สรุปภาวะการค้าระหว่างประเทศไทย - กาตาร์ ปี 2551 (ม.ค.—ก.พ.) สรุปจากสถิติ Menucom กรมส่งเสริมการส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 28, 2009 13:47 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ข้อมูลทั่วไป:
เมืองหลวง          :  Doha
พื้นที่               :  11,521 ตารางกิโลเมตร
ภาษาราชการ        :  Arabic ; English widely used
ประชากร           :  820,000 คน (mid 2006)
อัตราแลกเปลี่ยน      :  QR 3.64 : US$ 1 (6/04/52)

(1) เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ

ปี 2008 ปี 2009

Real GDP growth (%)                      11.2        11.6
Consumer price inflation (av; %)         14.8         9.2
Budget balance (% of GDP)                 6.8        -6.8
Current-account balance (% of GDP)       18.2        -2.9
Exchange rate QR:US$ (av)                3.64        3.64
Exchange rate QR: (av)                   5.35         4.9

โครงสร้างสินค้าออกของไทยกับกาตาร์
                                   มูลค่า :          สัดส่วน %     % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สินค้าออกสำคัญทั้งสิ้น                    94.40           100.00        137.49
สินค้าเกษตรกรรม                       1.75             1.85          6.40
สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร               1.47             1.56         23.65
สินค้าอุตสาหกรรม                      91.12            96.53        147.13
สินค้าแร่และเชื้อเพลิง                    0.05             0.05         27.72
สินค้าอื่นๆ                              0.0              0.0       -100.00

โครงสร้างสินค้าเข้าของไทยกับกาตาร์
                                         มูลค่า :          สัดส่วน %      % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นำเข้าทั้งสิ้น                                153.47          100.00         -71.33
สินค้าเชื้อเพลิง                              138.34           90.15         -70.67
สินค้าทุน                                      0.0             0.0         -77.63
สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป                     15.10            9.84         -76.23
สินค้าบริโภค                                  0.02            0.02         -13.87
สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ฯ                       0.0             0.0
สินค้าอื่นๆ                                     0.0             0.0           -200

1. มูลค่าการค้า
มูลค่าการนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าของไทย - กาตาร์
                           2550           2551        D/%

(ม.ค.-ก.พ.) ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการค้ารวม              574.94         247.86     -56.89
การส่งออก                   39.75          94.40     137.49
การนำเข้า                  535.19         153.47     -71.33
ดุลการค้า                  -495.44         -59.07     -88.08

2. การนำเข้า
ประเทศไทยนำเข้าจากตลาดกาตาร์เป็นอันดับที่ 23 มูลค่า 153.47 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ -71.3 สินค้านำเข้าสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่
                                     มูลค่า :          สัดส่วน %      % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการนำเข้ารวม                      153.47          100.00        -71.30
1.น้ำมันดิบ                             138.34           90.15        -70.67
2.ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชฯ                   9.05            5.90        -83.94
3.เคมีภัณฑ์                               6.04            3.94        -15.61
4.ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ                       0.01            0.01         81.20
5.ผลิตภัณฑ์กระดาษ                         0.01             0.0         -1.52
อื่น ๆ                                      0             0.0        -97.30

3. การส่งออก
ประเทศไทยส่งออกไปตลาดกาตาร์เป็นอันดับที่ 34 มูลค่า 94.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 137.4 สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่
                                   มูลค่า :          สัดส่วน %      % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการส่งออก                       94.40           100.00         137.40
1.เหล็ก เหล็กกล้า                     36.30            38.45         516.74
2.รถยนต์ อุปกรณ์และฯ                  23.21            24.59          52.44
3.อัญมณีและเครื่องประดับ                14.93            15.82         404.26
4.สายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล                  5.31             5.63          2,000
5.เครื่องปรับอากาศฯ                    2.80             2.97           9.54
        อื่น ๆ                        2.02             2.14           1.24

4. ข้อสังเกต
4.1 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปกาตาร์ ปี 2551 (มค.-กพ.) ได้แก่

เหล็ก เหล็กกล้า : กาตาร์เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 5 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.) พบว่ามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 47.88 18.62 22.74 และ 516.74 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ : กาตาร์เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 15 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.) พบว่ามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 162.13 7.34 20.62 และ 52.44 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

อัญมณีและเครื่องประดับ : กาตาร์เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 14 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.)พบว่า ปี 2549 และ 2550 มีอัตราการขยายตัวลดลง(-3.10% -60.97%) ในขณะที่ปี 2551 2552 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 344.68 และ 404.26 ตามลำดับเมื่อ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

สายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล : เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.) พบว่าปี 2551 มีอัตราการขยายตัวลดลง (-60.37% ) ในขณะที่ปี 2549 2550 และ 2552 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 73.58 4,553.56 และ 2,000 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เครื่องปรับอากาศฯ : เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 — 2552 (มค.-กพ.) พบว่ามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 2.31 6.42 50.25 และ9.54 ตามลำดับเมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

4.2 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปตลาดกาตาร์ปี 2551 (ม.ค.-ก.พ.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราเพิ่มสูงโดยสูงกว่าร้อยละ 50 มีรวม 11 รายการ คือ
   อันดับที่ / รายการ                         มูลค่า           อัตราการขยายตัว      หมายเหตุ
                                       ล้านเหรียญสหรัฐ            %
1.เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์                   36.30             516.74
2.รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ                 23.21              52.44
3.อัญมณีและเครื่องประดับ                       14.93             404.26
4.สายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล                         5.31           2,000.00
16. เสื้อผ้าสำเร็จรูป                           0.28             365.69
18.ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปฯ            0.20             101.11
19.รองเท้าและชิ้นส่วน                          0.18             106.49
21.เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ             0.14              57.03
22.เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในครัวฯ                 0.13              80.32
24.เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน                       0.12             108.51
25.ทองแดงและของทำด้วยทองแดง                 0.12           1,035.37

4.3 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปตลาดกาตาร์ปี 2551 (ม.ค.- ก.พ.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราลดลงรวม 9 รายการ คือ
   อันดับที่ / รายการ                      มูลค่า         อัตราการขยายตัว
                                    ล้านเหรียญสหรัฐ          %
7.ปูนซิเมนต์                               1.64          -49.24
9.กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ                 0.60           -7.36
10.ผลิตภัณฑ์ยาง                            0.47          -53.27
11.เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งฯ              0.46           -9.19
12.อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป              0.40          -17.05
13.ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ              0.39          -49.48
15.ผลิตภัณฑ์เซรามิก                         0.28           -1.07
20.ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้                        0.17          -45.22
23. ผลไม้กระป๋องและแปรรูป                  0.12          -58.35

4.4  ข้อมูลเพิ่มเติม

ในขณะที่ทั่วโลกประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากสหรัฐอเมริกาก่อนที่จะลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ในหลายภูมิภาค ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ลดลง ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าจึงต้องพยายามแสวงหาตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ หนึ่งในนั้น คือ ตลาดในแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม GCC (Gulf Cooperation Councill) ซึ่งประเทศที่นับว่าเป็นดาวเด่นและน่าสนใจที่สุดในปัจจุบัน คือ กาตาร์ จากรายงานของ IMF Country Report No. 09/28 (January 2009) ระบุว่า ในปี 2552 กาตาร์จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 29 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 16.4 ในปีก่อนหน้า จึงนับเป็นอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ทั้งนี้ IMF คาดว่ากาตาร์จะเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในภูมิภาค ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตก๊าซธรรมชาติเพิ่มได้เป็น 2 เท่า นอกจากนั้น รัฐบาลกาตาร์ยังสามารถรับมือกับผลกระทบจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีจำนวนประชากรเพียง 1.3 ล้านคน แต่กาตาร์มีจุดเด่นอยู่ที่การมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี ประชาชนภายในประเทศโดยรวมมีความมั่งคั่ง ดังนั้น ความต้องการบริโภคสินค้าราคาแพงอย่างอัญมณีและเครื่องประดับจึงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในภาคการผลิตสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของกาตาร์ยังถือได้ว่าเป็นเพียงอุตสาหกรรมขนาดเล็กโดยมักเป็นร้านหรือเวิร์คชอปที่ทำการปรับแก้ขนาด/ซ่อมแซมสินค้าให้กับลูกค้าเป็นหลัก ส่วนการผลิตเครื่องประดับทั้งชิ้นมีบ้างในช่วงเทศกาลสำคัญซึ่งจะเป็นการผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้ารวมไปถึงการนำปากกามาประดับเพชร ตลอดจนการผลิตกระดุมข้อมือเสื้อประดับพลอยสีและเพชร กิจการเครื่องประดับเพชร ตลอดจนการผลิตกระดุมข้อมือเสื้อประดับพลอยสีและเพชร กิจการเครื่องประดับส่วนใหญ่ไม่นิยมผลิตเครื่องประดับขึ้นเองและมีแนวโน้มนำเข้าเครื่องประดับเพิ่มสูงขึ้นจากการที่ชาวกาตาร์รุ่นใหม่หันมานิยมรูปแบบเครื่องประดับที่ทันสมัยจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงน่าจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับจากไทย ในการเจาะตลาดอัญมณีและเครื่องประดับกาตาร์อาจจะใช้ส่วนผสมทางการตลาด ที่เหมาะสมดังนี้

สินค้า: สินค้าที่ควรนำเสนอให้แก่ผู้บริโภคชาวกาตาร์คือ เครื่องประดับทองคำโดยเฉพาะ เครื่องประดับทองขาว และเครื่องประดับแพลทินัมคุณภาพสูง โดยเครื่องประดับดังกล่าวควร ตกแต่งด้วยอัญมณีที่มีขนาดใหญ่ มีสีสันสดใส และควรนำเสนอเครื่องประดับเป็นชุดได้แก่ สร้อยคอ ต่างหู แหวน สร้อยข้อมือ หากเป็นไปได้ควรออกแบบเครื่องประดับให้เข้าชุดกับ นาฬิกาประดับอัญมณีแบรนด์เนมชั้นนำเพื่อกระตุ้นยอดขายอีกทางหนึ่งด้วย

ราคาสินค้า: ระดับราคาอาจไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคชาวกาตาร์มากนัก ปัจจัยสำคัญที่มักถูกพิจารณาเป็นหลักก็คือ รูปแบบและคุณภาพ แม้ว่ากาตาร์ไม่มีกฎหมายบังคับให้เครื่องประดับที่จำหน่ายในประเทศต้องประทับเครื่องหมายรับรองค่าความบริสุทธิ์ของโลหะมีค่าบนตัวเรือนเครื่องประดับ แต่เครื่องประดับคุณภาพสูงส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในกาตาร์เป็น สินค้านำเข้าซึ่งมักผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพจากห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ที่มี ชื่อเสียงอีกทั้งยังจัดจำหน่ายผ่านผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจใน คุณภาพสินค้า ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรส่งสินค้าผ่านผู้นำเข้าซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องประดับรายใหญ่เพื่ออาศัยช่องทางการกระจายสินค้าและฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว อีกทั้งควรตรวจสอบคุณภาพเครื่องประดับให้ได้มาตรฐานพร้อมประทับตรารับรองคุณภาพความบริสุทธิ์และตราประทับของผู้ผลิตไทยเพื่อโอกาสในการพัฒนาฐานลูกค้าของตนเองในอนาคต

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงธุรกิจการค้าของประเทศกาตาร์ว่า ทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องต้องกันที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าให้แน่นแฟ้นขึ้นในระดับของผู้นำ โดยเห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้ากาตาร์ขึ้น โดยให้มีนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจเป็นประธาน เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น รวมทั้งเชิญชวนให้นักลงทุนจากกาตาร์เข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทย และใช้บริการธุรกิจสุขภาพท่องเที่ยว ซึ่งกาตาร์ถือเป็นประเทศคู่ค้าที่มีอนาคตดี เนื่องจากมีรายได้ต่อหัวสูงติด 1 ใน 3 ของโลก นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวอีกว่าเร็วๆ นี้ นายกรัฐมนตรีของไทยมีแผนการที่จะเดินทางเยือนประเทศกาตาร์อย่างเป็นทางการ เพื่อทำให้การค้าระหว่างไทยกับกาตาร์มีมูลค่าที่สมดุลมากขึ้น จากที่ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฝ่ายขาดทุนทางการค้ากับกาตาร์มาโดยตลอดจากการนำเข้าน้ำมัน ทั้งนี้ สภานักธุรกิจกาตาร์ ว่า ทางสภาธุรกิจกาตาร์ ต้องการสร้างกลไกให้การทำธุรกิจของ 2 ประเทศ มีระบบอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยัน รัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภานักธุรกิจร่วมของ 2 ประเทศขึ้น เพื่อให้เป็นช่องทางในการกระชับความสัมพันธ์ และแนะนำสินค้าของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในตลาดกาตาร์ ผ่านงานแสดงสินค้าต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสหารือร่วมกับ ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมกาตาร์ ซึ่งทางหอการค้าประเทศกาตาร์ พร้อมจะให้ความร่วมมือกับทาง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้า และเดินทางเยือนหอการค้าไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ