นางจิรภาพรรณ วรพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉินตู สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลเมืองจื้อก้ง ร่วมกับ สำนักงานทั้งภาครัฐและเอกชนของจีน พร้อมด้วยหน่วยงานพาณิชย์ในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐ ฝรั่งเศส เยอรมัน เดนมาร์ก ปากีสถาน และไทย ร่วมพิธีลงนามกว่า 18 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 4.438 พันล้านหยวน ในหลายโครงการเพื่อขยายการค้าการลงทุนในจีน ในเขตอุตสาหกรรมไฮเทคใหม่ จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปขยายการลงทุนในเขตดังกล่าว
เมืองจื้อก้ง เป็นแหล่งการผลิตวัสดุใหม่ 6 อุตสาหกรรมหลัก เน้นการหาผู้ร่วมลงทุน การพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการคิดค้นเทคโนโลยีด้านการผลิต ให้เป็นหนึ่งในประเทศ คาดว่า ปี 2012 จะมีมูลค่าการผลิตวัสดุใหม่ 30.0 พันล้านหยวน มีมูลค่าเพิ่มทางอุตสาหกรรมสูงถึง 12.0 พันล้านหยวน และ มียอดกำไรสุทธิ 7.0 พันล้านหยวน มีมูลค่าการส่งออก 550 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
“เขตอุตสาหกรรมไฮเทคใหม่ ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เขตเมืองใหม่ฮุ่ยตง ( ครอบคลุมเนื้อที่ 10 ตร.กม.) เขตนิเวศน์วิทยาหนันหู(ครอบคลุมเนื้อที่10 ตร.กม.) และเขตนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคใหม่ปั่นชาง ( ครอบคลุมเนื้อที่ 40 ตร.กม.) ซึ่งจะมีการลงทุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานกว่า 3.5 พันล้านหยวนจะสร้างเป็นพื้นที่สีเขียว ร้อยละ 23 และคาดว่า จะทำให้จีดีพีสูงขึ้นร้อยละ 30 ต่อปี และ 6 อุตสาหกรรมหลักในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคดังกล่าว ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักร ก๊าซซีเอ็นจี การผลิตไฟตกแต่งบ้าน วัสดุใหม่ เวชภัณฑ์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์”
นางจิรภาพรรณ กล่าวว่า รัฐบาลจีนมีนโยบายเอื้อประโยชน์แก่นักลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรมใหม่ปั่นชาง หากดำเนินกิจการมากกว่า 10 ปีขึ้นไปและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของนโยบายการลงทุน จะได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษี โดย 2 ปีแรกไม่ต้องจ่ายภาษี 3 ปีหลังลดภาษี และสามารถได้สิทธิอื่นๆ เช่น การลดภาษี ร้อยละ 30 หลังจากครบ 5 ปีแรก
“ปีแรกถึงปีที่สาม จะมีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ ในอัตราร้อยละ 50 และ 100 ให้กับนักลงทุนและจะมีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ ในอัตราร้อยละ 40 และ 80 แก่นักลงทุนในปีที่สี่และห้าอย่างไรก็ตาม หากดำเนินกิจการครบ 5 ปี ก็จะได้รับสิทธิอื่นๆ อีกด้วย” นางจิรภาพรรณ กล่าว
ที่มา: http://www.depthai.go.th