อิหร่านขยายความสัมพันธ์ทางการค้ากับไทย

          หนังสือพิมพ์ เอกติซอดเด่ะพูยอ (Eqtisadde Pooya) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ Financial  Daily News ของประเทศอิหร่านได้รายงานว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน ได้จัดงานแสดงสินค้า Thailand Exhibition 2008 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 10-13 สิงหาคม 2551 ณ ศูนย์กีฬาและวัฒนธรรมทาสลอช (Talash Cultural & Sport Complex) กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมประเทศอิหร่าน
          งานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการได้จัดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 10 สิงหาคม 2551 โดยมีดอกเตอร์คอมบีซ คารีมี (Dr. Kambez Karimi) ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจของกระทรวงอุตสาหกรรมและเหมืองแร่อิหร่าน ร้อยเอก สุวิพันธ์ ดิษยมณฑล ผู้อำนวยการอาวุโส กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ นายชัยรัตน์ ศิริวัฒน์ อุปทูตไทยประจำกรุงเตหะราน เข้าร่วมพิธิเปิดงานอย่างเป็นทางการ
          ในการจัดงานครั้งนี้มีบริษัทไทยเข้าร่วมงานกว่า 40 บริษัท โดยสินค้าที่นำมาแสดงในครั้งนี้ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหาร สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเทียม เครื่องเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ภายในครัวเรือน สินค้าประเภทของขวัญ เครื่องใช้และเครื่องแต่งกายเด็ก สินค้าประเภทเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวและผม วัสดุก่อสร้าง พีวีซี  สินค้าประเภทกระเป๋าและรองเท้า  เครื่องใช้สำนักงาน การบริการด้านการศึกษาและการท่องเที่ยว 
          หัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ เพื่อเป็นการให้นักธุรกิจชาวอิหร่านและชาวไทยได้พบปะกันโดยตรงและเป็นการแนะนำศักยภาพสินค้าไทย ตลอดจนความสามารถในการผลิตสินค้าให้กับผู้บริโภคชาวอิหร่านได้รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยการจัดงาน Thailand Exhibition 2008 ครั้งนี้เป็นการจัดงานแสดงสินค้าครั้งที่สองในประเทศอิหร่าน ซึ่งต่างจากการจัดงานในปีที่ผ่านมาก็คือมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าชาวอิหร่านเข้าร่วมในงานครั้งนี้ด้วย
          ปัจจุบันอิหร่านและได้ลงทุนร่วมกันในส่วนของการขุดเจาะน้ำมันโดยบริษัท ป.ต.ท. และโรงงานผลิตเมล็ดพลาสติก โดยบริษัทปูนซีเมนต์ไทย ร้อยเอก สุวิพันธ์ ดิษยมณฑล  กล่าวเพิ่มเติมว่านักธุรกิจชาวอิหร่านควรเข้ามามีบทบาทและลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันทั้งสองประเทศยังสามารถขยายความสัมพันธ์และให้ความร่วมมือกันในด้านของวัฒนธรรม การศึกษา และการท่องเที่ยวมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ขณะเดียวกันนายเมะฮ์ดี ซะอีดอัซซอเค่ะรีน (Mr. Mehdi Saeed Azakerin) ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์กระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตอันใกล้ไทยควรส่งออกสินค้าไปยังประเทศ CIS และประเทศในแถปเอเซียไมเนอร์โดยใช้ประเทศอิหร่านเป็นเส้นทางผ่าน รวมทั้งลดเส้นทางในการขนส่งสินค้าโดยใช้บริการท่าเรือชาบะฮาร์ (Chabahar) และเมืองท่าบันดาร์อับบาส (Bandar Abbas) เส้นทางรถไฟสายเหนือถึงใต้ เส้นทางรถยนต์ของประเทศอิหร่านเป็นทางขนส่งสินค้า
          นอกจากนี้ นายเมะฮ์ดี กล่าวเสริมว่า อิหร่านควรใช้ประสบการณ์จากประเทศไทยในส่วนของการจัดหางานและการให้ประชากรมีอาชีพหลักเป็นของตนเอง เนื่องจากไทยมีจำนวนประชากรมากพอกับประเทศอิหร่านแต่มีพื้นที่ประเทศน้อยกว่า
          ในโอกาสเดียวกันนี้ ร้อยเอก สุวิพันธ์ ดิษยมณฑล  ผู้แทนกรมส่งเสริมการส่งออกกระทรวงพาณิชย์ของไทยได้ชี้ถึงความมีสัมพันธไมตรีจิตรอันดียิ่งของชาวอิหร่าน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ความสัมพันธ์อันดีของสองประเทศแน่นแฟ้นขึ้น 
          รายงานจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน
          Upload Date : สิงหาคม  2551
          ที่มา: http://www.depthai.go.th