ในการประชุมใหญ่ครบรอบ 64 ปี ของสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกเม็กซิโก (ANIERM) ได้มีการจัดการประชุมและสัมมนาขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 ณ ห้องประชุมใหญ่ โรงแรม Nikko Hotel ในกรุงเม็กซิโก โดยการให้ความรู้ถึงความเข้าใจ สถานการณ์ทางการค้าและการลงทุนของประเทศเม็กซิโกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันของเม็กซิโกแก่สมาชิกสมาคมฯ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงเม็กซิโกได้รับเชิญเข้าร่วมฟังการสัมมนาดังกล่าว โดยมีหลายเรื่องที่อยู่ในความสนใจของนักธุรกิจเม็กซิโก โดยมีประเด็นหลักคือ เรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเม็กซิโกเพื่อตอบรับกับภาวะวิกฤติการณ์การทางการเงินของโลกที่มีผลโดยตรงกับประเทศเม็กซิโก ที่กำลังส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
ข้อมูลสำคัญจากงานสัมมนาดังกล่าว สรุปได้ว่า ได้มีการประมาณการณ์ว่าการส่งออกของเม็กซิโกจะลดลงในอัตราร้อยละ 9 สำหรับปี 2009 เมื่อเทียบได้กับอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยของการส่งออกระหว่างปี 2003-2008 ซึ่งมีอัตราร้อยละ 6.3 โดยในไตรมาสแรกของปี 2009 การส่งออกได้ลดลงร้อยละ 29 ซึ่งเป็นอัตราการหดตัวของการส่งออกที่สูงทีสุดตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา
การลงทุนโดยตรงกับต่างชาติได้ลดในปี 2008 เหลือร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับการขยายการลงทุนโดยตรงต่างชาติระหว่างปี 2003-2007 ซึ่งมีอัตราเฉลี่ยร้อยละ 24 (ข้อมูลรวบรวมจากตัวเลขของ ธนาคารโลก องค์การค้าโลก และ UNCTAD) โดยมูลค่าการลงทุนโดยตรงต่างชาติในปี 2008 เท่ากับ 18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขการลงทุนที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี (ข้อมูลจากธนาคารแห่งชาติเม็กซิโก และผู้อำนวยการสำนักงานการลงทุนต่างชาติ)
- การควบคุมการป้องกันการกีดกันการค้าไม่ให้เกิดขึ้น และการปกป้องเสริมสถานะของความตกลงการค้าที่มีอยู่แล้ว
- การค้นหาตลาดใหม่ และการเปิดการค้าให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น
- ต้องการรวบรวมความตกลงเขตการค้าเสรีที่มีกับภูมิภาคอเมริกากลาง ให้อยู่ภายใต้กรอบความตกลงฉบับเดียว
- การลดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ
- โครงการยกเลิกภาษีนำเข้าบางรายการ
- การลดขึ้นตอนเอกสารการส่งออก และขั้นตอนศุลกากร
- เริ่มใช้เทคโนโลยีการสื่อสารนำหน้า
- ให้เริ่มการออกเอกสารรับรองต้นตอสินค้า (certificate of origin) ระบบดิจิตัล
ProMexico ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา ให้มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และเพื่อการส่งเสริมการส่งออกสินค้าเม็กซิกัน ได้รายงานภาวะเศรษฐกิจสำหรับระยะ 2-3 เดือนข้างหน้า ดังนี้
ธนาคารกลางเม็กซิโกได้คาดว่า ผลมวลรวมประชาชาติ (GDP) จะหดตัวประมาณร้อยละ -3.8 ถึง -4 สำหรับปี 2009 โดยคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะเริ่มขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 1.5 ถึง ร้อยละ 2 ในปี 2010
รัฐบาลเม็กซิโกได้ประมาณการมูลค่าการลงทุนในกิจการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติในภาคอุตสาหกรรมดังต่อนี้
Sector Amount Participation % Accumulated Auto motive and Auto parts $540 21.60% 21.60 Processed Food $367 14.70% 36.28 Electronic $270 10.80% 47.08 Aerospace $313 12.50% 59.60 Electric $163 6.50% 6.12 Tourism $133 5.30% 71.44 Chemical $117 4.70% 76.12 Agro business and biotechnology $43 1.70% 77.84 Metal mechanic $67 2.70% 80.52 Medical Equipment $63 2.50% 83.04 Logistic and Infrastructure $137 5.50% 88.52 Pharmaceutical $83 3.30% 91.84 Information Technologies $67 2.70% 94.52 Confection $21 0.80% 95.36 Leather and Footwear $21 0.80% 96.20 Energy $75 3.00% 99.20 Textile $20 0.80% 100 Total $2,500 100.00% การประมาณการณ์ของมูลค่าการลงทุนโดยแยกตามภูมิภาคดังตามดังนี้ Currencies expected by Region 2009: Foreign Direct Investment (ProMexico) Region Amount Part.% North America $1,126 45% Europe $883 35% Asia $383 15% Africa and Middle East $72 3% Latin America and Caribbean $36 1% Total $2,500 100.00% องค์กรส่งเสริมการค้าการลงทุน ProMexico ได้แบ่งแยกลำดับความสำคัญของกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนี้
ภาคอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่ได้พัฒนามาเป็นเวลานานแล้ว เช่น อุตสาหกรรมเหมืองแร่ เหล็กและเครื่องกล อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารแปรรูป และวัสดุก่อสร้าง ซึ่งการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวนี้ มีจำนวนมากอยู่แล้ว ProMexico จะมุ่งเน้นการให้บริการการติดตามดูแลผู้ลงทุนให้มีการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีการขยายกิจการในเม็กซิโก
ภาคอุตสาหกรรมซึ่งเม็กซิโกมีฐานะเป็นผู้นำ อันได้แก่ อุตสาหกรรมอีเล็กทรอนนิกส์ ยานยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ เคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเภสัชกรรม จะได้รับการบริการติดตามดูแลเช่นกัน แต่ได้รับการบริการการส่งเสริมอีกด้วย เพื่อให้มีการชักจูงให้มีบริษัทใหม่ ๆ มาลงทุนในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว
ในกลุ่มที่กำลังขยายตัว มีอุตสาหกรรมเครื่องบิน การท่องเที่ยว เทคโนโลยีการแพทย์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และโครงสร้างพื้นฐาน เป็นอุตสาหกรรมที่ได้เริ่มเติบโตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะมีการเติบโตอีกต่อไปในระยะยาว จะได้รับทั้งบริการการส่งเสริมเพิ่มเติม รวมกับบริการการติดตามดูแลส่งเสริม นั่นคือ ให้มีการเพิ่มการลงทุนในกิจกรรมเดิมที่อยู่ และให้มีการส่งเสริมให้มีการลงทุนในกิจกรรมใหม่ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมนวัตกรรม โดยเฉพาะด้านการพลังงานและเทคโนโลยีชีวภาพ จะมีแผนการรณรงค์อย่างเข้มแข็ง เพื่อชักจูงให้มีการตั้งฐานอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศเม็กซิโก
ทั้งนี้ ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน 2009 องค์กรส่งเสริมการค้าการลงทุน ProMexico สามารถชักจูงโครงการลงทุนรวม 8 โครงการซึ่งจะเริ่มลงทุนใน 3-4 ปีข้างหน้า โดยโครงการเหล่านี้มีมูลค่ารวมการลงทุนเท่ากับ 1,482 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะจ้างงานในตำแหน่งงานอย่างชัดเจนจำนวน 5,519 ตำแหน่ง
การส่งเสริมการลงทุนในปีที่ผ่านมาได้พยายามเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมเครื่องบิน ได้เพิ่มมูลค่าการส่งออกจาก 1,267 ล้านเหรียญฯ ในปี 2007 เป็น 3,133 ล้านเหรียญในปี 2008
ทั้งนี้ หากผู้ส่งออกไทยสนใจส่งออกหรือทำธุรกิจกับประเทศเม็กซิโก และขอทราบรายชื่อสมาชิกสมาคมผู้นำเข้าและผู้ส่งออกเม็กซิโกที่มีอยู่กว่า 1,200 ราย นั้น สำนักงานฯ ได้นำส่ง directory สมาคมฯ ประจำปี 2009 ไว้แล้ว ณ ห้องสมุดของกรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th