ลิเบีย มีประชากรเพียง 6 ล้านคน แต่เป็นประเทศที่มีรายได้หลักจากการส่งออกน้ำมันมากถึงปีละ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศไม่ถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีรายได้เกินดุลการค้าปีละกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลิเบียจึงมีเงินทุนสำรองมหาศาลสำหรับการพัฒนาประเทศ
ตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่งาน Libya Build 2009 (18-21 พ.ค. 2552) ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน 15 ราย ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า ลิเบียเป็นตลาดวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่มาก เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างมากมาย ทั้งถนนไฮเวย์ และถนนในเมือง สาธารณูปโภค อาคารที่อยู่อาศัย โรงแรมที่พัก สนามบิน ระบบชลประทานแต่ละโครงการมีมูลค่ารวมกันนับหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
คู่แข่งสินค้าไทย สินค้าไทยถือว่าเป็นสินค้าระดับคุณภาพดี ราคาปานกลางซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้รับเหมาก่อสร้างต่างๆ ประเทศที่เป็นคู่แข่งสำคัญ ได้แก่ ตุรกี (มีสินค้าขายทั่วทุกประเทศในแอฟริกาเหนือ) ตูนีเซีย และอียิปต์ สำหรับสินค้าจีนจะถูกมองว่าเป็นสินค้าเกรดต่ำ ไม่เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานราชการลิเบีย ที่เป็นผู้กำหนดมาตรฐานวัสดุก่อสร้าง
การเข้าตลาด อาจเข้าร่วมในงานแสดงสินค้า เช่น งาน Tripoli International Fair (เดือนเมษายน ทุกปี) งาน Libya Build (เดือนพฤษภาคม ทุกปี) หรืออาจติดต่อผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงไคโร เพื่อขอทำนัดหมายกับคู่ค้า หรือหอการค้าของลิเบีย
ช่องทางการจำหน่ายสินค้า ผู้นำเข้าอาจนำเข้า เพื่อขายให้แก่ผู้รับเหมาโดยตรง หรือผ่านร้านค้าส่งนอกจากนี้สินค้าบางชนิดอาจขายในห้างได้เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ กำลังมีการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า ปัจจุบันในกรุงทริโปลี มีห้างขนาดกลาง 2-3 แห่ง นอกนั้นเป็นร้านค้าขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป
ธุรกิจอื่นที่ตามมา คือการจัดหาแรงงานไปลิเบีย ซึ่งแรงงานไทยเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานต่างชาติที่เข้าไปช่วยลิเบียสร้างประเทศที่มีมากมาย คือคนงานจากอียิปต์ อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ จีน และประเทศในแอฟริกา คาดว่าแรงงานไทยใน 4-5 ปีข้างหน้าอาจมีมากถึง 3 หมื่นคน ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลลิเบียในการคัดสรรคนงาน ที่พิจารณาจากคุณภาพของงานและราคาค่าจ้าง (ปัจจุบันมีแรงงานไทยประมาณ 5 พันคน) การตั้งสถานทูตไทยในลิเบีย ในปี 2552 เป็นโอกาสอันดีที่การค้าระหว่างไทยกับลิเบีย จะขยายตัวมากขึ้นเนื่องจากประเทศไทยได้เข้าไปตั้งสถานทูตในลิเบียแล้ว จะช่วยในการออกวีซ่าให้แก่นักธุรกิจลิเบียเดินทางมายังประเทศไทยง่ายขึ้น ที่ผ่านมานักธุรกิจลิเบีย มีความต้องการซื้อสินค้าไทยโดยตรง แต่ยังติดปัญหาการขอวีซ่า บางคนก็ซื้อผ่านดูไบ หรือไม่ก็เดินทางไปซื้อสินค้าในมาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ ซึ่งต่างก็มีสถานทูตในลิเบียกันหมดแล้ว นอกจากนี้ การมีสถานทูตไทยยังช่วยให้ชาวลิเบีย เดินทางมาท่องเที่ยว และรักษาพยาบาล ในประเทศไทยได้สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากได้ยินชื่อเสียงของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย รวมทั้งประทับใจการให้บริการด้านรักษาพยาบาลของไทยจากชาวลิเบียที่บอกต่อกันมาในส่วนของการตั้งสถานทูตลิเบียในประเทศไทยกระทรวงการต่างประเทศ ก็พยายามผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อให้นักธุรกิจไทย ขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศง่ายขึ้น มิฉะนั้น ก็จะต้องไปทำวีซ่าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งเสียเวลา และค่าใช้จ่ายสูงมาก
สรุป : ลิเบีย เป็นตลาดที่สามารถเจาะขยายได้อีกมากมาย เนื่องจากรัฐบาลได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลในการเร่งรัดพัฒนาประเทศที่เคยถูกปิดไปนานกว่า 30 ปี โครงการก่อสร้างต่างๆ ได้ดำเนินการไปทั่วประเทศพร้อมๆ กัน ผู้ประกอบการไทยจะรอช้าไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
สคต. กรุงไคโร
ที่มา: http://www.depthai.go.th