พาณิชย์เผย 9 เดือนส่งออกโต 24% ชี้กันยายนเกินดุลการค้า133 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการค้าหมวดเกษตร เชื่อ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 20, 2008 08:56 —กรมส่งเสริมการส่งออก

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน51 มีมูลค่า 15,868 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 19.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 15,735 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 39.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้เดือนกันยายนไทยเกินดุลการค้า 133.3 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากคิดในรูปเงินบาทไทยขาดดุลการค้า 851.6 ล้านบาท

สำหรับการส่งออกช่วง 9 เดือน(มกราคม — กันยายน 2551 ) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 23.9% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.359 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 35.8% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.387 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มียอดขาดดุลการค้าราว 2,742 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลในรูปเงินบาท 137,028.3 ล้านบาท

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า การส่งออกในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะข้าว ที่ขยายตัวทั้งปริมาณและมูลค่า ขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง สิ่งพิมพ์ เลนส์ เครื่องสำอางค์ อาหารสัตว์เลี้ยง นาฬิกา และของเล่น ส่งออกเพิ่มสูง กว่า 20% ส่วนเฟอร์นิเจอร์ ยังขยายตัวไม่ดีมากนัก

ด้านการนำเข้า ในเดือนก.ย. มีการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นทุกหมวดสินค้า ทั้ง เชื้อเพลิง สินค้าทุน สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปส่งผลให้การนำเข้าในระยะ 9 เดือนอยู่ที่ 138,668.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร35.8% และเมื่อคิดในรูปเงินบาท นำเข้ามูลค่า 4,561,823.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.6 %

นายศิริพล กล่าวว่า การส่งออกในปีนี้จะขยายตัวตามเป้าหมาย 15-20% ขณะที่ ปีหน้าจะขยายตัวน้อยกว่าปีนี้ เหลือประมาณ 10% เป็นไปตามเป้า 15-20% แต่ปีหน้าและปีต่อๆ ไปน่าหนักใจ ในความกังวลกับแนวโน้มเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังวิกฤติ การเงินเกิดขึ้นทั่วโลก นายราเชนทร์ กล่าวว่า ปัญหาวิกฤตการเงินในตลาดหลัก ทำให้ต้องปรับสัดส่วน ตลาดส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งในตลาดหลักและตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดใหม่ในช่วง 9 เดือน ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2550 โดยตลาดใหม่ขยายตัวในอัตราสูงถึง 31% ขณะที่ตลาดหลักขยายตัว 17.8 % ทำให้สัดส่วนการส่งออกไปตลาดใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 48.6% และสัดส่วนการส่งออกไปตลาดหลักลดลงเหลือ 51.4 %

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ