ห้างสรรพสินค้า Galeria Kaufhof เป็นห้างขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเยอรมนี (Main Stream) มีสาขาทั้งหมดในเยอรมนี 127 สาขา ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1879 มียอดจำหน่ายต่อปีประมาณ 3,600 ล้านยูโร และมีพนักงานประมาณ 25,000 คน สินค้าที่จำหน่ายภายในห้างฯ จะเป็นระดับกลางถึงบน ซึ่งมีทั้งสินค้าเสื้อผ้า อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องหนัง เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องประดับตกแต่งบ้าน เคหะสิ่งทอ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่นเด็ก และอาหาร ฯลฯ โดยจะมีแผนกสินค้าอาหารใน 26 สาขาของห้างฯ และจะมีแผนกจำหน่ายสินค้าอาหารนานา ชาติโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงอาหารจากประเทศเอเซีย ได้แก่ ไทย อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และ เวียดนาม เป็นต้นปกติการสั่งซื้อสินค้ามาจำหน่ายภายในห้างฯ Kaufhof และห้างอื่นๆ ในเยอรมนี ห้างจะไม่ได้เป็นผู้นำเข้าสินค้าเอง แต่จะนำเข้าผ่านผู้นำเข้า เช่น สินค้าอาหารเอเซียจะนำเข้าจากบริษัท Kreyenhof & Kluge GmbH และบริษัท Dunekacke & Wilms GmbH เป็นต้น
- สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารไทยรวมทั้ง ผักสด ผลไม้ และสินค้า OTOP ร่วมกับห้างสรรพสินค้า Galeria Kaufhof ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ซึ่งที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าวมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าอาหารไทยให้ถึงผู้ซื้อระดับผู้บริโภคได้รู้จักและยอมรับในสินค้าไทยแพร่หลายในวงกว้างขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคสินค้าไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนำไปสู่การขยายตัวเพิ่มขึ้นของการส่งออกสินค้าไทยในตลาดเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักของตลาดส่งออกสินค้าของไทย
- ในปี 2551 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารไทย ร่วมกับห้างฯ Kaufhof จำนวน 4 สาขาในเมืองใหญ่ ได้แก่ Bonn (21-26 เมษายน) Duesseldorf (16-28 มิถุนายน) Berlin (30 มิถุนายน-12 กรกฎาคม) และ Hamburg (7-18 ตุลาคม) โดย สคต. เบอร์ลิน ได้จัดกิจกรรมพิเศษขึ้นในห้าง Kaufhof 4 สาขาดังกล่าว อาทิ การสาธิตการปรุงอาหารไทย และการปอกผลไม้ เพื่อให้ผู้บริโภคทดลองชิม พร้อมทั้งจัดให้มีแผ่นพับให้ข้อมูลอาหารไทยเมนูต่างๆ แผ่นพับให้ข้อมูลผลไม้ไทย พร้อมวิธีรับประทานเป็นภาษาเยอรมัน รวมทั้งการนำสินค้า OTOP มาตกแต่งและจัดแสดงในบริเวณที่จัดกิจกรรมด้วย ซึ่งในแต่ละสาขา จะมีลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้าในแต่ละวันเฉลี่ยประมาณ 15,000-20,000 คนต่อวัน โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มระดับรายได้ปานกลางถึงระดับบน (ประมาณร้อยละ 80)
- ห้าง Kaufhof ได้สั่งซื้อสินค้าอาหารไทย รวมทั้งผักและผลไม้ มาจำหน่ายภายในห้าง โดยนำเข้าผ่านบริษัท ผู้นำเข้าอาทิ บริษัท Kreyenhof & Kluge GmbH, Raoul Rousso GmbH, Dunekacke & Wilms GmbH, Lim & Co. GmbH, Hamburger Feinfrost GmbH และบริษัท Frische Paradies De Pastre GmbH โดยห้างฯได้นำสินค้าใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น เช่น สินค้าอาหารไทยภายใต้แบรนด์ “Thai Kitchen” ซึ่งมีทั้งอาหารสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส และกะทิ ฯลฯ
- ประเภทสินค้าที่ได้รับการสั่งซื้อ ได้แก่ เครื่องแกงสำเร็จรูป ข้าวเจ้าหอมมะลิ ข้าวเหนียว เส้นก๋วยเตี๋ยวน้ำมันพืช เครื่องปรุงรสและซอสประเภทต่างๆ อาหารสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว ผลไม้กระป๋อง ผักและผลไม้สด ฯลฯ
- ความสนใจและรสนิยมของผู้บริโภคที่มาชมงาน : จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่เข้าร่วมชมกิจกรรมพบว่าผู้บริโภคชาวเยอรมันชื่นชอบอาหารไทยเป็นอย่างมาก โดยผู้ทดลองชิมอาหารที่นำมาสาธิต กว่าร้อยละ 90 ชื่นชอบในรสชาติและมีหลายรายที่ถามถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบ และวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร รวมทั้ง มีการซื้อเครื่องปรุงและวัตถุดิบเหล่านั้น กลับไปปรุงเองที่บ้านด้วย
- แนวโน้มการรักษา และขยายตลาดอาหารไทยในอนาคต : เนื่องจากกระแสความนิยมในอาหารไทยยังมีอยู่มากในกลุ่มผู้บริโภคชาวเยอรมัน แต่การบริโภคอาหารไทย ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร อาจเนื่องมาจากผู้บริโภคไม่เคยรับทราบถึงวิธีการประกอบอาหารไทย และการใช้วัตถุดิบ หรือเครื่องปรุงรสประเภทต่างๆ ซึ่งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีการสาธิตวิธีการปรุงอาหาร จึงสามารถช่วยให้ผู้บริโภครู้จักวิธีการ และสามารถเลือกซื้อสินค้าอาหารไทยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
- ห้าง Kaufhof สนใจสินค้า OTOP ที่ สคต. เบอร์ลินนำไปจัดแสดงในงานห้างฯ จึงได้ทดลองสั่งซื้อสินค้า OTOP มาจำหน่ายในช่วงที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารไทย โดยสคต.เบอร์ลินได้ช่วยติดต่อประสานงานกับผู้นำเข้าสินค้า OTOP ในเยอรมนี ซึ่งปรากฏว่าสินค้า OTOP ได้รับการตอบรับจากลูกค้าโดยสามารถขายสินค้าได้ประมาณ 75 % แม้ว่าราคาสินค้าที่ห้างฯ ตั้งไว้จะค่อนข้างสูง
- ผลการจัดกิจกรรมในห้างฯแต่ละสาขา จะมีแนวโน้มการจำหน่ายอาหารไทยแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของผู้บริโภคในแต่ละเมือง โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สาขาเมืองบอนน์ และเบอร์ลิน มีผู้บริโภคสนใจซื้ออาหารไทยสูงสุดเนื่องจากเป็นเมืองธุรกิจ ผู้บริโภคมีรายได้ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม การขยายกิจกรรมดังกล่าวนี้ ไปจัดในเมืองที่มีขนาดกลางด้วย ก็จะสามารถช่วยประชาสัมพันธ์อาหารไทยให้ได้ทั่วถึงทุกกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นความเห็นเพิ่มเติมของสำนักงาน:
- สินค้าอาหารอินทรีย์ (Organic Food or Bio Food) มีแนวโน้มได้รับความนิยมในตลาดเยอรมนีเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันเริ่มมีผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เข้ามาจำหน่ายภายในตลาดเยอรมนีด้วยแล้ว ซึ่งหากมีการส่งเสริมการผลิตให้ผู้ประกอบการไทย และส่งเสริมการตลาดให้ผู้บริโภครู้จักสินค้าประเภทนี้ของไทย ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีขั้นตอนยุ่งยากในการขอเครื่องหมาย Bio ในเยอรมนี ซึ่งผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยจะต้องทำการศึกษาและถ้าให้สะดวกในการดำเนินการควรร่วมมือกับผู้นำเข้าเยอรมนีในการพัฒนาสินค้าดังกล่าว
- ผลไม้ไทยมีรสชาติที่ชาวเยอรมนีชื่นชอบ แต่ติดปัญหาเรื่องราคาของผลไม้ไทยที่สูงกว่าผลไม้ของชาติอื่นๆ อาทิมะม่วงน้ำดอกไม้ของไทยราคาผลละประมาณ 240 บาท ขณะที่มะม่วงจากอเมริกาใต้ผลละ 65 บาท หรือมังคุดราคากก.ละ 750 บาท ผู้ส่งออกจีงควรหาแนวทางในการลดต้นทุนในการส่งออกให้ต่ำกว่านี้ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ และอาจให้ความสำคัญกับผลไม้ประเภทอื่นที่สามารถเก็บไว้ได้นานและขนส่งทางเรือได้ เช่น มะพร้าว และส้มโอ ซึ่งส้มโอเป็นผลไม้ที่ชาวเยอรมนีนิยมบริโภคเช่นกัน โดยมีการนำเข้าจากจีน และจำหน่ายปลีกในราคาผลละประมาณ 75-100 บาท
- ในปัจจุบัน สินค้าอาหารจากอินเดียเป็นหนึ่งในสินค้าอาหารเอเซียที่มีแนวโน้มความนิยมเพิ่มขึ้นมากในตลาดเยอรมนี เพราะมีอาหารประเภทข้าวและแกงสำเร็จรูปเช่นเดียวกับไทย ผู้ส่งออกไทยจึงควรทำการตลาดในเชิงรุกให้มากกว่านี้
- ผู้ส่งออกไทยที่มีสินค้าใหม่ๆ ทั้งประเภทสินค้าอาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร หากสนใจจะนำเสนอสินค้าให้กับห้าง ฯ Kaufhof สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่สำนักงานใหญ่ของห้าง Galeria Kaufhof ตามที่อยู่ด้านล่าง
Galeria Kaufhof GmbH
Leonhard-Tietz-Strasse 1, 50676 Cologne
Tel. +49 211-2230 Fax. +49 211-2234231
www.galeria-kaufhof.de
สินค้าไทยที่นำมาจัดโชว์และวางจำหน่ายในช่วงจัดกิจกรรม จะมีหลายประเภท และแบรนด์ต่างๆ อาทิ เครื่องปรุงรส ซอสพริก เครื่องแกงสำเร็จรูป เส้นก๋วยเตี๋ยว ผักและผลไม้กระป๋อง กะทิกระป๋อง ตรา Exotic Food และ Blue Dragon, น้ำจิ้มไก่ตรา Tieman’ s , ซอสผัดไทยตรา Suree, แกงสำเร็จรูปตรา Thai Delight, บะหมี่สำเร็จรูปตรา Bamee, ข้าวเหนียวตรา Peacock, ข้าวหอมมะลิตรา Golden Phoenix ,น้ำมันรำข้าวตรา King และถั่วอบกรอบตรา Khao Shong เป็นต้น
ในช่วงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ห้างฯ จะจำหน่ายสิค้าในราคาพิเศษ ซึ่งต่ำกว่าราคาปกติ
ในช่วงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ห้างฯ ได้นำสินค้าผักและผลไม้สดของไทยมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงานหลากหลายชนิด อาทิ ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง ผักชี มะเขือเปราะ กระเจี๊ยบเขียว ข้าวโพดอ่อน หอมแดง พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกเหลือง และตะไคร้ เป็นต้น ส่วนผลไม้สด ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้ลิ้นจี่ เงาะ มังคุด สละ ขนุน มะขามหวาน และฝรั่งไร้เมล็ด เป็นต้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน
Upload Date : ตุลาคม 2551
ที่มา: http://www.depthai.go.th