ศูนย์แสดงสินค้าแฟชั่นกรุงเบอร์ลิน Modercerter Berlin (MCB) และแนวโน้มแฟชั่นปี 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 4, 2008 12:29 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ด้วยสคต. เบอร์ลินได้เดินทางเข้าเยี่ยมพบและหารือกับ Mr. Hans W. Coenen, Executive Director ศูนย์สินค้าแฟชั่นกรุงเบอร์ลิน (Modecenter Berlin) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2551 โดยได้สรุปสาระสำคัญการเข้าพบได้ ดังนี้

1. ข้อมูลบริษัท

Modecenter Berlin (MCB) เป็นศูนย์สินค้าแฟชั่นใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของกรุงเบอร์ลิน ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ริมฝั่งแม่น้ำสปรี (Spree) ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 บริหารงานโดยบริษัทเอกชน Becker&Kries โดยในประเทศเยอรมันมี ศูนย์แฟชั่นตั้งกระจายอยู่ใน 6 เมืองใหญ่ ได้แก่ เบอร์ลิน, ฮัมบูร์ก, มิวนิค, ซินเดลซิงเกน, เอสบอร์น-ดุสเซลดอร์ฟ, และไลพ์ซิก สำหรับศูนย์แฟชั่นกรุงเบอร์ลินเป็นศูนย์กลางแฟชั่นเขตเยอรมันตะวันออกและยุโรปตะวันออก ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 40,000ตารางเมตร ในบริเวณ 2 ตัวอาคารใหญ่ ซึ่งจะแบ่งพื้นที่เป็นห้องๆ ให้บริษัทที่สนใจเช่าพื้นที่เพื่อจำหน่ายสินค้าให้ลูกค้า

2. บริษัทลูกค้าที่เช่าพื้นที่ของ MCB

2.1 ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงในเยอรมันและยุโรปตะวันออกโดยร้อยละ 80 เป็นบริษัทเยอรมัน และร้อยละ 20 จะเป็นบริษัทในแถบประเทศสแกนดิเนเวียและเบเนลัก สำหรับประเทศในแถบเอเชียที่เช่าพื้นที่ของ MCB ได้แก่ ประเทศจีน โดยขนาดพื้นที่ให้เช่ามีตั้งแต่ 40— 400 ตรม. อัตราค่าเช่าเฉลี่ยราคา 14 ยูโร/ตรม. (ประมาณ 630 บาท/ตรม.)

2.2 การให้เช่าพื้นที่จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ บริเวณชั้นล่างสำหรับกิจการที่จำหน่ายสินค้าให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าและนำกลับไปได้ทันที และบริเวณชั้นบนสำหรับกิจการที่ให้ลูกค้ามาเลือกและสั่งจองสินค้าล่วงหน้าสำหรับฤดูกาลถัดไป โดยเฉลี่ยประมาณ 6 เดือนล่วงหน้า ซึ่งอัตราค่าเช่าพื้นที่บริเวณชั้นบนจะแพงกว่าชั้นล่าง กิจการที่มาเช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้า มีจำนวนประมาณ 180 บริษัทซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกิจการเสื้อผ้าที่มีสินค้ายี่ห้อของตนเองและมีชื่อเสียงในประเภทแถบยุโรป อาทิสินค้ายี่ห้อ Mexx, Pierr Cardin, Betty Barclay, Bugatti, Comma, Puma, Speedo, S. Oliver, Street One, Gabor, Gerry Weber, Jean Paul, Hogl เป็นต้น

2.3 สินค้าหลักที่วางจำหน่าย ได้แก่ เสื้อผ้าหญิง-ชาย เสื้อผ้าวัยรุ่น ชุดกีฬา อุปกรณ์กีฬาเครื่องหนัง รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับแฟชั่น

3. ลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้า

ลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าที่ MCB ได้ต้องเป็นกิจการที่มีการจด-ทะเบียนนิติบุคคลถูกต้องก่อนที่จะมีสิทธิ์เป็นสมาชิกเข้าซื้อสินค้า MCB จะพิจารณาหลักฐานต่างๆ ของลูกค้า ได้แก่ หนังสือจดทะเบียนนิติบุคคล ภาพถ่ายของร้านค้า และรายได้ต่อปีของกิจการ โดยลูกค้าต้องแสดงบัตรProfashional Pass ทุกครั้งที่เข้ามาซื้อสินค้า ผู้บริโภคทั่วไปไม่มีสิทธิ์เป็นสมาชิกและเลือกซื้อสินค้าที่ MCB ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกิจการร้านค้าปลีกย่อยขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่เปิดกิจการอยู่ที่กรุงเบอร์ลินและเขตเมืองใกล้เคียง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงลูกค้าขนาดใหญ่อย่างห้างสรรพสินค้า-KaDeWe โดยเฉลี่ยมีลูกค้ามาเข้าซื้อสินค้าประมาณวันละ 200-250 กิจการ สำหรับในช่วงฤดูเทศกาลจะมีลูกค้าเข้ามา เลือกซื้อสินค้าประมาณ 600 กิจการ/วัน

4. งานแสดงสินค้าประจำปีของ MCB

Die Berliner Durchreise เป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นที่ MCB จัดขึ้นสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะเป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมันและใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออก เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 (สมัยนั้นเรียกว่า Berliner Modenschau) และนับตั้งแต่ปี 1988 ได้ย้ายมาจัดที่ MCB กำหนดจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคม ภายในงานจะมีการจัดแสดงแฟชั่นโชว์และจัดกิจกรรมสมนาคุณให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าในราคาพิเศษ ซึ่งงานในครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2552 โดยมีสโลแกนการจัดงานในครั้งนี้ว่า “Back to Nature-Think Organic” ซึ่งจะเป็นคอลเลคชั่นสำหรับฤดูใบไม้ผลิและหน้าร้อนปี 2552 โดยจะคำนึงถึงการใช้วัตถุดิบในการตัดเย็บที่มาจากธรรมชาติ ปราศจากการใช้สารเคมี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยในนิตยสาร enVogue ซึ่งเป็นนิตยสารที่ MCB พิมพ์แจกให้กับลูกค้าปีละ 2 ครั้ง มีรายงานในฉบับล่าสุดเดือนกันยายน 2551 ในปี 2549 ในเยอรมันมีการใช้วัตถุดิบจากผ้าฝ้ายปลอดสารเคมี (Bio-Baumwolle) จำนวนทั้งสิ้น 30 ตัน แต่ในปี 2551 มีการใช้วัตถุดิบดังกล่าวสูงถึง 1500 ตัน และแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต (ข้อมูลจาก Deutsches Modeinstitut) ทั้งนี้แนวโน้มแฟชั่นในปีหน้าจะเป็นแฟชั่นย้อนยุคศตวรรษที่ 70 เป็นเสื้อผ้าสีสด ลายดอกใหญ่ๆ กางเกงขาบานจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จะเน้นความเป็นธรรมชาติ และความเป็นผู้หญิงมากยิ่งขึ้น

5. ผลกระทบจากปัญหาสภาวะเศรษฐกิจ

Mr. Coenen ให้ความคิดเห็นว่าปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อวงการแฟชั่นในเยอรมัน อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลใกล้สิ้นปี ถึงแม้ว่าคนเยอรมันจะเริ่มประหยัดการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย แต่ส่วนใหญ่จะมีการจัดสรรเงินงบประมาณไว้แล้ว สำหรับซื้อของขวัญในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ไว้แล้ว ดังนั้นกิจการเสื้อผ้าและแฟชั่นยังไม่ซบเซา แต่คาดหน้าในปี 2552 จะได้รับผลกระทบบ้างพอสมควร

6. โอกาสสำหรับนักลงทุน/นักธุรกิจไทย

Mr. Coenen ให้ความเห็นว่าหากมีบริษัทไทยที่สนใจอยากมาเช่าพื้นที่ดังกล่าวเพื่อจำหน่ายสินค้า ควรจะเป็นกลุ่มสินค้าในระดับกลางขึ้นไป ที่ไม่มีการผลิตครั้งละมากๆ อาทิ ชุดราตรี ชุดแต่งงาน ชุดสูทรชาย-หญิง ฯลฯ แต่อาจจะประสบปัญหาไม่คุ้มต้นทุนค่าขนส่ง และกลุ่มลูกค้าที่เข้าซื้อ สินค้าที่ MCB ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าปลีกย่อยขนาดเล็ก-กลาง และสั่งซื้อสินค้าแต่ละครั้งปริมาณไม่สูงมาก ทั้งนี้สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศูนย์แสดงแฟชั่นเบอร์ลินได้จากเวปไซต์ www.modecenter-berlin.de

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ