สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก ขอรายงานภาวะการค้าระหว่างไทย-เนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งในกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ในช่วง 3 เดือนแรก(มกราคม-มีนาคม) ปี 2552 เนเธอร์แลนด์นำเข้าจากไทยมูลค่า 709.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -38.09 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2551 (มูลค่า 1,345.3 ล้านเหรียญฯ)
1. เมื่อเปรียบเทียบการส่งออกระหว่างไทย-เนเธอร์แลนด์กับไทย-สหภาพยุโรป (27 ประเทศ)
ในช่วง 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม) ปี 2552 มีอัตราส่วนแบ่งตาม ตารางที่ 1 ดังนี้
ลำดับ ประเทศ มูลค่า(ล้าน USD) ส่วนแบ่ง (%) สหภาพยุโรป 4.182.1 100.00 1 เนเธอร์แลนด์ 709.1 16.96 2 อังกฤษ 662.5 15.84 3 เยอรมนี 600.7 14.36 4 ฝรั่งเศส 393.0 9.39 5 อิตาลี 331.7 7.93 เนเธอร์แลนด์นำเข้าสินค้าไทยมากเป็นอันดับหนึ่ง (ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ) อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2550 ทั้งนี้ คาดว่าเป็นผลมาจากการที่
1) ผู้นำเข้าดัชท์มีความเชื่อมั่นในศักยภาพโดยรวมของสินค้าไทย ซึ่งมีสถานะเหนือคู่แข่ง ด้วยการเน้นผลิตสินค้ามีคุณภาพได้มาตรฐานสอดคล้องกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
2) สินค้าไทยมีการพัฒนารูปแบบ การออกแบบดีขึ้น มีศักยภาพในการผลิตสินค้าประเภท Tailor Made ผู้ผลิต/ส่งออกมีความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา ฯลฯ ทำให้เป็นที่ยอมรับ สามารถจำหน่ายและกระจายไปได้ทั่วสหภาพฯ
ดังนั้น สิ่งที่ผู้ผลิต/ส่งออกไทยต้องเน้นและให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านคุณภาพ การออกแบบ การวิจัยและพัฒนาสินค้า(R&D) การฝึกอบรมบุคลากรให้มีความรู้และเชี่ยวชาญ รวมทั้งระบบ Logistics ที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร เพื่อนำเสนอสินค้ารูปแบบใหม่ ๆ รายการใหม่ ๆ ที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่มีการทำลายป่า (เช่น ป่าชายเลน) ไม่ใช้แรงงานเด็ก มีการดำเนินการด้านการรับผิดชอบต่อสังคม (Corperate Social Responsibility หรือ CSR) มีขบวนการผลิตที่มีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนน้อยที่สุด ซึ่งจะใช้เป็นจุดขายและประชาสัมพันธ์ได้อย่างดี ทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญดึงดูดให้ผู้นำเข้าดัชท์เพิ่มความสนใจสั่งซื้อเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความแตกต่าง (Differentiation) และ Create Demand นอกจากนี้ในปัจจุบัน จีนประสบปัญหาการผลิตสินค้าส่งออกที่ด้อยมาตรฐาน ถูกเรียกคืนจากสหรัฐฯ และสหภาพฯ เป็นประจำ ผู้ผลิต/ส่งออกไทยควรเร่งใช้ประโยชน์จากโอกาส ดังกล่าวโดยด่วนและสินค้าไทยก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าจีน ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาผู้นำเข้าดัชท์หลายรายที่เคยนำเข้าจากจีนติดต่อ สคต. ณ กรุงเฮก สนใจนำเข้าจากไทยโดยเน้นสินค้าคุณภาพและมีการออกแบบทันสมัย ฯลฯ ดังข้างต้น
สำนักงานฯ ณ กรุงเฮก ขอเรียนว่า ประเทศคู่แข่งอื่น ๆ ต่างปรับตัวตลอดเวลา เพื่อขยายการส่งออกและช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด เช่น ผลิตสินค้าคุณภาพสูง พัฒนาการออกแบบ มุ่งตลาดบน/ผู้มีฐานดี ฯลฯ
ประเทศ การส่งออกจริง เป้าหมายการส่งออก อัตราการ การส่งออกช อัตราการขยายตัว ปี 2551 ปี 2552 ขยายตัว (%) ม.ค.-มี.ค.2552 ในช่วง 3 เดือน (%) เนเธอร์แลนด์ 4,175.80 4,134.04 -1 709.1 17.5 ปี 2552 กรมส่งเสริมการส่งออก ตั้งเป้าการส่งออกไปเนเธอร์แลนด์ให้มีอัตราการลดลง ร้อยละ- 1 อัตราการขยายตัวเมื่อเทียบ
1) 3 เดือนปี 2552 กับช่วงเดียวกันปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5
2) เป้าหมายปี 2552 ตั้งเป้าการส่งออกขยายตัวลดลงร้อยละ -1
3) เป้าหมายที่กำหนดไว้ตาม 2) มีอัตราขยายตัวร้อยละ 17.5
ทั้งนี้ เพื่อเอื้ออำนวยให้การส่งออกของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่องทุกปี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องกำหนดยุทธศาสตร์สินค้าอย่างครบวงจร ครอบคลุมการพัฒนาระบบ Logistics อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการที่เกี่ยวข้องดำเนินไปได้อย่างราบรื่น (เช่น ไม่มีการปิดล้อมสนามบิน เหตุการณ์ความไม่สงบต่าง ๆ การออกข่าวที่เป็นลบ ฯลฯ ซึ่งล้วนบั่นทอนเสถียรภาพ ความมั่นคง ความเชื่อมั่นของผู้นำเข้า และการส่งออก/การแข่งขันของสินค้าไทย ในที่สุดรายได้เงินตราต่างประเทศลดลง เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ โดยที่ประเทศคู่แข่งขันไม่ต้องต่อสู้กับสินค้าไทยแต่อย่างใด) การกำหนดแนวทางและดำเนินนโยบายอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพ การรักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเสริมการค้าระหว่างประเทศ
1) การส่งออกของไทย -ในช่วงดังกล่าวมีมูลค่ารวม 709.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -38.09 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 (มูลค่า 1,345.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
2) การนำเข้าของไทย — ไทยนำเข้าสินค้าจากเนเธอร์แลนด์ มูลค่ารวม 180.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -32.72 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 (มูลค่า 267.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
3) ดุลการค้า - ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับเนเธอร์แลนด์ในช่วง 3 เดือนแรก ปี 2552 มูลค่า 529.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -50.90 (ปี 2551 มูลค่า 1,077.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
2551 2552 % (ม.ค.-มี.ค.) (ม.ค.-มี.ค.)* เพิ่ม/ลด การค้ารวม 1,613.00 889.2 -44.87 ไทยส่งออก 1,345.30 709.1 -38.09 ไทยนำเข้า 267.70 180.1 -32.72 ดุลการค้า 1,077.60 529.0 -50.90 3.2 สินค้ารายการสำคัญที่ไทยส่งออก 1) ภาพรวมสินค้าที่ไทยส่งออกไปเนเธอร์แลนด์ 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ตารางที่ 4 : รายการสินค้าที่ไทยส่งออกไปเนเธอร์แลนด์ 10 อันดับแรกในช่วง 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม) ปี 2552 ลำดับ รายการสินค้า มูลค่า อัตรา
(ม.ค.-มี.ค.2552)* การขยายตัว
(ล้าน USD) (%) 1 เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 214.2 -43.64 2 แผงวงจรไฟฟ้า 81.9 -28.91 3 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ 55.9 -27.56 4 รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ 34.2 74.61 5 ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 31.3 22.97 6 เสื้อผ้าสำเร็จรูป 24.1 4.84 7 เลนส์ 20.0 -11.88 8 ไก่แปรรูป 18.9 -54.92 9 เคมีภัณฑ์ 15.6 -35.80 10 ผลิตภัณฑ์ยาง 12.8 -14.51
ข้อสังเกต : สศค. วิเคราะห์ข้อมูล ที่กรมฯ เตรียมเสนอเรื่องการคืนภาษีมุมน้ำเงินให้กับผู้ส่งออกสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์ ในอัตราร้อยละ 3-5 กลุ่มที่เหลือในอัตราร้อยละ 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคส่งออกซึ่งจะเป็นการขับดันการส่งออกให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาว่าเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจจะช่วยลดต้นทุนให้กับภาคธุรกิจทำให้สามารถแข่งขันได้กับประเทศคู่แข่งนอกเหนือจากการใช้สิทธิประโยชน์ FTA จะช่วยให้ผู้ส่งออกมีข้อได้เปรียบจากการลดภาษี เป็นส่งนหนึ่งในการเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันด้านราคาในช่วงภาวะการณ์ที่เศรษฐกิจชลอตัวสินค้ารายการสำคัญที่ไทยส่งออก
เพิ่มขึ้น 10 อันดับแรก ได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ (ร้อยละ 74.61) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (ร้อยละ 22.97) เสื้อผ้าสำเร็จรูป (ร้อยละ 4.84) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (ร้อยละ 34.27) เครื่องโทรสารและโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบอื่น ๆ (ร้อยละ 7.78) เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในครัวและบ้านเรือน (ร้อยละ 27.21)เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ (ร้อยละ 4.60) สิ่งปรุงรสอาหาร (ร้อยละ 2.11) เครื่องกีฬาและเครื่องเล่นเกม (ร้อยละ 44.66) หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด (ร้อยละ 1.79)
ลดลง 10 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ร้อยละ -43.64) แผงวงจรไฟฟ้า (ร้อยละ —28.91) เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ (ร้อยละ —27.56) เลนซ์ (ร้อยละ —11.88) ไก่แปรรูป (ร้อยละ -54.92) เคมีภัณฑ์ (ร้อยละ —35.80) ผลิตภัณฑ์ยาง (ร้อยละ —14.51) ข้าว (ร้อยละ -60.94) หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ (ร้อยละ 27.49) ผ้าผืน (ร้อยละ —40.05)
2) รายการสินค้าที่ไทยส่งออกใน 3 หมวดสำคัญ
ตารางที่ 5 : การส่งออกสินค้าใน 3 หมวดสำคัญช่วง 3 เดือนแรก ปี 2551
ลำดับ รายการสินค้า มูลค่า(ม.ค-มี.ค. 52)* อัตราการ (ล้าน USD) ขยายตัว(%) 1 หมวดสินค้าแร่ธาตุและสินค้าเกษตร ข้าว 12.6 -60.94 ยางพารา 2.7 -66.91 กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 1.8 59.80 ดีบุก 1.8 -75.01 ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง 1.6 -22.08 2 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 31.3 22.90 ไก่แปรรูป 18.9 -54.92 ผลิตภัณฑ์ยาง 12.8 -14.51 เนื้อสัตว์และของปรุงแต่งที่ทำจากเนื้อสัตว์ 58.3 21.97 ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 5.7 -91.02 3 หมวดสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 214.2 -43.64 แผงวงจรไฟฟ้า 81.9 -28.91 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ 55.9 -27.56 เสื้อผ้าสำเร็จรูป 24.1 4.84 เลนซ์ 20.0 -11.88 รายละเอียดสินค้าโดยสรุป 5 รายการแรก หมวดสินค้าแร่ธาตุและเกษตรที่ส่งออก
เพิ่มขึ้น มี 4 รายการ เช่น กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง (ร้อยละ 59.80) เมล็ดผักและสปอร์ที่ใช้สำหรับการเพาะปลูก (ร้อยละ 207.24) น้ำตาลทราย (ร้อยละ 202.62) สินค้าปศุสัตว์อื่น ๆ (ร้อยละ 222.45)
ลดลง เช่น ข้าว (ร้อยละ —60.94) ยางพารา (ร้อยละ —66.91) ดีบุก (ร้อยละ -75.01) ผักสดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (ร้อยละ —22.08) กล้วยไม้ (ร้อยละ —13.78)
เพิ่มขึ้น เช่น ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (ร้อยละ 22.97) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป(ร้อยละ 34.27) สิ่งปรุงรสอาหาร (ร้อยละ 2.11) ผลิตภัณฑ์ข้าว (ร้อยละ 6.70) น้ำตาลทราย (ร้อยละ 202.62)
ลดลง เช่น ไก่แปรรูป (ร้อยละ —54.92) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (ร้อยละ -91.02)ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ (ร้อยละ —32.45) เครื่องเทศและสมุนไพร (ร้อยละ —20.25) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ (ร้อยละ —1.70)
เพิ่มขึ้น เช่น รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ (ร้อยละ 74.61) เสื้อผ้าสำเร็จรูป (ร้อยละ 4.84) เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ร้อยละ 7.78) เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในครัวและบ้านเรือน (ร้อยละ 27.21) เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า (ร้อยละ 4.60)
ลดลง เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ร้อยละ —43.64) แผงวงจรไฟฟ้า (ร้อยละ -28.91) เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ (ร้อยละ —27.56) เลนซ์ (ร้อยละ —11.88) เคมีภัณฑ์ (ร้อยละ —35.80)
3.2 สินค้ารายการสำคัญที่ไทยนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ ในช่วง 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม) ปี 2552 ไทยนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์มูลค่า 180.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -32.72 เมื่อเทียบกับการนำเข้าในช่วงเดียวกันปี 2551 (มูลค่า 267.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์โลหะกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ
ตารางที่ 6 : รายการสินค้าที่ไทยนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ 10 อันดับแรก
ลำดับ รายการสินค้า มูลค่า อัตรา
(ม.ค.-มี.ค. 2551)* การขยายตัว
(ล้าน USD) (%) 1 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 35.4 43.04 2 แผงวงจรไฟฟ้า 25.1 -54.11 3 เคมีภัณฑ์ 16.3 -59.20 4 โลหะ 12.1 265.72 5 กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ 10.7 910.20 6 ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม 9.6 -24.96 7 ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ 8.8 -2.89 8 เครื่องมือเครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ 6.6 9.21 9 ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก 6.1 -42.44 10 สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 5.8 -20.75
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก
ที่มา: http://www.depthai.go.th