายชื่อแนบตอนท้ายของรายงาน) และปฏิบัติเพื่อประโยชน์ด้านวางแผนปรับกลยุทธ์การตลาดส่งออกสินค้าในอนาคต
          สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก
          Upload Date : 15 กรกฎาคม 2551
          ที่มา: http://www.depthai.go.th