ในปัจจุบัน ปัญหาด้านสุขอนามัยอาหารที่นำเข้าสิงคโปร์สร้างความกังวลต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เนื่องจากสินค้าอาหารนำเข้าบางชนิดมีสารพิษเจือปนและโรคระบาด ดังนั้น ผู้บริโภคในสิงคโปร์จึงหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศแทน โดยเฉพาะสินค้าผักและไข่ไก่ ซึ่งนอกจากปัญหาสารพิษตกค้าง/เจือปน และโรค Highly Pathogenic Avian Influenza (HPAI) หรือ Bird Flu แล้ว การนำเข้าสินค้าผักและไข่ไก่จากมาเลเซีย (แหล่งนำเข้าสำคัญ นอกเหนือจากออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สวีเดน และสหรัฐฯ) ได้มีปริมาณ ลดลงและราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ตลอดมา ส่งผลให้สัดส่วนของสินค้านำเข้ามีราคาแตกต่างกับสินค้าที่ผลิตในประเทศเพียงร้อยละ 10 (เดิมแตกต่าง ร้อยละ 30) จึงทำให้ผู้บริโภคในสิงคโปร์หันมาซื้อผักและไข่ไก่ที่ผลิตในประเทศแทน ซึ่งผลผลิตมีความสด และถูกสุขอนามัย
- ผลผลิต
จากสถิติของหน่วยงานควบคุมการนำเข้าสินค้าอาหาร Agri-Food and Veterinary Authority (AVA) ของสิงคโปร์ ปรากฏผลผลิตผักในสิงคโปร์ ปี 2550 มีปริมาณ 19,027 ตัน (เพิ่มขึ้นจาก 17,397 ตันในปี 2548) และผลผลิตไข่ไก่ มีจำนวน 373 ล้านฟอง (เพิ่มขึ้น 29 ล้านฟองต่อปี ตั้งแต่ปี 2548)
- ฟาร์ม
1. ฟาร์มปลูกผักมีจำนวน 67 แห่ง (กค. 51) รวมพื้นที่ประมาณ 700 ไร่ ปลูกผักใบเขียว (เช่น ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี และ aromatic herbs : basil, chives, oregano, thyme) และถั่วงอก ซึ่งร้อยละ 80 จะปลูกโดยใช้ดิน และที่เหลือปลูกโดยใช้ระบบ hydroponic มีตาข่ายปกคลุมเพื่อให้ได้ผลผลิตปริมาณมากและมีคุณภาพดี ผลผลิตของผักและถั่วงอกมีมูลค่าประมาณปีละ 143 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ซึ่งใช้บริโภคภายในประเทศเท่านั้น โดยแต่ละฟารม์สามารถเก็บผักจำหน่ายได้ประมาณวันละ 500 กิโลกรัม — 5 ตัน ฟาร์มผักสำคัญๆ ได้แก่ Kok Fah Technology, Quan FA Vegetarian Farm, Oh Chin Huat Hydroponic Farm, Tropical Aeroponics Pte. Ltd., Yili Vegeterian & Trading Pte. Ltd., Wong Joon Tay’s Farm, Wong Koh Fah & Kwee Tay’s Farm
2. ฟาร์มไข่ไก่ มีจำนวน 5 แห่ง (กค.51) รวมพื้นที่ประมาณ 560 ไร่ มีผลผลิตรวมวันละ 1.1 ล้านฟอง คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนการบริโภคต่อวันประมาณ 3 ล้านฟอง โดยมูลค่าการบริโภคไข่ไก่ประมาณปีละ 102 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ฟาร์มไข่ไก่ ได้แก่ N& N Poultry Farm, Seng Choon Farm Pte. Ltd, Keng Hong Layer Farm, Chew’s Agriculture Pte. Ltd. และ Malaysian Feedmills Farms Pte. Ltd.
ทั้งนี้ในปี 2551 (มค.-พย.) การจำหน่ายสินค้าผักและไข่ไก่ที่ผลิตในประเทศมีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยสินค้าฯจำหน่าย ณ ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ได้แก่ Cold Storage มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 , NTUC FairPrice จำหน่ายไข่ไก่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และผักเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 อีกทั้งได้เพิ่มรายการสินค้าผัก จาก 12 รายการเมื่อ 3 ปีก่อน เป็น 17 รายการในปัจจุบัน, Sheng Siong เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และได้เพิ่มรายการสินค้าผักจาก 4 รายการเมื่อปีที่ผ่านมา เป็น 7 รายการในปัจจุบัน
(1) แม้ว่าสิงคโปร์จะมีการผลิตผักและไข่ไก่ในประเทศ แต่ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าเกือบทุกชนิดจากต่างประเทศต่อไป เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการบริโภคภายในประเทศ
(2) สินค้าที่ผู้ผลิตไทยมีโอกาส คือ ผัก Organic ซึ่งในปัจจุบัน ผู้บริโภคให้ความระมัดระวังในเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น และจะเลือกซื้อผักที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย แม้ราคาจะสูงกว่าผักธรรมดา
(3) ในขณะนี้ ซุปเปอร์มาร์เก็ต NTUC FairPrice มี Contract Farm ในประเทศไทยที่จังหวัดลพบุรี และเพชรบูรณ์ปลูกผัก Organic เป็นไปตามระเบียบข้อกำหนดของ AVA ซึ่งทำให้การนำเข้า สินค้าดังกล่าวสู่ตลาดสิงคโปร์เป็นไปอย่างราบรื่น
ที่มา : Agri-Food and Veterinary Authority (AVA), The Straits Times
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์
ที่มา: http://www.depthai.go.th