สอ.นำทัพสินค้าไทย บุกตลาดอินเดีย ณ เมืองชิลลอง

สอ.ย้ำนโยบายตลาดใหม่ต้องเห็นผล หวังกระตุ้นส่งออกในช่วงวิกฤต ผลเข้าร่วมงานแสดงสินค้ายืนยันอินเดียยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าและบริการไทย

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวถึง การดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ เช่น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ การจัดคณะผู้แทนการค้าไปเยือนต่างประเทศ การจัดคณะผู้แทนจากต่างประเทศมาเยือนไทย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย กิจกรรมต่างๆข้างต้นล้วนมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาการส่งออกที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทางกรมส่งเสริมการส่งออกให้การสนับสนุนมาโดยตลอด โดยเมื่อเร็วๆนี้ กรมส่งเสริมการส่งออกได้นำนักธุรกิจ ผู้ส่งออกและIntertrader เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 16 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้า 10th International Shillong Trade Fair 2009 ณ เมืองชิลลอง ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม — 8 เมษายน 2552 จัดขึ้นโดย Industries & Trade Fair Association of Assam (ITFAA) มีผู้เข้าร่วมชมงานประมาณ 500,000 คน

สินค้าที่นำไปจัดแสดงได้แก่ เครื่องประดับที่ทำจากเงิน/ทองชุบ/นิล/Semi-precious stone อัญมณีสังเคราะห์ ถ้วยชามเบญจรงค์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป กระเป๋าสตรีทำด้วยหนังเทียมและวัสดุธรรมชาติ ดอกไม้ประดิษฐ์ แจกันที่ทำจากไม้มะม่วง ดอกไม้/ตุ๊กตาสำหรับเทศกาลคริสมาสต์ อาหารประเภทขบเคี้ยว ของขวัญของชำร่วย และของประดับตกแต่งของสตรีวัยรุ่น(Giftshop) กิจกรรมพิเศษภายในงานคือการออกร้านอาหารไทยซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้คูหาประเทศไทย (Thailand Pavilion) ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามและโดดเด่นอยู่ในอาคารแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานจากประเทศต่างๆ ได้แก่ บังกลาเทศ พม่า ปากีสถาน ศรีลังกา อียิปต์ และเวียดนาม ส่วนอาคารที่สองนั้นแสดงสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านของผู้ผลิตในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย

ยอดการขายสินค้าปลีกตลอดระยะเวลา 13 วัน มียอดการสั่งซื้อทันที ประมาณ 118,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,217,400 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ = 35.50 บาท) ผลการเจรจาการค้าเป็นไปได้ด้วยดี โดยมีลูกค้าสนใจมาซื้อสินค้าปลีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงพ่อค้ารายย่อยที่มีร้านค้าปลีกซื้อสินค้าไทยไปจำหน่ายต่อ นอกจากนี้ยังมีลูกค้า 3 ราย สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเครื่องประดับฝังนิล/พลอยและสินค้าของตกแต่งบ้าน และลูกค้า 2 รายสนใจลงทุนในธุรกิจร้านอาหารไทย สินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องประดับเงินที่ผังนิล/พลอย เสื้อผ้า กระเป๋าสตรี อาหารประเภทมะขามหวาน กล้วยฉาบ

เมืองชิลลองตั้งอยู่ในรัฐเมฆกัลยาอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประชาชนมีรายได้ค่อนข้างดีจากการทำเหมืองแร่และแหล่งท่องเที่ยว ปัญหาที่สำคัญคือสินค้าอาหารซึ่งไม่เพียงพอต่อการบริโภค เนื่องจากการเพาะปลูกได้ผลผลิตต่ำ ทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากรัฐใกล้เคียง ปัญหาดังกล่าวน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้ส่งออกอาหารไทย ทั้งนี้สินค้าอาหารไทยมีศักยภาพสูง วัฒนธรรมการบริโภคของชาวอินเดียภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับไทย จึงเป็นโอกาสที่ดีในการคัดเลือกสินค้าอาหารและสินค้าใหม่ๆ เข้าร่วมงานให้มากขึ้นในปีต่อไป นอกจากนี้ผู้ส่งออกเสนอให้มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในรัฐอื่นๆที่ใกล้เคียง เพื่อช่วยในการขยายตลาดสินค้าให้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้การค้าระหว่างไทยกับอินเดียในปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์เร่งส่งเสริมการส่งออกไปตลาดใหม่ๆ โดยในปี 2551 ไทยส่งออกไปประเทศอินเดียมูลค่า 3,401.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.73 จากปี 2550 แต่ในระยะ 4 เดือนแรกของปี 2552 (ม.ค.- เม.ย.) ไทยส่งออกไปอินเดียคิดเป็นมูลค่า 857 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากในปี 2551 ในช่วงเดียวกันร้อยละ 11.52 เนื่องจากได้ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดีกรมส่งเสริมการส่งออกได้เร่งรัดการส่งออกไปตลาดอินเดียอย่างเต็มที่ โดยดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในปี 2552 ที่สำคัญได้แก่ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในอินเดีย 6 ครั้งที่เมือง นิวเดลี(2 ครั้ง) ชานดิก้า เจนไน กาวาฮาติ และชิลลอง การจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าเครื่องจักรกลและวัสดุก่อสร้างเยือนอินเดีย 1 ครั้ง การจัดงาน Made in Thailand Exhibition/Outlet 3 ครั้งที่เมือง มุมไบ เจนไน และเมืองบังกาลอร์ เป็นต้น

สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยที่ส่งออกไปประเทศอินเดีย ได้แก่ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักร เป็นต้น

ที่มา: http://www.depthai.go.th