พาณิชย์เจาะตลาดจีน หวังเชิญชวนกระตุ้นลงทุนในไทยสูงขึ้น และผลักดันผลไม้ไทยเข้าตลาดจีนให้ได้ตามเป้าหมายในปี 2010 แค่ซีอานที่เดียวคาดมีโอกาสสร้างมูลค่าถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายวีระศักดิ์ จินารัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นผู้แทนตามคำเชิญของรัฐบาล เมืองซีอาน มณฑลส่านซี เพื่อร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้า The 13th Investment & Trade Forum for Cooperation between East & West China ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2552 และในโอกาสนี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าพบหารือกับ นายเจิง จวิ้นไห่ รองผู้ว่าการมณฑลส่านซี นางหลี เสวี่ยเหมย อธิบดีกรมการพาณิชย์ส่านซี Mr. Lu Jianghua ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และ Mr. Bai Jianwu รองประธานหอการค้ามณฑลส่านซี (CCPIT)
การเข้าพบในครั้งนี้เพื่อหารือถึงลู่ทางในการนำเข้าผลไม้โดยตรงมายังซีอานมากขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่าในปี 2010 ซีอานจะสั่งซื้อผลไม้จากไทย ทั้งสิ้น 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงเนื่องจากขณะนี้มีสายการบินที่บินตรงจากไทยมายังซีอานแล้ว ในปีที่ผ่านมาไทยมีมูลค่าการค้ากับส่านซีถึง 69.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยนำเข้าจากส่านซีมูลค่าถึง 64.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยสินค้าที่ไทยนำเข้า ได้แก่ ฝ้าย สาลี่ จอภาพโทรทัศน์ เครื่องจักร รถบรรทุกขนาดใหญ่ เป็นต้น สำหรับส่านซีนำเข้าสินค้าจากไทยมีมูลค่า 4.80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าสำคัญที่นำเข้า ได้แก่ กุ้งแช่แข็ง แผงวงจรรวมของเครื่องปรับอากาศ ปลาหมึกแช่แข็ง ผลไม้ และอุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในมณฑลส่านซีนั้น มีบริษัทของไทยเข้ามาลงทุนด้วยกัน 3 บริษัท คือ บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ และบริษัท ECI-Metro Engineering Machinery Service Co.,Ltd. สำหรับบริษัทของมณฑลส่านซีที่เข้ามาลงทุนในไทยคือบริษัท Xi Lan Natural Gas โดยไทยหวังให้นักธุรกิจของส่านซีเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นซึ่งส่านซีนั้นมีศักยภาพในด้านอุตสาหกรรม การบินอวกาศ วิศวกร ช่างกล ทรัพยากร และการรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งในอานาคตส่านซีต้องการนำเข้ายางพาราจากไทย และต้องการส่งรถโดยสารเหล้าขาวไปขายในไทย ซึ่งไทยอาจใช้ประโยชน์จากการจัดตั้งประชาคมอาเซียนซึ่งจะมีประชากรทั้งสิ้น 570 ล้านคน”
ในอดีตมณฑลส่านซีได้มีการลงนามความร่วมมือโดยเน้นด้านการศึกษาวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งในขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ โดยศูนย์ภูมิภาคจีน จะเน้นให้ขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้มณฑลส่านซีได้มอบคูหาแสดงสินค้าให้กับกระทรวงพาณิชย์ จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดปทุมธานี รวม 70 คูหา ในงาน The 13th Investment & Trade Forum for Cooperation between East & West China ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในเขตจีนตะวันตก มีคูหากว่า 2,000 คูหา และมีผู้เข้าร่วมงานจากจีนและต่างชาติกว่า 1แสนราย ทั้งนี้ ไทยได้มีการลงนามความร่วมมือทางการค้า 2 ฉบับ ในด้านความร่วมมือทางการค้า ระหว่างกรมพาณิชย์ส่านซี กับหอการค้าจังหวัดสุโขทัย และ ระหว่างหอการค้ามณฑลส่านซี กับหอการค้าจังหวัดสุโขทัย และไทยเองยังเสนอให้ส่านซีร่วมมือในด้านการค้ากับจังหวัดอื่นๆ ของไทยมากขึ้น
ต่อจากนั้น ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะได้เดินทางต่อไปยังเมืองกวางโจว เพื่อร่วมพิธีเปิดงาน Thai Food Festival ร่วมกับห้าง Lotus ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับห้างสรรพสินค้า Lotus เมืองกวางโจว เพื่อกระตุ้นการบริโภคสินค้าไทยในตลาดจีน เนื่องจากกวางโจว เป็นแหล่งนำเข้าผลไม้สำคัญของไทย โดยจำหน่ายผลไม้ไทยหลากหลายชนิด เช่น ทุเรียน มะม่วงน้ำดอกไม้ ส้มโอ กล้วยไข่ ลิ้นจี่ มะขามหวาน ข้ามหอมมะลิ และเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังได้หารือในเรื่องการขยายความร่วมมือด้านการส่งออกผลไม้มายังเมืองกวางโจว กับตลาดเจียงหนาน ซึ่งมีการนำเข้าผลไม้ไทยในอัตราสัดส่วนร้อยละ 60-70 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของจีน และผลไม้ที่ได้รับความนิยม เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ชมพู่ ส้มโอ กล้วยไข่ มะม่วง และลิ้นจี่
ที่มา: http://www.depthai.go.th