จากปัญหาการเงิน/การคลังทั่วโลกและตลาดหุ้นตกต่ำ รวมถึงมูลค่าการส่งออกและการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ถดถอยเกินกว่าที่ภาครัฐได้คาดการณ์ไว้เป็นผลส่งให้การเจริญเติบโตเศรษฐกิจปี 2551 จะมีอัตราต่ำกว่าร้อยละ 4-5 (รัฐบาลคาดการณ์) ซึ่งขณะนี้นักเศรษฐศาสตร์ในภาคเอกชนคาดว่า จะมีอัตราตกต่ำไปถึงร้อยละ 2.8 แม้ว่าภาครัฐยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ ได้กล่าวว่า อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ปี 2551 อาจจะลดลงจากที่ได้คาดการณ์ไว้
หน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ ในสิงคโปร์ ได้คาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจสิงคโปร์ ไตรมาส 3, 4 และปี 2551 ดังนี้
Organisation Q1’ 2008 Q2’ 2008 Q3’ 2008 Q4’ 2008 2008 CitiGroup 0.2 1.6 2.8 OCBC 1.9 2.1 3.3 UOB 1.2 3.9 3.5 CIMB-GK 6.9 2.1 1.0 3.5 3.5 Standard Chartered 0.4 5.1 3.5 Action Economics 2.1 4.8 3.5 to 4 DBS 1.3 4.3 3.7 HSBC 1.6 5.4 4.0 Barclays 2.1 5.4 4.1
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เศรษฐกิจสิงคโปร์มีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น อยู่ที่ ภาคการผลิตสินค้าเภสัชภัณฑ์ แต่ในขณะนี้ เป็นการยากที่จะคาดการณ์ได้ ซึ่งหากในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 มีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจสิงคโปร์ ปี 2551 อยู่ที่ ร้อยละ 4
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่จะมีอัตราตกต่ำต่อไปอีกประมาณ 6-12 เดือนข้างหน้า ได้แก่ Credit Crunch จากวิกฤตการณ์บริษัท Lehman Brothers ทรุดตัวลง, ความต้องการสินค้าจากต่างประเทศลดน้อยลง, ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว, มูลค่าการส่งออกลดลง โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคม 2551 ลดลงมากถึงร้อยละ 13.8 และจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก เป็นระยะเวลา 3 เดือนติดต่อกัน ซึ่งจะทำให้สิงคโปร์ได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากเป็นประเทศเล็กและการค้าเปิดเสรี
ทั้งนี้ ภาครัฐยังไม่มีการประกาศเปลี่ยนแปลงคาดการณ์ทางการของอัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจสิงคโปร์ ปี 2551 แต่อย่างใด ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.5
(1) แม้ว่าจะเกิดการถดถอยของเศรษฐกิจในยุโรป ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และบางประเทศเศรษฐกิจสำคัญในเอเชีย รวมถึงสิงคโปร์ ที่จะทำให้อัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2551 จะลดลงแต่สิงคโปร์ยังมีส่วนที่สดใสในภาคธุรกิจบริการ และภาคการก่อสร้าง ซึ่งสามารถเป็นตัวช่วยดึงไม่ให้เศรษฐกิจตกต่ำลงไปมากนัก และยังสามารถทำให้มีอัตราการจ้างงานคงที่
(2) เศรษฐกิจในปี 2552 ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือถดถอยก็ตาม เชื่อว่า ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ได้แก่ ตลาดการเงิน, เศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนเป็นดีขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2552 และสามารถคาดหวังได้ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลังของปี 2552
(3) ผลผลิตในประเทศ ลดลงทุกภาคในเดือนสิงหาคม 2551 ดังนี้
Cluster 07/2008 08/2008 Biomedical Manufacturing -67.3 -33.8 Precision Engineering -6.7 -8.9 Electronics 7.5 -7.1 Chemicals 3.1 -6.0 General Manufacturing 3.9 -0.9 Transport Engineering 6.0 0.1 TOTAL -21.5 -12.2 หมายเหตุ : การเปลี่ยนแปลงคิดเป็นร้อยละ เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มา : Economic Development Board
(4) หาก Monetary Authority of Singapore (MAS) จะปรับไปใช้นโยบายการเงินที่ neutral ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 แทนระบบอัตราการขึ้น-ลงของการแลกเปลี่ยนเงินตรา จะทำให้อัตราเงินอ่อนตัวลง จะสามารถช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
(5) สิงคโปร์อาจจะเป็นประเทศแรกในเอเชียที่จะเข้าสู่ Technical Recession
(6) ภาครัฐอาจจะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายให้การช่วยเหลือต่อผู้มีรายได้น้อย/พนักงานอาวุโส และบริษัทขนาดย่อม และหากเศรษฐกิจถดถอย คงจะต้องมีการปรับอัตราเงินสะสมในส่วนของนายจ้างให้ลดลง
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์
Upload Date : ตุลาคม 2551
ที่มา: http://www.depthai.go.th