ร้านขายรองเท้ายี่ห้อ Melli Shoe เป็นร้านขายรองเท้าคล้าย Franchise ที่มีอยู่แทบทุกหัวมุมถนนในเมืองใหญ่ๆ ของอิหร่าน โดยบริษัทรองเท้า Melli Shoe มีประวัติการดำเนินการที่ยาวนานควบคู่กับอุตสาหกรรมการผลิตรองเท้าในอิหร่านที่ได้เริ่มก่อตัวขึ้นพร้อมกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป โดยโรงงานผลิตรองเท้ารายแรกของอิหร่านมีชื่อว่า โรงงานมะฮ์ชีด (Mahshed) และโรงงานเซ่ะซีตอเร่ (Sehsetare) ทั้งนี้โรงงานผลิตรองเท้าอิหร่านที่มีชื่อเสียงมาแต่สมัยการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้แก่ โรงงานรองเท้ามิลลี (Melli Shoe) โรงงานรองเท้าวีน (Ven Shoe) และโรงงานรองเท้าบิลล่า (Billa Shoe) สำหรับบริษัทรองเท้ามิลลี่ (Melli Shoe) เป็นโรงงานบริษัทผู้ผลิตรองเท้าและเป็นร้านขายรองเท้าที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมานานที่ได้ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 43 ปีที่ผ่านมาในรูปของโรงงานเล็กๆ ที่ทำจากผ้าและยาง หลังจากนั้นอีก 6 ปีได้พัฒนามาเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ขึ้น โดยทางโรงงานได้ร่วมลงทุนร่วมกับโรงงานผู้ผลิตรองเท้าของประเทศญี่ปุ่นและยุโรป ทำให้บริษัทรองเท้ามิลลีได้พัฒนาและมีชื่อเสียงขึ้นชื่อในเอเซียตะวันออกกลาง ซึ่งก่อนการปฏิวัติการปกครองในปี ค.ศ. 1979 บริษัทรองเท้ามิลลี่ (Melli Shoe) ของอิหร่านเป็นบริษัทที่อยู่ในความดูแลของเอกชน ซึ่งเป็นการรวมตัวกันระหว่างโรงงานผู้ผลิตรองเท้ารายใหญ่ในประเทศอิหร่านและใช้ชื่อบริษัทว่า"รองเท้ามิลลี่ (Melli Shoe)" มีสาขาทั่วประเทศ 400 สาขา ในช่วงที่ผ่านมาได้รับความตอบรับจากประชาชนชาวอิหร่านเป็นอย่างดี ทั้งนี้ชาวอิหร่านนิยมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์รองเท้าจากร้านขายรองเท้าดังกล่าว เนื่องจากมีคุณภาพสูง และราคาถูก
ภายหลังจากที่อิหร่านเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเมื่อปี ค.ศ. 1979 รัฐบาลอิหร่านได้ยึดบริษัทและควบคุมการบริหารกิจการของบริษัทรองเท้ามิลลี่ (Melli Shoe) โดยภาครัฐได้มอบหมายให้กิจการดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรผู้ปลดเกษียณแห่งชาติอิหร่าน (Pension Organization) ซึ่งขึ้นกับกระทรวงสวัสดิการ (Welfare Ministry) เป็นเวลาประมาณ 4 ปี ซึ่งรัฐบาลได้นำรายได้จากการขายรองเท้ามาเป็นสวัสดิการให้กับผู้ปลดเกษียณอายุชาวอิหร่านทั่วประเทศ
ปัจจุบัน ร้านขายรองเท้ามิลลี่มีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ 520 สาขา และสามารถผลิตรองเท้าได้ในปี 2006 ได้จำนวน 132 ล้านคู่ อย่างไรก็ดี โรงงานผู้ผลิตรองเท้าที่ป้อนสินค้าให้กับร้านขายรองเท้ามิลลี่ได้ปิดกิจการลงเกือบทั้งหมด สืบเนื่องจากปัญหาการบริหารและกฎหมายแรงงาน แต่ทว่าร้านขายรองเท้ามิลลี่ (Melli Shoe) ยังคงเปิดให้บริการอยู่ โดยผลิตภัณฑ์ภายในร้านเป็นรองเท้าจากโรงงานรองเท้าขนาดเล็กที่ผลิตขึ้นในประเทศอิหร่านหรือนำเข้าจากต่างประเทศ
เนื่องจากผลิตภัณฑ์รองเท้าที่วางขายอยู่ในร้านรองเท้ามิลลี่ (Melli Shoe) ยังไม่ได้รับการพัฒนาในด้านรูปแบบเท่าที่ควร เป็นผลให้ความนิยม และความเชื่อถือของผู้บริโภคชาวอิหร่านลดน้อยลงตามลำดับ รวมทั้งปัจจุบันผลิตภัณฑ์รองเท้าที่นำเข้าจากประเทศยุโรปและจีนเข้ามาตีตลาดอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าจากประเทศจีนได้เข้ามามีส่วนแบ่งตลาดรองเท้าในอิหร่านเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันรองเท้ามิลลี (Melli Shoe) มีส่วนแบ่งตลาดในอัตราส่วนร้อยละ 5 ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา 2007 ทางบริษัทรองเท้ามิลลี (Melli Shoe) ทำรายได้จากการขายรองเท้าคิดเป็นมูลค่า 350 พันล้านเรียล ขณะที่รายได้จากการขายร้องเท้าทั่วประเทศอิหร่านมีมูลค่า 7 พันล้านเรียล
คู่แข่งที่สำคัญของบริษัทรองเท้ามิลลี่ (Melli Shoe) ได้แก่ บริษัทรองเท้าบิลล่า (Billa) โดยทางบริษัทนี้ได้มีการนำเข้าสินค้าของผลิตภัณฑ์รองเท้าบาจา (Bata) จากต่างประเทศและส่งจำหน่ายในย่านศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงในประเทศอิหร่าน โดยในกรุงเตหะรานมีร้านรองเท้าบาจา (Bata) ซึ่งตั้งอยู่ที่วงเวียนตัจรีช (Tajrish Ave.) และสะพานกีชอ (Ghesha Bridge) แต่เนื่องจากในปีที่ผ่านมาประเทศสหรัฐอเมริกาได้คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับประเทศอิหร่านทำให้การนำเข้ารองเท้าบาจา (Bata) ต้องถูกระงับลง เป็นผลให้ในปัจจุบันทางบริษัทได้เปลี่ยนชื่อร้านรองเท้าจากบาจา (Bata) มาใช้ชื่อทางการค้าเป็น "บิลล่า (Billa) " และนำรองเท้าที่ผลิตได้ในประเทศจากโรงงานในจังหวัดตับรีซ (Tabriz province) วางจำหน่ายแทน
บริษัทรองเท้ามิลลี่ (Melli Shoe) มีความต้องการนำเข้ารองเท้าประเภทแฟชั่นและรองเท้ากีฬาจำนวนมากจากประเทศไทย โดยต้องการนำเข้ารองเท้าในลักษณะ Semi-finished product เพื่อหลีกเลียงภาษีนำเข้า ผู้ผลิตรองเท้าไทยที่สนใจส่งออกไปตลาดอิหร่าน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน ทาง E-mail: thaicomaff@kanoon.net, หรือโทร +(98-21) 2205 7378 & 9, (98-21) 2205 9776
รายงานจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน
Upload Date : ธันวาคม 2551
ที่มา: http://www.depthai.go.th