เนื่องจากฮ่องกงเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เมืองการค้าเสรี การนำเข้าสินค้าและส่งออกสินค้าไม่มีกฎระเบียบที่เคร่งครัด การเดินทางสะดวกจากสนามบินมายังศูนย์แสดงสินค้าประมาณ 50 นาที โดยรถไฟฟ้า Airport Express สำหรับรถบัสสามารถขึ้นรถจากสนามบิน ผ่านเขต Wanchai เดินอีก 5 นาที ทั้งนี้ ศูนย์แสดงสินค้ายังมีโรงแรมใหญ่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง โดยสามารถเดินทางมายังงานได้ สะดวก เช่น Renaissance Harbour View Hote, Excelsion Hong Kong โรงแรมระดับราคาขนาดกลางๆ (ขึ้นอยู่กับช่วงไฮซีซัน(มีนาคม-เมษายน และตุลาคม-พฤศจิกายน และช่วงเทศกาลตรุษจีน) เช่น The Empire Hotel Hong Kong , Luk Kwok Hotel, Hotel New Harbour และ Holiday In Express
ฮ่องกงมีมูลค่าการส่งออกสินค้าชุดชั้นในสตรีชุดชั้นในสตรี(Brassiers(SITC 84551)) ในปี
2551 มูลค่าทั้งหมด 1,456 พันล้านเหรียญสหรัฐ อัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 โดยมีการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกามูลค่า 609 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพี่มขึ้นร้อยละ 19.4 สหราชอาณาจักรมูลค่า 195 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 6.8 เยอรมันนี มูลค่า 101 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 3.5 ฝรั่งเศส มูลค่า 93 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เนอร์เธอแลนด์ มูลค่า 65 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6 แคนาดา มูลค่า 61 พันล้านสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 10.9 ออสเตรเลีย มูลค่า 47 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ญี่ปุ่น มูลค่า 45 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 16.5 เรียงตามลำดับ สำหรับไทยฮ่องกงมีการส่งออกไปไทย มูลค่า 765 พันล้านเหรียญ ลดลงร้อยละ 12.6
ผู้ส่งออก(OEM) ชุดชั้นในของฮ่องกงได้แก่ Cerie International Ltd., Ace Style Intimate Apparel Ltd. , Tanitex Industries Ltd., All Faith (Far East) Co., Ltd. Hender Nightwear Factory Ltd. , etc., บริษัท SMEs ของฮ่องกงในแต่ละปีมีการผลิตประมาณ 10 ล้านชิ้น ได้แก่ กางเกงในชาย ชุดชั้นในผู้หญิง(ของเด็ก ผู้ใหญ่) ตลอดจน Bra ชุดว่ายน้ำ ชุดนอน ชุดชั้นในสำหรับเพื่อลดความอ้วน ฯลฯ ไปยังผู้ซื้อระดับ Fashion High End, ห้างสรรพสินค้า และ Chain Stores ไปยังทั่วโลก
เนื่องจากฮ่องกงมีมาตรฐานทำให้ทั่วโลกเชื่อถือ ได้แก่ การขนส่งที่รวดเร็วและตรงเวลา มาตราฐานสินค้า การติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย รวมถึงระบบ IT ตลอดจนการคุ้มครองและการป้องกันการลอกเลียนแบบสินค้า ที่มีการควบคุมอย่างเข้มแข็ง
ในปี ค.ศ. 2005 ฮ่องกงมีตัวเลขการส่งออกมูลค่า 28,073 ล้านเหรียญฮ่องกง และเพิ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2007 มูลค่า 31,274 ล้านเหรียญฮ่องกง
ฮ่องกงรักษาความนิยมสูงสุด และสามารถแข่งขันกับตลาดภายนอกได้ เพราะผู้ส่งออกมีการ update ข้อมูล แนวแฟชั่น ตลอดจนโรงงานขนาดใหญ่ของฮ่องกงได้ย้ายโรงงานไปยังจีนเป็นผลให้สินค้าลดค่าใช้จ่ายวัตถุดิบและค่าแรงงาน
ฮ่องกงมีแหล่งนำเข้าชุดชั้นในสตรี(Brassiers(SITC 84551)) ในปี 2551 มีมูลค่า 812 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 ตลาดนำเข้าหลัก ได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่ มูลค่า 788 พันล้านเหรียญฯ อัตราการขยายตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 ไต้หวันมูลค่า 788 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 12.8 สหรัฐอเมริกา 2.7 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 213.9 อิตาลี มูลค่า 2 .2 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.1 ฝรั่งเศส มูลค่า 2.1 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 ญี่ปุ่น มูลค่า 2.1 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.8 สหราชอาณาจักร มูลค่า 2.0 พันล้านฯ ลดลงร้อยละ 12 และไทย มูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญฯ ลดลงร้อยละ 3.4 ชาวฮ่องกงมีพฤติกรรมการสวมเสื้อผ้าเป็นไปตามฤดูกาล การเลือกซื้อ เนื่องจากฮ่องกงเป็น เมืองท่าเสรี ไม่มีภาษีนำเข้าและฮ่องกงยังไม่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม( VAT) จึงทำให้ชาวฮ่องกงและชาวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวสามารถ Shopping ได้ราคาไม่สูงมากกว่าต้นทุน และฮ่องกงยังมีเขตติดกับจีน ทำให้ชาวจีนเข้ามา Shopping ในฮ่องกง และชาวฮ่องกงก็นิยมเดินทางไปสั่งตัดเสื้อในเขตเสิ้นเจิน เพราะราคาถูก
1. ต้องขออนุญาตหน่วยงานรัฐบาล Trade and Industry Department
ประเภทสินค้านำเข้า Garment และ Textile ต้องมี Import License(Form 7) และต้องแจ้งรายละเอียดชนิดและประเภทสินค้าประเภทใด สามารถเปิดดูรายละเอียดได้ที่ http://www.tid.gov.hk/eindex.html หรือ เบอร์โทร. (852) 2392 2922.
2. พิธีการศุลกากร สามารถสอบถามได้ที่ http://www.customs.gov.hk/ หรือ เบอร์โทร. (852) 28157711
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง
ที่มา: http://www.depthai.go.th