ผู้ส่งออกสินค้าไปยังประเทศอินโดนีเซียควรทราบกฎระเบียบใหม่การนำเข้าสินค้าที่กำหนดของอินโดนีเซีย

รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าที่กำหนดบางประเภท โดยออกเป็นกฎระเบียบรัฐมนตรีการค้าอินโดนีเซียคือ Regulation of the Minister of Trade Number 44/M-DAG/ PER/ 20/2008 dated October 31, 2008 Concerning Importation of Certain Products ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2551 และกฎระเบียบฉบับแก้ไขคือ กฎระเบียบรัฐมนตรีการค้าของอินโดนีเซียคือ Regulation of the Minister of Trade Number 52/M-DAG/PER/12/2008 Concerning Changing in the Minister of Trade Regulation No. 44/M-DAG/PER/10/2008 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2551

เนื่องจากบทบัญญัติในกฎระเบียบใหม่การนำเข้าสินค้าที่กำหนดของอินโดนีเซียนั้น ได้มีการกำหนดกระบวนการและแนวปฏิบัติในการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมายังอินโดนีเซียใหม่ ซึ่งผู้ที่ส่งสินค้ามายังประเทศอินโดนีเซียควรทราบถึงเนื้อหาในบทบัญญัติดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงจาการ์ตา จึงได้แปลกฎระเบียบดังกล่าวซึ่งเป็นภาษาอินโดนีเซีย โดยแปลกฎระเบียบฉบับเลขที่ 44 จากภาษาอังกฤษ (ข้อมูลจากวารสารธุรกิจ Business News 7737/11-14-2008) เป็นภาษาไทย และแปลกฎระเบียบฉบับแก้ไขจากภาษาอินโดนีเซียเป็นภาษาไทย โดยมีรายละเอียดดังแนบ (ข้อมูลในหน้า 3 - 7) เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยทราบเป็นข้อมูลในการส่งสินค้ามายังประเทศอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงจาการ์ตา ขอสรุปสาระสำคัญของกฎระเบียบใหม่การนำเข้าสินค้าที่กำหนดดังกล่าว เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจของผู้ส่งออกไทย ดังนี้

1. กฎระเบียบนี้จะใช้บังคับกับสินค้าที่กำหนดคือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า ของเด็กเล่น รองเท้า อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งรายการของสินค้าที่อยู่ในบังคับของกฎระเบียบนี้ ผู้ส่งออกไทยสามารถตรวจสอบได้ทางเวปไซด์ของกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย (www.depdag.go.id โดย 1. กดเลือก masuk 2. เลือก Regulasi 3. เลือก Year of Regulation (Tahun) หรือเลือก Number of Regulation)

2. ผู้ที่สามารถนำเข้าสินค้าที่กำหนดนี้ได้ จะต้องเป็นผู้นำเข้าที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีการค้าอินโดนีเซีย (IT of Certain Products) โดยต้องยื่นเอกสารการสมัครต่อผู้อำนวยการกองนำเข้า กระทรวงการค้าอินโดนีเซีย ซึ่งประกอบด้วยเอกสารการสมัครจำนวนมากตามที่กำหนดในมาตรา 2 วรรค 3 ของกฎระเบียบฯ และต้องแจ้งข้อมูลการนำเข้าสินค้าที่กำหนดของผู้นำเข้าดังกล่าวในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งแผนการนำเข้าสินค้าใน 1 ปีด้วย (ทั้งนี้มีนัยว่าจะส่งผลให้ผู้นำเข้าที่ไม่เคยนำเข้าสินค้าดังกล่าวมาก่อน จะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าสินค้าดังกล่าว) นอกจากนี้ผู้นำเข้าที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น IT จะต้องรายงานการนำเข้าสินค้าที่กำหนดต่อกองนำเข้า กระทรวงการค้า ในทุกไตรมาสด้วย

3. การนำเข้าสินค้าที่กำหนด ต้องนำเข้าผ่านท่าเรือที่กำหนด 5 แห่งเท่านั้น คือ Belawan เมือง Medan และ/หรือ Tanjung Priok กรุงจาการ์ตา, Tanjung Emas เมือง Semarang, Tanjung Perak เมืองสุราบายา, Soekarno Hatta เมืองมากัสซาร์ และท่าอากาศยานระหว่างประเทศทุกแห่ง

4. การนำเข้าสินค้าที่กำหนดต้องมีการตรวจสอบทางเทคนิคโดยผู้สำรวจ (surveyor) (ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีการค้า) ที่ท่าเรือขนสินค้าขึ้น (loading port) ก่อนที่จะมีการตรวจสอบ ซึ่งบริษัทผู้สำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งมีเพียง 2 บริษัทเท่านั้นคือ PT. Sucofindo และ PT. Surveyor Indonesia และต้องส่งรายงานการสำรวจ (LS) ให้แก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรของอินโดนีเซียที่ท่าเรือที่กำหนด โดยผู้นำเข้าจะต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการสำรวจสินค้า

5. สินค้าที่กำหนดที่นำเข้ามาโดยไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบนี้ จะได้รับการปฏิเสธสินค้า (sanction) ตามกฎหมายศุลกากรของอินโดนีเซีย

6. กฎระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 (กำหนดในกฎระเบียบฉบับแก้ไข เลขที่ 52 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2551)

กฎระเบียบใหม่การนำเข้าสินค้าที่กำหนดของอินโดนีเซียดังกล่าว จะส่งผลต่อขั้นตอนและแนวปฏิบัติในการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า ของเด็กเล่น รองเท้า อาหารและเครื่องดื่มของไทยไปยังประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากผู้ที่สามารถนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยได้จะต้องเป็นผู้นำเข้าที่ได้รับอนุญาต/แต่งตั้งเท่านั้นและต้องเคยมีประวัติการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยมาก่อน ซึ่งมีแนวโน้มว่าผู้นำเข้ารายใหม่ที่ไม่เคยนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยมาก่อน จะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าสินค้าดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการกำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบสินค้าที่ท่าที่ขนสินค้าขึ้นโดยผู้สำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงการค้าซึ่งมีเพียง 2 บริษัทเท่านั้น และค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบสินค้า ผู้นำเข้าต้องเป็นผู้รับภาระ ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าที่กำหนดดังกล่าวจากไทยไปยังอินโดนีเซีย ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์จึงอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ในระหว่างนี้ผู้ส่งออกไทยที่ส่งสินค้าหรือจะส่งสินค้าที่กำหนดดังกล่าวไปยังอินโดนีเซียควรศึกษารายละเอียดของกฎระเบียบการนำเข้าฯดังกล่าวของอินโดนีเซีย เพื่อให้ทราบและเข้าใจขั้นตอนวิธีปฏิบัติในการส่งออกสินค้าไปยังอินโดนีเซีย เพื่อป้องกันมิให้สินค้าของไทยถูกปฏิเสธการนำเข้า (sanction) จากศุลกากรของอินโดนีเซียหากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ที่กำหนด ซึ่งกฎระเบียบการนำเข้าฯ ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 นี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา

ที่มา: http://www.depthai.go.th