สรุปภาวะการค้าระหว่างประเทศไทย — อินเดีย ปี 2551 (ม.ค-มิ.ย.) สรุปจากสถิติ Menucom กรมส่งเสริมการส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 16, 2008 12:30 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ข้อมูลทั่วไป
เมืองหลวง : New Delhi
พื้นที่           :  3,287,263 ตารางกิโลเมตร
ภาษาราชการ    :  English
ประชากร       :  1.129 bn (mid 2007)
อัตราแลกเปลี่ยน  :  US$1  =  Rs 41.3 (2007)

(1) เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ

ปี 2007 ปี 2008

Real GDP growth (%)                       8.5         7.3
Consumer price inflation (av; %)          5.9         7.9
Budget balance (% of GDP)                -3.3        -4.3
Current-account balance (% of GDP)       -1.1        -2.9
Lending rate (av; %)                     11.5        14.1
Exchange rate Rs:US$ (av)                41.3        42.1
Exchange rate Rs:ฅ100 (av)               35.0        39.7

โครงสร้างสินค้าออกของไทยกับอินเดีย
                                   มูลค่า :          สัดส่วน %      % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สินค้าออกสำคัญทั้งสิ้น                  1,576.94          100.00         28.22
สินค้าเกษตรกรรม                       57.79            3.66          5.41
สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร               69.58            4.41          3.75
สินค้าอุตสาหกรรม                    1,387.96           88.02         25.91
สินค้าแร่และเชื้อเพลิง                    61.61            3.91        263.33
สินค้าอื่นๆ                               0.0             0.0          -100

โครงสร้างสินค้าเข้าของไทยกับอินเดีย
                                    มูลค่า :         สัดส่วน %     % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นำเข้าทั้งสิ้น                          1,320.23        100.00        36.88
สินค้าเชื้อเพลิง                            3.99          0.30       -94.48
สินค้าทุน                                96.37          7.30        27.74
สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป                981.54         74.35        51.57
สินค้าบริโภค                            197.67         14.97        59.22
สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง              40.67          3.08        12.51
สินค้าอื่นๆ                                 0.0           0.0      -100.00

1. มูลค่าการค้า
มูลค่าการนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าของไทย - อินเดีย
                           2550          2551          D/%

(ม.ค.-มิย.) ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการค้ารวม            2,194.42       2,897.17       32.02
การนำเข้า                  964.51       1,320.23       36.88
การส่งออก                1,229.88       1,576.94       28.22
ดุลการค้า                   265.33         256.71       -3.25

2. การนำเข้า
ประเทศไทยนำเข้าจากตลาดอินเดีย เป็นอันดับที่ 19 มูลค่า 1,320.23 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.88 สินค้านำเข้าสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่
                                    มูลค่า :          สัดส่วน %      % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการนำเข้ารวม                   1,320.23          100.00         36.88
1.เครื่องเพชรพลอย อัญมณี                212.79           16.12         13.67
2.พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช                  208.64           15.80        215.08
3.สินแร่โลหะอื่น                        196.70           14.90         40.34
4.เคมีภัณฑ์                            124.22            9.41         12.20
5.เหล็ก  เหล็กกล้า                     102.57            7.77        196.40
            อื่น ๆ                     41.72            3.16         36.09

3. การส่งออก
ประเทศไทยส่งออกไปตลาดอินเดีย เป็นอันดับที่ 14 มูลค่า 1,576.94 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.22 สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่
                                มูลค่า :        สัดส่วน %       % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการนำเข้ารวม               1,576.94         100.00          28.22
1.เม็ดพลาสติก                     180.28          11.43          64.57
2.เหล็ก  เหล็กกล้า                 134.99           8.56         -25.69
3.รถยนต์ อุปกรณ์ฯ                   85.12           5.40          10.23
4.เครื่องยนต์สันดาป                  81.64           5.18          27.17
5.เครื่องคอมพิวเตอร์                 75.86           4.81          82.40
          อื่น ๆ                  264.22          16.75          28.04

4. ข้อสังเกต
4.1 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปอินเดีย ปี 2551 (มค.-มิย.) ได้แก่

เม็ดพลาสติก : อินเดียเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 4 ของไทยเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2547 — 2551 พบว่าในปี 2549 มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 28.17 สำหรับปี 2547 2548 2550 และ 2551 มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 188.50 91.82 64.57 ตามลำดับอย่างต่อเนื่อง

เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ : อินเดียเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 6 ของไทย และเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2547 — 2550 พบว่ามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีร้อยละ 71.07, 24.53, 185.77 ตามลำดับ ในขณะที่ปี 2551 (มค.-มิย.) มีอัตราขยายตัวลดลงร้อยละ 25.69

รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบฯ : เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2547 - 2551 พบว่ามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีร้อยละ 31.29 51.4 8.69 และ10.23 ตามลำดับ

เครื่องยนต์สันดาปภายในฯ : อินเดียเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 6 ของไทยเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2547 - 2551 พบว่ามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีร้อยละ 227.08 20.45 26.58 27.17 ตามลำดับ

เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ : เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2549 — 2551 พบว่ามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีร้อยละ 4.74 138.9 82.4 ตามลำดับ มีปี 2548 เพียงปีเดียวที่มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 40.72

4.2 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปตลาดอินเดีย ปี 2551 (มค.-มิย.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราเพิ่มสูงโดยสูงกว่าร้อยละ 40 มีรวม 11 รายการ คือ
         อันดับที่ / รายการ                 มูลค่า           อัตราการขยายตัว
                                    ล้านเหรียญสหรัฐ             %
1.เม็ดพลาสติก                            180.28              64.57
6.ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม                         74.68              80.55
9.แผงวงจรไฟฟ้า                           60.70             233.99
12.ไขมันและน้ำมันจากพืช/สัตว์                 53.51             565.34
13.เครื่องปรับอากาศ                        43.30              45.42
15.เครื่องคอมเพรสเซอร์                     34.16              74.96
16.ทองแดงและของทำด้วยทองแดง              26.88              60.09
17.ผลิตภัณฑ์พลาสติก                         25.29              40.49
19.ผลิตภัณฑ์ยาง                            22.52              52.76
20.เส้นใยประดิษฐ์                          21.96             122.10
23.เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนฯ                   16.67              54.75

4.3  ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปตลาดอินเดีย  ปี 2551 (ม.ค.-มิ.ย.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราลดลงรวม 4 รายการ  คือ
อันดับที่ / รายการ                           มูลค่า           อัตราการขยายตัว
                                     ล้านเหรียญสหรัฐ             %
2. เหล็ก  เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์                134.99             -25.69
14.ยางพารา                                58.93             -32.25
21.เครื่องสำอาง  สบู่                         20.70              -9.73
25.เครื่องทำสำเนา                           13.52             -25.77

4.4  ข้อมูลเพิ่มเติม

บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (TUF) เปิดเผยถึงการลงทุนโดยการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท อะแวนติ ฟีด จำกัด ว่า TUF จะเข้าถือหุ้นสามัญของบริษัท อะแวนติ ฟีด จำกัด 1,190,000 หุ้น หรือคิดเป็น 14.99 % ของจำนวนหุ้นที่ถือทั้งหมด โดยบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในมูลค่าหุ้นละ 40 รูปี คิดเป็นมูลค่าเงินลงประมาณ 40 ล้านบาท สำหรับ บริษัท อแวนติ ฟีด จำกัด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและส่งออกอาหารกุ้ง และกุ้งแช่แข็ง โดยเป็นผู้ผลิตอาหารกุ้งรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินเดีย และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์ของอินเดีย การเข้าลงทุนครั้งนี้ เพราะ บริษัทเป็นพันธมิตรทางการค้ากับ อะแวนติ ฟีด มานานผ่านทางบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์น้ำ ประเภทอาหารกุ้งและอาหารปลา และเป็นบริษัทย่อยของTUF โดยไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีทางด้านการผลิตอาหารกุ้งกุลาดำให้กับอะแวนติ ฟีด เนื่องจากเดิมนั้นรัฐบาลอินเดียอนุญาตให้ผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งกุลาดำได้เพียงอย่างเดียว และเพิ่ง มีนโยบายที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถเลี้ยงกุ้งขาวได้ โดย TUF มองว่า โอกาสที่กุ้งขาวจะเป็นที่ยอมรับและเติบโตในอินเดียเหมือนประเทศอื่นๆ ที่หันมาเลี้ยงกุ้งขาวแทนกุ้งกุลาดำนั้น มีความเป็นไปได้สูง และไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์มีความชำนาญในเทคโนโลยีการผลิตอาหารกุ้งขาว ทำให้บริษัทเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจอุตสาหกรรมกุ้งให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็มองโอกาสสำหรับการขยายช่องทางการตลาดของสินค้าอาหารทะเลแช่แข็ง และบรรจุกระป๋องอีกด้วย " ตลาดอินเดีย เป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ และเป็นตลาดที่มีอนาคตสดใส เพราะการบริโภคอาหารของคนอินเดียมีลักษณะใกล้เคียงกับสินค้าที่เราขายอยู่ ดังนั้น จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่ชาวอินเดียจะยอมรับสินค้าประเภทอาหารกระป๋อง เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง ได้ " ทั้งนี้ ธุรกิจผลิตอาหารกุ้งนั้น เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมากกับ TUF เพราะที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอย่างเนื่อง เห็นได้จากผลงานของ บริษัทไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ทำกำไรสูงถึง 120% และมียอดขายเติบโตขึ้น 5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 50 แม้ว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น

ข้อตกลงFTA ไทย-อินเดีย เป็นข้อตกลงแรกที่ไทยทำกับประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ และเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างอินเดียกับภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันภายใต้กรอบทวิภาคี FTA ไทย-อินเดีย ทั้งสองฝ่ายได้ยกเลิกภาษี จำนวน 82 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2549 จึงเป็นโอกาสดีที่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ก่อน ส่วนสินค้าอีกหลายพันรายการยัง อยู่ในระหว่างการดำเนินการเจรจา โดยมีความคืบหน้าใกล้จะสำเร็จสรุปผลแล้ว จากผลของ FTA ไทย-อินเดีย ทำให้มูลค่า

การค้าระหว่างไทย-อินเดียเพิ่มมากขึ้นในปี 2550 มีมูลค่าการค้ากว่า 163,000 ล้านบาท และใน 7 เดือนแรกของปี 2551 มูลค่าการค้าประมาณ 114,000 ล้านบาท สินค้าที่ไทยส่งไปอินเดียมากคือ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เม็ดพลาสติก รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจากอินเดียมากคือ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ที่ผ่านมาการค้าขายกับอินเดียมีปัญหา และอุปสรรค เช่น อินเดียเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูง และยังมีการเก็บภาษีอื่นๆภายในประเทศ สำหรับระบบพิธีการศุลกากรมีความยุ่งยาก ซับซ้อน และล่าช้า ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการขนถ่ายสินค้า และมีพื้นที่ขนาดใหญ่ การขนส่งสินค้าใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง นอกจากนี้มีการลอกเลียนแบบสินค้าเกิดขึ้นจำนวนมากและรวดเร็ว ซึ่งการเจรจาการค้าเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดอุปสรรคและบรรเทาปัญหาลงได้ โดยการทำการค้ากับอินเดียต้องอดทน หนักแน่น และการบุกตลาดอินเดียต้องเรียนรู้ศึกษา สำรวจเจาะลึกสินค้าประเภทเดียวกันกับเราในตลาดอินเดีย เตรียมตัวให้พร้อมด้วยการปรับปรุงสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด ทั้งนี้อินเดียยังมีความต้องการสินค้าของไทยอีกมาก เช่น ยางรถยนต์ หมาก สำหรับธุรกิจที่น่าจะมีโอกาสในตลาดอินเดีย คือ ธุรกิจบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ภัตตาคาร สปา หรือเครื่องอุปโภคบริโภค

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ