พาณิชย์ โหมกระแสความแรงมหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง ปี 2552 หลังประชาชนตอบรับดี ตามคา เดินหน้าจัดงานครั้งที่ 3 เผยมั่นใจเลือก จ.มุกดาหาร เพราะมีทำเลที่ตั้งเหมาะสมเป็นทางผ่าน สู่ประเทศแถบอินโดจีน จึงอำนวยต่อการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โชว์ไฮไลท์สินค้าดีคุณภาพส่งออก พร้อมอัดโปรโมชั่น กิจกรรมพิเศษ แจกโชครางวัลใหญ่ และความบันเทิงอีกครบครัน
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวในพิธีเปิดงานมหกรรมการค้า ลุ่มน้ำโขง ปี 2552 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ว่า กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการจัดงานมหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง ปี 2552 ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมีผู้ประกอบการและประชาชนสนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก สร้างรายได้เข้าประเทศไปแล้วกว่า 171 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการส่งออก เชื่อมั่นว่าจะมีกระแสตอบรับอย่างเนืองแน่นจากผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนกลุ่มนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากจังหวัดมุกดาหารมีสภาพภูมิประเทศติดกับแนวชายแดนจากระเบียงตะวันออกสู่ตะวันตกระยะทางยาวกว่า 70 กิโลเมตร ตามเส้นทางประตูสู่ตลาดอินโดจีน จึงมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ทั้งในด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ การค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งในปี 2551 ที่ผ่านมา เฉพาะบริเวณด่านชายแดนสะพานมิตรภาพไทย — ลาว แห่งที่ 2 มุกดาหาร — สะหวันนะเขต มีมูลค่าการค้าถึง 24,036 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 78,828 ล้านบาท
“ประกอบกับระยะเวลาการจัดงานคือวันที่ 10 - 15 เม.ย.นี้ ซึ่งตรงกับเทศกาลวันสงกรานต์ ถือเป็นช่วงที่มีอัตราเงินสะพัดในส่วนภูมิภาคค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว ทำกิจกรรมกับครอบครัว จึงมีแนวโน้มการตัดสินใจจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น ขณะที่จังหวัดมุกดาหารเองก็ได้พัฒนาสถานประกอบการ ที่พัก โรงแรม และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยวไว้อำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย” นายราเชนทร์ กล่าว
นายราเชนทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รูปแบบของงานในครั้งนี้ ยังคงเน้นในส่วนของการนำสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม สินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น สินค้าธงฟ้า และสินค้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมาจัดแสดงและจำหน่ายในราคาพิเศษ รวม 366 คูหา แบ่งเป็นผู้ประกอบการไทยในกลุ่มของผู้ส่งออก 113 คูหา ส่วนภูมิภาค 153 คูหา และผู้ประกอบการ จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อีก 13 คูหา
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ การสรงน้ำพระเนื่องในวันสงกรานต์ ประกวดร้องเพลงไทยยลูกทุ่ง การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปิน และนักร้องชื่อดัง อาทิ คณะเสียงอีสาน นกน้อย อุไรพร, บานเย็น รากแก่น, เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา, พี สะเดิด, แดง จิตรกร ตลอดจนดาราดังจากช่อง 3 พร้อมลุ้นรับของรางวัลรถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สร้อยคอทองคำทุกวัน
ที่มา: http://www.depthai.go.th