สรุปภาวะการค้าระหว่างประเทศไทย - จีน ปี 2552 (ม.ค.—เม.ย.) สรุปจากสถิติ Menucom กรมส่งเสริมการส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 3, 2009 10:53 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ข้อมูลทั่วไป:
เมืองหลวง         :  Beijing
พื้นที่              :  9,561,000 ตารางกิโลเมตร
ภาษาราชการ       :  Putonghua, or Standard Chinese
ประชากร          :  1.31 พันล้านคน (end-2006)
อัตราแลกเปลี่ยน     :  CNY : Baht 5.0027 (26/05/52)

(1) เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ

ปี 2551 ปี 2552

Real GDP growth (%)                                  9.00        6.00
Consumer price inflation (av; %)                     5.90       -0.20
Budget balance (% of GDP)                           -0.10       -3.60
Current-account balance (% of GDP)                  10.20        6.10
Commercial banks' prime rate (year-end; %)           5.60        5.40
Exchange rate ฅ:US$ (av)                             6.95        6.84

โครงสร้างสินค้าออกของไทยกับจีน
                                   มูลค่า :         สัดส่วน %       % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สินค้าออกสำคัญทั้งสิ้น                   4,218.84         100.00         -23.93
สินค้าเกษตรกรรม                       713.65          16.92         -27.15
สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร                62.25           1.48          -7.54
สินค้าอุตสาหกรรม                     3,064.55          72.64         -18.22
สินค้าแร่และเชื้อเพลิง                    378.38           8.97         -49.65
สินค้าอื่นๆ                                0.0            0.0        -100.02

โครงสร้างสินค้าเข้าของไทยกับจีน
                                         มูลค่า :          สัดส่วน %      % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นำเข้าทั้งสิ้น                              4,638.34          100.00         -27.58
สินค้าเชื้อเพลิง                               60.59            1.31         -45.55
สินค้าทุน                                 2,028.00           43.72         -19.42
สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป                  1,448.18           31.22         -41.52
สินค้าบริโภค                                988.83           21.32         -17.71
สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง                  66.50            1.43         -32.02
สินค้าอื่นๆ                                   46.24            1.00       5,610.16

1. มูลค่าการค้า
มูลค่าการนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าของไทย - จีน
                           2551            2552        D/%

(ม.ค. — เม.ย.) ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการค้ารวม            11,950.39        8,857.18    -25.88
การส่งออก                 5,545.79        4,218.84    -23.93
การนำเข้า                 6,404.59        4,638.34    -27.58
ดุลการค้า                   -858.80         -419.50    -51.15

2. การนำเข้า
จีนเป็นตลาดนำเข้าอันดับที่ 2 ของไทย มูลค่า 4,638.34  ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ  23.61 สินค้านำเข้า
สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่
                                        มูลค่า :         สัดส่วน %       % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการนำเข้ารวม                       4,638.34          100.00        -27.58
1.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ฯ                 709.36           15.29        -20.22
2.เครื่องจักรไฟฟ้าฯ                         636.11           13.71        -18.03
3.เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ                443.75            9.57        -13.41
4.เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน                      417.41            9.00        -28.15
5.เคมีภัณฑ์                                313.12            6.75        -29.79
        อื่น ๆ                            569.94           12.20        -28.60

3. การส่งออก
จีนเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 3 ของไทย มูลค่า 4,218.84  ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ -23.93
สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่
                               มูลค่า :          สัดส่วน %      % เพิ่ม/ลด

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการส่งออกรวม               4,218.84         100.00        -23.93
1.เครื่องคอมพิวเตอร์              1,086.53          25.75        -67.65
2.ยางพารา                       441.03          10.45        -34.20
3.เคมีภัณฑ์                        352.11           8.35         34.06
4.เม็ดพลาสติก                     318.49           7.55        -13.98
5.แผงวงจรไฟฟ้า                   192.78           4.57        -23.05
          อื่น ๆ                  495.64          11.70        -24.20

4. ข้อสังเกต
4.1 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีน ปี 2552 (มค.-เม.ย.) ได้แก่

เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ : จีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 - 2552 พบว่ามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 0.79 59.89 และ 21.91 ตามลำดับ ในขณะที่ปี 2552 (ม.ค.-เม.ย.) เป็นครั้งแรกที่มีอัตราขยายตัวลดลงร้อยละ 30.82 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ยางพารา : จีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 - 2552 พบว่ามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 66.11 17.51 และ 21.91 ตามลำดับ ในขณะที่ปี 2552 (มค.-เม.ย.) เป็นครั้งแรกที่มีอัตราขยายตัวลดลงร้อยละ 34.20 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เคมีภัณฑ์ : จีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 - 2552 พบว่าปี 2551 เป็นเพียงปีเดียวที่มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 36.83 ในขณะที่ปี 2549 2550 และ 2552 (ม.ค.- เม.ย.) มีอัตราการขยายตัว เพิ่มขึ้น 126.08 9.49 และ 34.06 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เม็ดพลาสติก : จีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ของไทยและเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 - 2552 พบว่ามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 18.95 9.33 และ 8.08 ตามลำดับ ในขณะที่ปี 2552 (ม.ค.-เม.ย.) เป็นครั้งแรกที่มีอัตราขยายตัวลดลงร้อยละ 13.98 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

แผงวงจรไฟฟ้า : จีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 4 ของไทย รองจากสิงคโปร และเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกปี 2548 - 2552 พบว่า ปี 2551 และ 2552 มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 10.26 และ 23.05 ในขณะที่ปี 2549 และ2550 มีอัตราขยายตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.64 และ 33.11 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

4.2 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปตลาดจีนปี 2552 (ม.ค. - เม.ย.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราเพิ่มสูงโดยสูงกว่า
ร้อยละ 20 มีรวม 4 รายการ คือ
          อันดับที่ / รายการ           มูลค่าล้าน     อัตราการขยายตัว%     หมายเหตุ

เหรียญสหรัฐ

3. เคมีภัณฑ์                          352.11           34.06
15.ทองแดงและผลิตภัณฑ์                  44.41           20.66
16.เครื่องป้องกันวงจรไฟฟ้า               44.30           33.27
17.เครื่องโทรศัพท์/ตอบรับ                39.99          205.67

4.3 ในบรรดาสินค้าส่งออกจากไทยไปตลาดจีนปี 2552 (ม.ค. -เม.ย.) 25 รายการแรก สินค้าที่มีอัตราลดลง รวม 17 รายการ คือ
      อันดับที่ / รายการ                            มูลค่าล้าน     อัตราการขยายตัว%

เหรียญสหรัฐ

1.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ              1,086.53        -30.82
2.ยางพารา                                         441.03        -34.20
4.เม็ดพลาสติก                                       318.49        -13.98
5.แผงวงจรไฟฟ้า                                     192.78        -23.05
6.น้ำมันสำเร็จรูป                                     192.31        -51.07
9.น้ำมันดิบ                                          120.07        -62.11
11.เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ                     82.79         -3.52
12.มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า                         54.22        -14.41
13.วงจรพิมพ์                                         51.66        -15.95
14.ข้าว                                             50.05        -39.91
18.เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์                           37.22        -45.15
19.ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง                         33.76        -13.89
20.เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น               31.56         -9.23
21.ผลิตภัณฑ์พลาสติก                                    27.55        -28.17
22.เครื่องทำสำเนา                                    25.72        -43.42
23.เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ                          25.42        -35.80
25.รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ                        -20.13         -0.02

4.4  ข้อมูลเพิ่มเติม

กระทรวงพาณิชย์จะจัดโครงการจัดงานแสดงสินค้าเกษตรไทย ระหว่างวันที่ 6-15 มิถุนายน 2552 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ “Thai Agricultural Products Caravan in China 2009” โดยเป็นการนำสินค้าเกษตรของไทย ผลไม้เมืองร้อนชนิดต่างๆ อาทิ มะม่วง มังคุด ทุเรียน ส้มโอ ฯลฯ ไปโรดโชว์ในเมืองที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงทางตอนเหนือของจีน จำนวน 5 เมือง ประกอบด้วย เทียนจิน เสิ่นหยาง ปักกิ่ง ต้าเหลียน และซีอัน ซึ่งทุกเมืองที่เดินทางไปแสดงสินค้าในครั้งนี้ ล้วนเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าที่สำคัญทางตอนเหนือของจีน ที่จะทำให้เป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าเกษตรของไทยไปยังทุกภูมิภาคในประเทศจีนได้ โดยเป็นโครงการส่งเสริมสินค้าเกษตรไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดจีนที่ยังมีความต้องการจำนวนมากอยู่ ประเทศจีนถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกไม่มากนัก ซึ่งการจัดโรดโชว์ในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีของไทยในการขยายตลาดสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อน ซึ่งไทยถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีศักยภาพทั้งในแง่ของคุณภาพและปริมาณ ที่สามารถรองรับความต้องการนำเข้าเพื่อบริโภค หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆในตลาดจีนได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ทั้งสองประเทศเกิดความร่วมมือในการส่งออกนำเข้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน

สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทจะเริ่มส่งออกแผ่นเหล็กไปจีนอีกครั้ง ช่วงไตรมาส 2/52 หลังจากหยุดการส่งออกไปเป็นเวลาหลายปีโดยเชื่อว่าการส่งออกเหล็กไปจีนจะช่วยผลักดันให้สัดส่วนมูลค่าส่งออกของบริษัทในปี 2552 ไปสู่เป้าหมายที่ 10%จากปีก่อนที่ส่งออกเพียง 3-4% โดยคาดว่าจะมีปริมาณการส่งออกไปจีนสูงหลายพันตัน ขณะที่เชื่อว่าตลาดจีนจะกลับมาเป็นผู้นำเข้าเหล็กอีกครั้งปีนี้ โดยเห็นแนวโน้ม ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/52 โดยเฉพาะเดือน มี.ค.52 การนำเข้าและการส่งออกเหล็กของจีนเข้าสู่สมดุลหลังจากที่เป็นผู้ส่งออกสุทธิมาตั้งแต่ช่วงหลังปี 48 จากในอดีตที่จีนเคยเป็นผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่ โดยในปี 46-47 จีนมีปริมาณนำเข้าถึง 3.5 ล้านตัน โดยบริษัทประเมินยอดขายแล้ว มีแนวโน้มว่าจะดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากบริษัทคู่แข่ง คือ GSTEEL และ GJS ผลิตและขายน้อยลง เนื่องจากติดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินนอกจากนี้บริษัทมีการสั่งซื้อวัตถุดิบ (Slab) ราคาต่ำเข้ามาใช้ โดยมีราคาต่ำ 315-340 US$/ตันเข้ามาถัวเฉลี่ยต้นทุน (ต้นทุนวัตถุดิบเดิมอยู่ที่ 460 US$/ตัน) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นตั้งแต่ไตรมาส 2/52 จะดีขึ้นเรื่อยๆ

การค้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ จีนเป็นทั้งประเทศคู่แข่งและคู่ค้าที่สำคัญของไทย ในด้านการเป็นคู่แข่ง จีนเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยในสินค้าหลายรายการในตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญที่สุดอย่างสหรัฐอเมริกา ตัวอย่างเช่น สินค้าเครื่องประดับแท้ (ไทยมีความสำคัญเป็นลำดับที่สามรองจากอินเดียและจีน) เครื่องประดับเงิน (ไทยมีความสำคัญเป็นลำดับที่สองรองจากจีน ในปี 2548 หลังจากที่ไทยเป็นผู้นำในตลาดเครื่องประดับเงินมาตลอด) ในด้านการเป็นคู่ค้า สินค้าหลักที่จีนส่งออกมาไทยคือเงิน จีนจึงเป็นแหล่งวัตถุดิบประเภทเงินที่สำคัญของไทย ส่วนการส่งออกนั้น แม้จีนจะไม่ใช่ตลาดสำคัญอันดับต้นที่รองรับสินค้าอัญมณี และเครื่องประดับส่งออกของไทย (ในปี 2551 จีนมีความสำคัญเป็นอันดับที่ 28 เมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด) แต่อัตราการเติบโตของมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดจีนในช่วงปี 2544-2551 โดยเฉลี่ยแล้วสูงถึงปีละร้อยละ 30.5 ในปี 2551 สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับรายการสำคัญที่ไทยส่งออกไปจีนได้แก่ พลอยสี อัญมณีสังเคราะห์ และไข่มุก (คิดเป็นร้อยละ 62.9, 10.3, และ 7.29 ของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปจีนทั้งหมดตามลำดับ) เมื่อพิจารณารายสินค้าจะพบว่า สำหรับพลอยสีไทยมีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในตลาดจีน อัญมณีสังเคราะห์ไทยมีความสำคัญเป็นอันดับสามรองจากญี่ปุ่นและการนำเข้ากลับ (re-import) ไข่มุกไทยมีความสำคัญเป็นอันดับสามรองจากการนำเข้ากลับ (re-import) ของจีนเองและมาเลเซีย หากพิจารณาเป็นรายสินค้าพบว่า จีนเป็นผู้บริโภคอัญมณีและแพลทินัมรายใหญ่ที่สุดของโลก (มูลค่าการบริโภคอัญมณีมากกว่า 20 พันล้านหยวนต่อปี) นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการบริโภคเพชรมากที่สุด (การบริโภคต่อปีสูงถึงมากกว่า 25 พันล้านหยวน) การบริโภคเงินก็มากถึงประมาณ 60 ตันต่อปี สำหรับทองคำจีนเป็นประเทศที่บริโภคทองคำมากเป็นอันดับสองของโลก (ในปี 2550 มูลค่าการบริโภคอยู่ที่ประมาณ 363 ตัน) รองจากอินเดีย

การวิเคราะห์สถานการณ์การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยไปจีน

1. แม้ความต้องการซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจะมีมากและมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การผลิตของจีนก็มีแนวโน้มมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการผลิตสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่มีราคาไม่สูงนัก ดังนั้น การจะนำอัญมณีและเครื่องประดับไทยเข้าไปแข่งขันกับผู้ประกอบการจีนในสินค้าตลาดระดับล่างจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจีนเองมีความได้เปรียบทางด้านค่าแรง รวมถึงการได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากฮ่องกง อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ผลิตในจีนส่วนใหญ่มีลักษณะใกล้เคียงกัน การเจาะตลาดอาจทำได้หากผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างความแตกต่างในตัวสินค้า ทำให้สินค้าที่ส่งออกแตกต่างจากที่มีอยู่ทั่วไปในตลาด รวมถึงการสร้างตราสินค้า (Brand) ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดจีน ไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการไทยอาจต้องเน้นเจาะตลาดที่มีคุณภาพสูงขึ้น

2. หากพิจารณาจากลักษณะของผู้บริโภคอัญมณีและเครื่องประดับในจีน ผู้ประกอบการอาจเน้นกลุ่มลูกค้าในวัยทำงานหรือวัยที่อยู่ในช่วงของการแต่งงานไปจนถึงวัยกลางคนเพราะเป็นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ และควรเน้นเรื่องการพัฒนารูปแบบสินค้าเพราะผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญค่อนข้างมาก คุณภาพและราคาเป็นกลยุทธ์ถัดมาที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ นอกจากนี้ผู้ส่งออกควรศึกษาข้อมูลการบริโภคสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับลึกลงไปถึงระดับรายมณฑล เพราะจีนเป็นประเทศขนาดใหญ่ รสนิยมของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่มีลักษณะแตกต่างกัน ในแง่นี้ผู้ผลิตจีนเองจะมีความได้เปรียบมากกว่า

3. แม้ไทยจะได้สิทธิพิเศษทางภาษีจากข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน แต่ถ้าพิจารณาให้ดีจะพบว่าจีนได้ทำข้อตกลงทางการค้ากับประเทศและภูมิภาคอื่นๆ ด้วย เช่น อเมริกาใต้ ปากีสถาน ฮ่องกง ชิลี นิวซีแลนด์ เป็นต้น ดังนั้นการพิจารณาความได้เปรียบของไทยจากข้อตกลงการค้าอาเซียน-จีน ต้องพิจารณาควบคู่กับข้อตกลงระหว่างจีนกับประเทศอื่นๆ ด้วย

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ