ผลกระทบของการระบาดของเชื้อไข้หวัด N1H1 ในประเทศเม็กซิโก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 15, 2009 13:55 —กรมส่งเสริมการส่งออก

จากเหตุการณ์ของไข้หวัด N1H1 โดยประเทศเม็กซิโกที่เป็นจุดเริ่มต้นของไข้หวัดที่ได้เกิดการระบาดดังกล่าวทั้งในประเทศเม็กซิโกและในอีกหลายประเทศในเวลาต่อมา ในส่วนของประเทศเม็กซิโกเอง รัฐบาลเม็กซิโกได้มีมาตรการการสั่งปิดโรงเรียน ที่ทำงาน ธุรกิจร้านค้า และแหล่งบรรเทิงสาธารณะ ตั้งแต่จากวันที่ 28 เมษายนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดดังกล่าว ย่อมต้องมีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของเม็กซิโกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจชลอตัวเนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินอยู่แล้ว โดยมีนักเศรษฐศาสตร์เม็กซิโกได้ประเมินว่า รายได้ประชาชาติโดยรวมในปีนี้จะหายไปร้อยละ 0.3 เนื่องจากกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจในกรุงเม็กซิโกซิตี้และรัฐเม็กซิโกมีมูลค่ารวมคิดเป็นสัดส่วนของรายได้ประชาชาติถึงร้อยละ 30 ฉะนั้นจึงประมาณการได้ว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมีมูลประมาณ 0.5 พันล้านเหรียญต่อวัน ดังนั้น การปิดทำการหนึ่งสัปดาห์ อาจมีผลเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวมประมาณ 3.5 พันล้านเหรียญฯ นั่นคือ ร้อยละ 0.3 ของรายได้ประชาชาติ นั้นเอง

ผลเสียหายที่เห็นได้ชัดโดยไม่ต้องพิจารณาตัวเลขเลย ได้แก่ การที่ประเทศต่าง ๆ ยกเลิกเที่ยวบินที่บินเข้าเม็กซิโกในช่วงระยะปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และการเตือนไม่ให้ประชาชนจากต่างประเทศเดินทางไปเม็กซิโก เป็นผลให้กิจการการท่องเที่ยวทั่วประเทศได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด สำหรับการท่องเที่ยวในระยะยาว มีบางประเทศเปลี่ยนกฏการเข้าเมือง เช่น ประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ที่กำหนดให้ชาวเม็กซิกันต้องขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ แม้กระทั้งการเดินทางเพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน transistจากเดิมที่ไม่จำเป็นต้องขอ

นอกจากนี้แล้ว ยังมีคู่ค้าประมาณ 20 ประเทศ ได้ระงับการนำเข้าเนื้อหมู และผลิตภัณฑ์หมูจากเม็กซิโก สหรัฐฯ และแคนาดา โดยไม่ได้แจ้งให้องค์การค้าโลกหรือประเทศคู่ค้าได้ทราบล่วงหน้า ซึ่งผิดกับแนวทางปฏิบัติทางการค้าภายใต้ข้อบังคับของ WTO ผลักดันให้สามประเทศในเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือร่วมมือกันประท้วงต่อคู่ค้า โดยเฉพาะกับประเทศจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าเนื้อหมูรายใหญ่ของโลก ซึ่งหากมีการระงับการนำเข้ายืดเยื้อออกไป อาจจะนำไปสู่การใช้มาตรการทางการค้าโต้ตอบกัน ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีในภาวะเศรษฐกิจมีปัญหาทั่วโลก ทั้งนี้มูลค่าการค้าเนื้อหมูในระดับโลกมีมูลค่าประมาณ 26 พันล้านเหรียญฯ

มาตรการช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2009 รัฐบาลเม็กซิโกได้ประกาศมาตรการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่กิจการขนาดกลางและย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดเชื้อไข้หวัด N1H1 โดยกำหนดงบประมาณความช่วยเหลือฉุกเฉินประมาณ 840 ล้านเหรียญฯ หรือ 11 พันล้านเปโซ โดยกำหนดส่วนที่จะให้กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวจำนวน 2 พันล้านเปโซ ความช่วยเหลือแก่สายการบิน 3 พันล้านเปโซ และ อีกหนึ่งพันกว่าล้านเปโซสำหรับฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศเม็กซิโก

งบความช่วยเหลือฉุกเฉินดังกล่าวจะใช้จ่ายผ่านธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งชาติเม็กซิโก Nacional Financiera (Nafinsa) โดยมีธนาคารเอกชนทั่วไปอีก 11 แห่งร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว สามารถให้เงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 12 โดยสามารถขอผ่อนผันไม่เสียดอกเบี้ยชั่วระยะหนึ่ง และไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คาดว่าเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยบรรเทาปัญหาการทางด้านการเงินของธุรกิจขนาดกลางได้ประมาณ 5,000 กิจการ และธุรกิจขนาดย่อย ๆ อีก 12,000 กิจการ และได้มีการประเมินว่า ความเสียหายในภาคการท่องเที่ยวเกิดขึ้นประมาณ 4 พันล้านเหรียญฯ และจะมีผลกระทบต่อการจ้างงานที่อาจสูญเสียไปประมาณ 20,000 ตำแหน่ง

ผลกระทบทางการเมือง

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีคาลเดรอน ปิดบังและบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของการระบาดของไขหวัด N1H1 โดยได้ชลอการประกาศให้สาธารณชนระมัดระวังตัวช้า หรือในอีกทางหนึ่งได้กระจายความหวาดกลัวเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดเกินเหตุ ทั้งหมดเพื่อหวังผลทางการเมื่อง เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งระดับผู้แทนราษฎรในครึ่งเทอมช่วงเดือนกรกฎาคม 2552 นี้ ซึ่งผลการเลือกตั้งดังกล่าวย่อมบ่งชี้แนวโน้มของผู้ที่มีสิทธิชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไปในอีกสามปีข้างหน้า

การสั่งปิดโรงเรียน ที่ทำการและธุรกิจทั่วกรุงเม็กซิโกซิตี้ มีส่วนสร้างความตึงเครียดระหว่างนาย เอบราด ผู้ว่าการกรุงเม็กซิโก ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน PRD และผู้หวังเข้ารับคัดเลือกเป็นประธานาธิบดีในสมัยหน้านี้ด้วยเอแข่งกับประธานาธิบดีคาลเดรอน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค PAN ซึ่งเสียคะแนนนิยมไปพอสมควรจากความผิดพลาดในการบริหารประเทศหลายประเด็น โดยก่อนหน้านี้ ได้มีเกิดความขัดแย้งทางการเมืองกันเกี่ยวกับการบริหารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเมืองหลวง เช่น ด้านการบริหารความปลอดภัย และล่าสุดเรื่องการขนส่งน้ำไม่เพียงพอ

และเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา นาย Fidel Castro อดีตประธานาธิบดีของคิวบา ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวต่างชาติว่า หน่วยข่าวกรองของคิวบามีหลักฐานว่า รัฐบาลเม็กซิโกมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยจากเชื้อไข้หวัด N1H1 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่รัฐบาลเม็กซิโกไม่ได้ดำเนินการใดๆ เนื่องจากไม่ต้องการให้มีผลกระทบต่อการเยือนประเทศเม็กซิโกของนายโอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ