1. หลังจากที่สถาบันการเงิน Lehman Brothers ในสหรัฐอเมริกา ต้องปิดกิจการไปแล้ว ทำให้สภาพคล่องของสถาบันการเงินจำนวนมากในเยอรมนีเริ่มเกิดปัญหาขึ้นบ้าง โดยเฉพาะธนาคาร BayernLB ของแคว้นบาวาเรีย และ HSH Nordbank แคว้นฮัมบูร์ก-ชเลวิกฮอลชไตน์ ที่รัฐบาลของแคว้นถือหุ้นส่วนร้อยละ 50 และ 30 ตามลำดับ มีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจากรัฐบาลเยอรมนี เป็นจำนวนประมาณ 5,000 และ 1,000 ล้านยูโรตามลำดับ โดยรัฐบาลมีข้อแม้ต่างๆ ให้ธนาคารที่กู้ยืมเงินต้องปฏิบัตตาม เช่น การให้รัฐบาลมีส่วนร่วมในการบริหารกิจการ การกำหนดให้คณะผู้บริหารได้รับเงินเดือน ค่าจ้างตอบแทนไม่เกิน 500,000 ยูโรต่อปี ตลอดจนการงดจ่ายเงินบำเหน็จในกรณีที่ผู้บริหารพ้นจากหน้าที่ เป็นต้น ซึ่งวงเงินทั้งสิ้นที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้มีจำนวนทั้งสิ้น 5 แสนล้านยูโร โดยแต่ละกิจการจะกู้ยืมได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 ล้านยูโร
2. PostBank ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนได้แถลงว่า เกิดปัญหาบ้างแล้ว โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 กิจการขาดทุนรวม 449 ล้านยูโร ในจำนวนนี้เป็นผลโดยตรงที่เกิดจาก Lehman Brothers เป็นจำนวน 364 ล้านยูโร ส่วนสถาบันการเงินอื่นๆ ยังคงไม่เปิดเผยฐานะทางการเงินที่ชัดเจน เนื่องจากเกรงลูกค้าขาดความไว้วางใจ จะพากันถอนเงินฝากออกจากบัญชี ซึ่งจะทำให้ปัญหาสภาพคล่องทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังไม่เห็นด้วยกับข้อแม้ต่างๆ ของรัฐบาลสำหรับการให้เงินกู้ยืมเพื่อแก้ปัญหา
3. ภาวะเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดำเนินด้วยดี หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดต่ำลงมากว่าครึ่ง จากกว่า 140 เหรียญสหรัฐในเดือนกรกฏาคมเป็นประมาณ 65 — 75 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ทำให้ดัชนีค่าครองชีพในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.4 ในขณะที่เดือนก่อนหน้านี้สูงกว่าร้อยละ 3.0 ประกอบกับการได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นในเกือบทุกแขนงอุตสาหกรรม ทำให้ในภาพรวมมีการจับจ่ายซื้อสินค้ากันเป็นปกติ และคาดว่าในเดือนพฤศจิกายนจะมีการจับจ่ายภาคเอกชนสูงกว่าเดือนก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะสินค้าอาหาร ของใช้ประจำวันและอื่นๆ ที่มีมูลค่าปานกลางถึงต่ำ สำหรับสินค้าที่มีราคาแพง รวมไปถึงรถยนต์ จะมีการชะลอตัวลงจนถึงหยุดซื้อชั่วคราว ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ต้องลดปริมาณหรือหยุดพักการผลิตชั่วคราว เช่น โรงงาน Ford ผู้ผลิตเครื่องยนต์และส่วนประกอบสำหรับรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ส่งไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ต้องปิดโรงงานพักการผลิตชั่วคราว ในชั้นแรกนาน 4 สัปดาห์ สำหรับโรงงาน Mercedes และ VW มีโครงการหยุดพักการผลิตระยะหนึ่งเช่นกัน ประมาณ 4 — 5 สัปดาห์
4. การหยุดพักการผลิตรถยนต์เช่นนี้ นอกจากในระยะยาวจะเกิดผลกระทบกับอุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์ แล้วเนื่องจากร้อยละ 35 ของผลิตภัณฑ์เหล็กจะใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ จะทำให้ กิจการผู้ผลิตส่วนประกอบรถยนต์อีกจำนวนมากต้องปิดกิจการลงในที่สุด เกิดเป็นปัญหาคนว่างงานจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยในขณะนี้คาดว่าในปี 2552 คนว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3.3 ล้านคนจากเดิมที่คาดกันว่าจะมีจำนวนไม่เกิน 3 ล้านคน เหล่านี้ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในปี 2552 อยู่ที่ 0.2 จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 — 1.5
ที่มา: http://www.depthai.go.th