กรมส่งเสริมการส่งออกใช้เวที Baselworld งานแสดงสินค?นาฬิกาและเครื่องประดับที่ใหญ?ที่สุดในโลกย้ำสินค้าอัญมณีเครื่องประดับจากไทยยังยืนหยัดสู้วิกฤต เน้นภาพลักษณ์สินค้าพรีเมียม พร้อมหนุนธุรกิจสปาไทยและร้านอาหารไทยควบคู่
น.ส.จตุพร วัฒนสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงกเฟิร์ต ได้กล่าวถึงการนำผู้ส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Baselworld 09 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านาฬิกาและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในโลกว่างานนี้นับเป็นแหล่งพบปะเจรจาการค้าของนักธุรกิจในวงการนี้มายาวนานกว่า 92 ป?โดยในป?2552 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม — 2 เมษายน 2552 ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีผู้เข้าร่วมงาน 1,952 รายจาก 45 ประเทศ และน่าสนใจที่จำนวนผู้แสดงสินค้ารายใหม่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 40 ราย ในขณะที่จำนวนผู?ชมงานจะลดลงเล็กน้อยจากวิกฤติการณ?เศรษฐกิจโลก แต่ยังคงสูงถึงกว่า 93,900 คน ทั้งผู้จัดงานและนักธุรกิจในงานต่างก็มีความหวังว่าสภาพตลาดนาฬิกาและอัญมณีเครื่องประดับจะไม่ตกต่ำไปกว่านี้รวมถึงยังมีแววว่าธุรกิจน่าจะยังมีอนาคตอยู่ แม้ว่าธุรกิจนี้จะถูกมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยย่อมจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ?เศรษฐกิจโลกโดยตรง
ในส่วนของผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่ไปร่วมงาน Baselworld 09 มีจำนวน 65 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหญ?เช่น Pranda, Beauty Gems, Premier Gems, Thien Po, Diamrusa ซึ่งอยู่ในอาคารสำหรับแบรนด์ดังๆ เช่นอาคาร 2 และ 3 จ ำนวน 18 ราย ส่วนผู้ส่งออกอีก 47 ราย รวมอยู่ในอาคาร International เป?น Thailand Pavilion ในอาคาร 6 ในปีนี้?กรมส่งเสริมการส่งออกโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ยังร่วมกับสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย สร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นให้กับประเทศโดยมีการตกแต่งบริเวณคูหาประเทศไทย พร้อมคูหาประชาสัมพันธ?งานบางกอกเจมส และติดตั้งสื่อต่างๆ ทั้งป้ายธงใหญ?ป้ายโฆษณาด้านข้างรถ Shuttle Bus และหนังสือพิมพ์ประจำงาน ที่พิเศษกว่าปีก่อนๆ คือ ฝ่ายไทยได?เจรจากับผู้?จัดงานจนได้รับการสนับสนุนพื้นที่ และเต๊นท์ขนาดพื้นที่ 320 ตารางเมตรตรงด้านหน้าอาคาร 6 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อจัดจำหน่ายอาหารไทยและให?บริการสปา/นวดไทย
สปาไทย ที่ได้มีโอกาสเปิดตัวครั้งนี้ คือ Apsara Spa ซึ่งเปิดธุรกิจในอาคาร Bally House ที่เมืองซูริค ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออกให้การสนับสนุนเพื่อขยายธุรกิจในต่างประเทศตามโครงการ Internationalization ส่วนการจำหน่ายอาหารไทยโดยร้าน Thai House ร้านอาหารไทย ระดับพรีเมียม ซึ่งมี 2 สาขาในสวิตเซอร์แลนด? และเป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารไทย เช่น ข้าวอาหารพร้อมรับประทานฯ ส่งห้าง/ซุปเปอร์มาร์เก็ตสำคัญในสวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย ซึ่งการให้บริการอาหารและสปาไทยในงานนี้ได?รับความสนใจมากการตกแต่งร้านและการให?บริการสำหรับกลุ?มลูกค้าระดับสูงควบคู?ไปกับสินค้าระดับพรีเมียมเช่นนี้ช่วยสร้างภาพลักษณ?ประเทศไทยในมิติตลาด ลูกค้าระดับพรีเมียมได้เป็นอย่างดีความสำเร็จจากการร่วมมือกันเป็นอย่างดีในปีนี้ทำให้ผู้จัดงานก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือต่อไป
ที่มา: http://www.depthai.go.th