รายงานเรื่อง การตรวจพบอะฟลาทอกซินในข้าวไทยสำหรับบริโภค

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2008 หนังสือพิมพ์ทั่วไปและหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายสำนักของประเทศญี่ปุ่น ได้รายงานข่าวว่า ข้าวไทยสำหรับบริโภคมีอะฟลาทอกซิน ซึ่งปัญหาข้าวนำเข้านี้ นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่เกิดปัญหาเรื่องข้าวปนเปื้อนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จึงไม่ใช่แค่หนังสือพิมพ์เท่านั้น แต่ยังถูกรายงานผ่านสื่อโทรทัศน์อีกด้วย ปัญหาข้าวปนเปื้อนนั้น ยังคงเป็นเรื่องใหม่ในความทรงจำของประชาชนญี่ปุ่นและเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ข้าวนำเข้า โดยเหตุการณ์และการรายงานข่าวในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของข้าวไทยแย่ลง ต่อจากนี้จะขอสรุปรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ Nihon Keizai, หนังสือพิมพ์ Mainichi และสำนักข่าว Kyodou Tsushin

กระทรวงการเกษตร การป่าไม้และการประมงของญี่ปุ่นได้ประกาศว่า มีการตรวจพบ “อะฟลาทอกซิน บี1” ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีสารพิษรุนแรงจากข้าวไทยสำหรับบริโภคที่ได้ขายให้กับผู้ผลิตอาหารแปรรูปในประเทศ กระทรวงการ เกษตรฯ มีความผิดพลาดในการตรวจสอบตอนที่นำเข้า และผู้ผลิตได้ค้นพบระหว่างการผลิต ตามกฎหมายความปลอดภัยของอาหารได้กำหนดไว้ว่า จะต้องไม่พบอะฟลาทอกซินปนเปื้อนอยู่เลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้ การตรวจพบอะฟลาทอกซินในข้าวสำหรับบริโภคนับเป็นครั้งแรก ซึ่งปัญหาข้าวปนเปื้อนที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น เป็นข้าวสำหรับอุตสาหกรรมที่มีอะฟลาทอกซินและได้ออกสู่ตลาด แต่เนื่องจากในครั้งนี้ผู้ผลิตสามารถยับยั้งการส่งของออกได้ จึงไม่มีสินค้าออกสู่ตลาด

ข้าวที่ตรวจพบอะฟลาทอกซินในครั้งนี้ เป็นข้าวสารแตกหักสำหรับผลิตอาหารแปรรูปจำนวน 3,508 ตัน ที่นำ เข้าจากประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (ค.ศ. 2008) โดยได้ขายให้กับผู้ประกอบการเป็นจำนวน 24 ตัน เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ซึ่งในเดียวกันนั้นเอง ได้มีการแจ้งมายังกระทรวงการเกษตรฯ ว่า พบอะฟลาทอกซินปริมาณ 180 กรัมในถุงข้าว 1 ตัน หลังจากนั้น กระทรวงการเกษตรฯ จึงได้ให้หน่วยงานภายนอกทำการตรวจสอบเชื้อรา และในวันที่ 3 ธันวาคม ก็ได้ตรวจพบอะฟลาทอกซินจริงปริมาณ 0.04 ppm แต่บริษัทแปรรูปอาหารได้ใช้ข้าวสาร ซึ่งมีข้าวนี้รวมอยู่ด้วยในการผลิตสินค้าแต่ได้ยับยั้งการส่งสินค้าออกไปตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม

หน่วยงานตรวจกักกันโรคและกระทรวงการเกษตรฯ จะทำการสุ่มตรวจก่อนการนำเข้าและตรวจสอบด้วยตาหลังการนำเข้า แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบภายในถุงทั้งหมด จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความผิดพลาดในการตรวจพบ อะฟลาทอกซิน

กระทรวงการเกษตรฯ ได้ทำการขอโทษที่ขายข้าวปนเปื้อนอะฟลาทอกซินนี้ แต่ไม่ได้ประกาศว่าขายไปให้กับผู้ผลิตรายใด

หลังจากเดือนเมษายน ค.ศ. 2005 มีการตรวจพบเชื้อราในข้าวนำเข้า 134 ครั้ง ซึ่ง 3 ครั้งในนั้น เป็นอะฟลาทอกซิน บี1 และข้าวทั้งหมดได้ถูกกำจัดทิ้งในฐานะที่เป็นข้าวปนเปื้อน

โดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโอซากา

ที่มา: http://www.depthai.go.th