เมืองหลวง : Washington , DC พื้นที่ : 9,161,923 ตารางกิโลเมตร ภาษาราชการ : English ประชากร : 301.6 ล้านคน (1 ก.ค. 2550) อัตราแลกเปลี่ยน : US$ : 35.266 บาท (26/03/52) (1) เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ
ปี 2007 ปี 2008
Real GDP growth (%) 2.00 1.80 Consumer price inflation (av; %) 2.90 4.50 Budget balance (% of GDP) -1.20 -2.50 Current-account balance (% of GDP) -5.30 -4.70 Commercial banks' prime rate (year-end; %) 5.00 2.20 Exchange rate ฅ:US$ (av) 1.37 1.51 โครงสร้างสินค้าออกของไทยกับสหรัฐอเมริกา มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินค้าออกสำคัญทั้งสิ้น 2,375.06 100.00 -26.25 สินค้าเกษตรกรรม 230.29 9.70 -4.04 สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 274.38 11.55 -3.95 สินค้าอุตสาหกรรม 1,836.51 77.32 -29.63 สินค้าแร่และเชื้อเพลิง 33.88 1.43 -60.10 สินค้าอื่นๆ 0.00 0.00 โครงสร้างสินค้าเข้าของไทยกับสหรัฐอเมริกา มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นำเข้าทั้งสิ้น 1,210.09 100.00 -38.99 สินค้าเชื้อเพลิง 29.64 2.45 -21.86 สินค้าทุน 432.83 35.77 -44.34 สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป 555.46 45.90 -41.48 สินค้าบริโภค 162.52 13.43 -19.52 สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง 24.06 1.99 75.42 สินค้าอื่นๆ 5.60 0.46 85.44 1. มูลค่าการค้า มูลค่าการนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าของไทย - สหรัฐอเมริกา 2551 2552 D/%
(ม.ค.-กพ.) ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าการค้ารวม 5,203.83 3,585.15 -31.11 การส่งออก 3,220.51 2,375.06 -26.25 การนำเข้า 1,983.32 1,210.09 -38.99 ดุลการค้า 1,237.18 1,164.96 -5.84 2. การนำเข้า ประเทศไทยนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับที่ 3 มูลค่า 1,210.09 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ -38.99 สินค้านำเข้าสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าการนำเข้ารวม 1,210.09 100.00 -38.99 1.เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 146.91 12.14 -16.24 2.แผงวงจรไฟฟ้า 118.71 9.81 -44.56 3.พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช 104.52 8.64 4.37 4.เคมีภัณฑ์ 88.61 7.32 -54.08 5.เครื่องคอมพิวเตอร์ 84.49 6.98 -40.23 อื่น ๆ 139.93 11.56 -30.40 3. การส่งออก ประเทศไทยส่งออกไปเป็นสหรัฐอเมริกา อันดับที่ 1 มูลค่า 2,375.06 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -26.25 สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ มูลค่า : สัดส่วน % % เพิ่ม/ลด
ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าการนำเข้ารวม 2,375.06 100.00 -26.25 1.เครื่องคอมพิวเตอร์ 423.34 17.82 -27.04 2.เสื้อผ้าสำเร็จรูป 200.85 8.46 -21.41 3.อาหารทะเลกระป๋อง 146.04 6.15 -2.84 4.ผลิตภัณฑ์ยาง 128.48 5.41 -9.93 5.อัญมณี 97.44 4.10 -36.25 อื่น ๆ 451.80 19.02 -32.76 4. ข้อสังเกต 4.1 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปสหรัฐอเมริกา ปี 2552 (มค.-กพ.) ได้แก่
เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ : สหรัฐอเมริกา เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 พบว่า ปี 2552 (มค.-กพ.) เป็นเพียงปีเดียวที่มีอัตราการขยายตัวลดลง 25.75 ในขณะที่ปี 2549 2550 2551 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 43.23 15.20 และ 2.97 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เสื้อผ้าสำเร็จรูป : สหรัฐอเมริกา เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.) พบว่ามีอัตราการขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ -2.26 -5.81 -8.09 และ - 21.41 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อาหารทะเลกระป๋องฯ : สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 - 2552 พบว่า ปี 2550 และ ปี 2552(มค.-กพ.)ที่มีอัตราการขยายตัวลดลง (-6.04% และ -2.84%) ในขณะที่ปี 2549 2551 มีอัตราขยายตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.25 และ 14.18 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ผลิตภัณฑ์ยาง : สหรัฐอเมริกา เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 - 2552 พบว่า ปี 2552(มค.-กพ.) มีอัตราการขยายตัวลดลง (-9.93%) ในขณะที่ปี 2549-2551 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 23.36 11.87 และ 11.22 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อัญมณีและเครื่องประดับ : สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 4 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2547 - 2551 พบว่า ปี 2549 และ ปี 2552(มค.-กพ.) ที่มีอัตราการขยายตัวลดลง (-1.84% และ -36.25%) ในขณะที่ปี 2550 2551 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.37 และ 4.78 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อันดับที่ / รายการ มูลค่า อัตราการขยายตัว หมายเหตุ ล้านเหรียญสหรัฐ % 8. ข้าว 70.91 36.84 14.รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ 43.38 47.29 4.3 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปสหรัฐอเมริกา ปี 2552 (ม.ค.-กพ.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราลดลง รวม 23 รายการ คือ อันดับที่ / รายการ มูลค่า อัตราการขยายตัว ล้านเหรียญสหรัฐ % 1.เครื่องคอมพิวเตอร์ 423.34 -27.04 2.เสื้อผ้าสำเร็จรูป 200.85 -21.41 3.อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 146.04 -2.84 4.ผลิตภัณฑ์ยาง 128.48 -9.93 5.อัญมณีและเครื่องประดับ 97.44 -36.25 6.เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ 94.44 -23.00 7.แผงวงจรไฟฟ้า 74.13 -43.52 9.ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 67.65 -11.47 10.ยางพารา 62.53 -26.56 11.กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง 61.21 -4.00 12.เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์13.น้ำมันดิบ 60.20 -18.23 13.เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 44.96 -5.57 15.เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนฯ 39.34 -61.98 16.เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 38.61 -6.37 17.ผลิตภัณฑ์พลาสติก 36.35 -33.35 18.เครื่องโทรศัพท์ เครื่องตอบรับ 35.12 -13.23 19.เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในครัวและบ้านเรือน 33.69 -7.73 20.น้ำมันดิบ 33.36 -60.45 21.ส่วนประกอบอากาศยานและอุปกรณ์การบิน 32.78 -61.45 22.รองเท้าและชิ้นส่วน 26.40 -29.28 23.เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน 24.39 -36.27 25.เลนซ์ 23.95 -34.98 25.เครื่องยกทรง รัดทรง 23.70 -12.81 4.4 ข้อมูลเพิ่มเติม
การส่งออกไทย ปี 2551 ใช้สิทธิ GSP มีมูลค่า 3,533.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62 ของมูลค่าส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิ GSP สินค้าที่ไทยใช้สิทธิ GSP สูง 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องรูปพรรณอื่น ๆ ทำด้วยโลหะเงิน ยางเรเดียล รถบรรทุก ยางเรเดียลรถยนต์นั่ง อาหารปรุงแต่ง และชุดสายไฟชนิดที่ใช้กับยานยนต์ นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่ไทยใช้สิทธิ GSP น้อย สินค้าอีกหลายรายการที่สหรัฐฯ ให้สิทธิ GSP แต่ผู้ส่งออกไทยยังไม่มีการขอใช้สิทธิ หรือใช้สิทธิเพียงเล็กน้อย เช่น กระจกแผ่น รถจักรยานยนต์กระบอกสูบเกิน 800 ลบ.ซม.หูฟังโทรศัพท์ อุปกรณ์สำหรับควบคุมอัตโนมัติ กล้องถ่ายโทรทัศน์ และไม้ตีกอล์ฟ เป็นต้น นับเป็นการเสียโอกาสของผู้ส่งออกไทยในการเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ จากสถิติไทยนำเข้าสหรัฐฯ ปี 2551 ปรากฎว่ามีสินค้าที่ไทยนำเข้าสหรัฐฯ เกิน CNL ที่สหรัฐฯ กำหนดซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะได้ยื่นคำร้องขอผ่อนผันไม่ให้ระงับสิทธิ GSPกรณี De Minimis Waiver จำนวน 5 รายการ คือ ดอกกล้วยไม้สด ทุเรียนสด มะละกอตากแห้ง มะขามตากแห้ง มะละกอแปรรูป โดยเท่าที่ผ่านมาการขอผ่อนผันกรณีนี้ สหรัฐฯ จะผ่อนผันไม่ระงับสิทธิ GSP ให้เป็นประจำทุกปีและขอคืนสิทธิ GSP กรณี Redesignation จำนวน 5 รายการ คือ กระเบื้องปูพื้นและผนัง แผ่นฟิล์มทำจากโพลิเมทิล แป้งธัญพืช ลิ้นจี่ ลำไยกระป๋อง และเม็ดพลาสติก ในทันทีที่สหรัฐฯ เปิดโอกาสให้ดำเนินการได้ซึ่งคาดว่า USTR จะออกประกาศประมาณเดือนมีนาคม 2552 จากสถานการณ์ปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่าผู้ส่งออกไทยต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อการส่งออกโดยรวมของประเทศ ผู้ส่งออกไทยจึงควรใช้ประโยชน์จากสิทธิ GSP ที่ยังคงได้รับอยู่ให้มากที่สุด เนื่องจากปรากฏว่ามีสินค้าหลายรายการที่ไทยยังไม่ขอใช้สิทธิ หรือใช้สิทธิเพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต โดยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง และลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด รวมทั้งมีการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับการส่งออก และพยายามหาตลาดใหม่เพื่อขยายฐานการส่งออก เพื่อเตรียมพร้อมที่จะปรับตัวให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยลดการพึ่งพา GSP ซึ่งนับวันจะลดน้อยลง
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า ปี 2552 นี้ ได้มีแผนส่งเสริมผลักดันการส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังทวีปอเมริกาเหนือทั้งในประเทศแคนาดาและสหรัฐ อเมริกา ซึ่งผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ มีประชากรมุสลิมรวมกันมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีแนวโน้มค่อนข้างสดใส ประเทศไทยจึงมีโอกาสสูงที่จะขยายตลาดสินค้าฮาลาลเนื่องจากไทยมีความสามารถในการผลิตสินค้าให้เป็นไปตามศาสนบัญญัติ รวมทั้งมีคุณภาพและราคาที่สามารถแข่งขันได้ทั้ง สินค้าที่เป็นอาหาร เช่น ไก่ปรุงสุก ซอสปรุงรส เครื่องดื่ม และน้ำผลไม้ รวมทั้งสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เช่น เครื่องสำอางและ เสื้อผ้า เป็นต้น ขณะนี้ไทยกำลังเร่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของตลาดสินค้าอาหารฮาลาล ทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เช่น รสนิยม พฤติกรรมการบริโภค ซึ่งจะ ช่วยให้ไทยสามารถผลิตสินค้าอาหารฮาลาลเจาะตลาดได้ตรงความต้องการของผู้บริโภคในทวีปอเมริกาเหนือนอกจาก นี้แคนาดาและสหรัฐฯ ไม่ได้กำหนดกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าฮาลาลเป็นมาตรการภาคบังคับ และไม่ต้องตรวจสอบกระบวนการผลิตก่อนส่งออก ดังนั้น จึงมี ความเป็นไปได้สูงโดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์ว่ามีมูลค่าสินค้าฮาลาลสูงถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี หรือกว่า 396,000 ล้านบาท ขณะที่สินค้าไก่และผลิตภัณฑ์ในแคนาดาก็มีแนวโน้มสดใสศึกษาการตลาดเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องรสนิยมของผู้บริโภค เพื่อผู้ประกอบการจะได้ผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งจะช่วยผลักดัน ส่งออกสินค้าฮาลาลไทยไปสู่ตลาดโลกได้เพิ่มสูงขึ้น
การที่สมาคมผู้นำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของสหรัฐเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐทบทวนนโยบายการค้าเครื่องนุ่งห่ม โดยให้กำหนดมาตรการนำเข้าสินค้าทุกประเภทให้เป็นรูปแบบเดียวกัน ทั้งการเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูง,การกำหนดโควตานำเข้า และกฎเกณฑ์แหล่งกำเนิดสินค้าที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าสิ่งทอฯของสหรัฐ หลังการที่มีการจำกัดโควตานำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจีน 22รายการ สิ้นสุดลงไปเมื่อ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมาถ้ารัฐบาลสหรัฐฯเห็นชอบข้อเรียกร้องนี้ นอกจากจะเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคชาวสหรัฐครัวเรือนละ 800 เหรียญสหรัฐต่อปีแล้ว ยังจะทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องประสบปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในตลาดสหรัฐ เพราะจีนถือเป็นคู่แข่งสำคัญของไทย นอกจากนี้ ในปีนี้ผู้ประกอบการไทยยังต้องเตรียมรับมือสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่คาดว่าจะต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้า ดังนั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัว เพื่อรับมือสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น รวมถึงต้องพยายามช่วงชิงและรักษาส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐไว้ให้ได้สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตได้แก่ ชุดชั้นใน กางเกง เสื้อสเว็ตเตอร์ เสื้อผ้าเด็ก และเส้นด้าย ซึ่งนอกจากจีนแล้ว เวียดนามและอินโดนีเซียยังเป็นคู่แข่งของไทยในตลาดสหรัฐเช่นกัน
ที่มา: http://www.depthai.go.th