เครื่องสีข้าวไทยดังระเบิดในอินเดีย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 4, 2009 15:11 —กรมส่งเสริมการส่งออก

เถ้าแก่โรงสีข้าวอินเดียดีใจที่ได้ใช้เครื่องสีข้าวไทยที่กำลังการผลิตสูงกว่าเครื่องของอินเดียหลายเท่าตัว สร้างผลกำไรอย่างมหาศาล แถมราคาก็ไม่แพง

เมื่อต้นเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Dinamala ของเจนไน ได้ลงข่าวว่า โรงสีข้าวในเขตซาเล็มของเมืองพอนดีเชอรี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเจนไนไปทางใต้ประมาณ 100 กิโลเมตร ได้สั่งซื้อเครื่องสีข้าวยี่ห้อ Bluest Pet Dried ของไทยไปใช้งานเป็นครั้งแรกในอินเดีย เจ้าของโรงสีเปิดเผยด้วยความภูมิใจว่าเครื่องสีข้าวของไทยไม่ทำให้เขาผิดหวัง เพราะเครื่องสีข้าวดังกล่าว สามารถผลิตข้าวสารได้ 75 ตันในเวลาเพียง 8 ชั่วโมง ขณะที่เครื่องของอินเดียต้องใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แถมราคายังถูกด้วย เพียง 5 ล้านรูปีเท่านั้นเอง ผลจากการที่ใช้เวลาในการสีข้าวน้อยลงทำให้เขาสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าและอื่นๆ ได้เป็นอย่างมาก และยังสามารถผลิตข้าวสารได้ถึง 200 ตันต่อวันเลยทีเดียว ตลาดเครื่องสีข้าวของอินเดียเป็นตลาดที่ใหญ่มาก อินเดียเป็นประเทศที่ผลิตข้าวได้มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากจีน โดยในปี 2008 อินเดียผลิตข้าวได้ถึง 96 ล้านตัน แต่มีการบริโภคในประเทศ 90 ล้านตัน มีเหลือส่งออกเพียง 3 ล้านตัน ส่วนที่เหลือใช้เพื่อการแปรรูปเป็นสินค้าอื่นๆ อินเดียจึงเน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก ซึ่งบางปีก็ไม่เหลือส่งออกต้องห้ามการส่งออก ในขณะที่ไทยในปี 2008 มีการส่งออกถึง 9 ล้านตันเนื่องจากมีประชากรน้อยกว่าอินเดียมาก ส่วนการผลิตก็มีมากกว่าการบริโภคถึงเท่าตัว

การผลิตข้าว ของอินเดียมีอยู่ทั่วไปในทุกรัฐของอินเดีย แต่รัฐที่ผลิตข้าวได้มากที่สำคัญ ได้แก่ West Bengal, Andhra Pradesh, Uttar Pradesh, Punjab และ Tamil Nadu เป็นต้น

แม้ว่าอินเดียจะผลิตเครื่องสีข้าวได้เอง แต่คุณภาพและประสิทธิภาพการทำงานยังต่ำกว่าของไทยมาก เช่น เครื่องของอินเดียใช้เวลาสีข้าวมากกว่าหลายเท่าตัวในปริมาณการผลิตที่เท่ากัน ใช้เวลาอบแห้งนานกว่า มีเมล็ดหักมากกว่า และข้าวที่สีแล้วไม่ขาวเหมือนข้าวที่สีด้วยเครื่องที่ผลิตโดยคนไทย จึงมีผู้ประกอบการอินเดียสนใจนำเข้าเครื่องสีข้าวจากไทยเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายและกระจายไปยังรัฐต่างๆ ทั่วประเทศอินเดีย โดยเฉพาะรัฐที่มีการผลิตข้าวมากๆ เช่น ทมิฬนาดู เบงกอลตะวันตก อันตรประเทศ อุตรประเทศ และ ปันจาบ

ผู้สนใจสามารถเปิดตัวได้ในงาน Thailand Exhibition 2009 ณ เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 22-26 กรกฎาคม 2552 ซึ่ง สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนจะได้เชิญเจ้าของโรงสีข้าวสำคัญในรัฐทมิฬนาฑูและรัฐใกล้เคียงมาเจรจาการค้าได้โดยตรง นอกจากนั้นผู้สนใจสามารถติดต่อ ผ่านสำนักงานพาณิชย์ ณ เมืองเจนไนที่ e-mail:thaitcchennai@gmail.com หรือติดต่อผู้ซื้ออินเดียได้โดยตรงที่

Mr. Venkata Hari Prasad

Managing Partner

Annapurna Industries

Enikepadu P.O. Vijayawada

521 108

A.P. India

ดร. ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ

รองกงสุลใหญ่ ฝ่ายการพาณิชย์ ณ เมืองเจนไน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ