ไลฟสไตล์อาร์เจนตินา

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 9, 2009 14:53 —กรมส่งเสริมการส่งออก

อาร์เจนตินาป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญมากที่สุดในทางเศรษฐกิจสามอันดับแรกของอเมริกาใต้ (อันได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล และชิลีหรือกลุ่ม เอบีซี) อาร์เจนตินาเคยเป็นประเทศที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุด ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1 ดอลลาร์ 1 เปโซ ทำให้ทุนต่างชาติให้ความสนใจตลาดนี้เป็นอย่างมาก

แต่ด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดและการบริหารงานด้านการเงินผิดพลาด โดยเฉพาะในเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่คุมสาธารณูปโภคหลักภายในประเทศทำเอาอาร์เจนตินา ต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดถึงขนาดเข้าพึ่ง IMF เมื่อปลายปี 2544

เมื่อเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ เป็นธรรมดาอยู่เองที่คนอาร์เจนตินาที่เคยมีชีวิตสุขสบายต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป แม้ว่าล่าสุดสถานการณ์ในประเทศจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หากแต่ยังส่งผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์ของคนอาร์เจนตินาไม่น้อย

การจะทำธุรกิจกับตลาดนี้ให้ประสบความสำเร็จ การรู้จักพื้นฐานและไลฟ์สไตล์ของคนในประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะศึกษาเพื่อที่จะปรับปรุงสินค้าของตนให้เข้ากันได้ต่อไป

  • ประชากร

เมื่อปี 2548 อาร์เจนตินามีประชาชน 38 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ทุก 5 ปี อัตราการเพิ่มของอาร์เจนตินาเป็นอันดับ 2 ในอเมริกาใต้รองจากบราซิล ที่น่าสนใจ คือ มากว่าครึ่งของประชากรอาร์เจนตินาอายุต่ำกว่า 30 ปี การเจาะตลาดในอาร์เจนตินา จึงมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่วัยรุ่นที่จะสามารถสร้าง Brand Loyalty

ส่วนกลุ่มคนทำงาน ที่อายุระหว่าง 25-65 มีอยู่ประมาณ 17 ล้านคนหรือ ร้อยละ 45 ของประชากรทั้งหมด จำนวนคนที่เข้าสู่แรงงานจึงมีมากกว่าวัยเกษียณ

คาดการณ์ว่าภายในปี 2553 จะมีประชากรอายุเกิน30 ปี เพิ่มขึ้น และเนื่องจากการสาธารณสุขที่ดีขึ้นทำให้คนมีอายุยืนขึ้น ซึ่งในปีนั้นอัตราคนสูงอายุเกิน 80 เพิ่มมาเป็นสองเท่าจากช่วงปี 2553

ในช่วงนั้นคาดการณ์ว่าว่าประชากรอาร์เจนตินาเพิ่มเป็น 41 ล้านคน จำนวนประชากรผู้ชายในประเทศจะน้อยกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงอายุยืนกว่า เพราะในอดีตผู้ชายจะเป็นผู้ทำงานมากกว่าผู้หญิงแต่แนวโน้มผู้หญิงทำงานนอกบ้านจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ชายในอาร์เจนตินายังเป็นผู้นำในสังคม ผู้ชายจะไม่ซื้อกับข้าว ของใช้ในครัวเรือน แต่จะซื้อเนื้อและไวน์ตามรสนิยมความชอบ และซื้อของที่มีความคงทนเช่น รถยนต์ เครื่องไฟฟ้า และของตกแต่งบ้าน

ส่วนผู้หญิงในอาร์เจนตินาจะอายุยืนกว่า จะอาศัยอยู่เพียงลำพังเมื่อสามีจากไป และลูกๆแยกออกไปมีครอบครัว แม้ว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของสินค้าหลายชนิด แต่ก็จะมีชมรมผู้สูงอายุชอบจับกลุ่มสังสรรค์ด้วยการกินน้ำชา ซื้อของและไปดูหนัง

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเพราะสภาพทางเศรษฐกิจทำให้ผู้หญิงต้องทำงานนอกบ้าน เข้าสู่การเมืองและขึ้นสู่ระดับผู้บริหาร ซึ่งทำให้แนวโน้มของผู้หญิง คือ มีอิสระและมีรายได้ของตนเอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตราเพิ่มของประชากรมีไม่สูงมากนักเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ การที่ผู้หญิงออกทำงานนอกบ้านบ่อยครั้ง จะยืดระยะเวลาการมีลูกออกไปหรือไม่มีเลย สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ผู้หญิงในกรุงบัวโนสไอเรสต้องการจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพื่อออกทำงาน และมีหน้าที่การงานดีๆ รายได้สูงๆ มากกว่าการมีลูก แต่ในต่างจังหวัดอัตราการเติบโตของเด็กก็ยังเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มของผู้มีรายได้น้อย ที่ไม่สนใจการคุมกำเนิดและจะมีลูกในวัย 14-28 ขณะที่หญิงที่ทำงานจะเริ่มมีลูกระหว่างวัย 30 — 40 ปี

ประชากรในอาร์เจนตินาเกือบครึ่งอายุต่ำกว่า 25 และจำนวนคนที่แต่งงานแล้วมีถึง 15 ล้านคน ( ปี 2548 ) ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมากอย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาร์เจนตินาเป็นประเทศแคธอลิค จึงถือว่าการหย่าร้างเป็นเรื่องใหญ่แนวโน้มใหม่ในสังคมจึงเป็นการใช้ชีวิตคู่โดยไม่จดทะเบียนสมรส

อาร์เจนตินามีอัตราผู้ไม่รู้หนังสือต่ำและมีระบบการศึกษาที่ค่อนข้างดี มีมหาวิทยาลัยรัฐ 35 แห่ง และเอกชน 39 แห่งทั่วประเทศซึ่งการศึกษาเป็นตัวทำให้คนมีโอกาสเข้าสู่ระบบงาน เพื่อสามารถต่อสู้ในสภาพเศรษฐกิจได้

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีผู้อพยพจากสเปนและอิตาลีมาอาศัยอยู่ในอาร์เจนตินาเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับจากฮอลแลนด์ เยอรมัน เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส และอังกฤษ อาร์เจนตินาจึงแปลกกว่าประเทศละตินอเมริกาอื่นๆ ที่ประชากรจะเป็นคนผิวขาวจากยุโรปเป็นส่วนใหญ่

คนพื้นเมืองส่วนใหญ่จะอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ใกล้ชายแดนบราซิล โบลิเวีย ปารากวัย และมีเขตอะบอริจิน (ชนพื้นเมือง)ในพาทาโกเนีย อาร์เจนตินาโดยเฉพาะในเขตเทือกเขาแอนดิส

เนื่องจากมีเมืองใหญ่เกิดขึ้นมาก แนวโน้มของประชากรจึงเปลี่ยนไปกลายเป็นไม่ใช่คนผิวขาวแต่กลายเป็นผู้อพยพ ทั้งจากประเทศใกล้เคียงที่ฐานะยากจน เช่น โบลิเวีย ปารากวัย และเปรู และต่อมาเป็นประเทศไกลๆ จากเอเชียและยุโรปตะวันออกเช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และ อาร์เมเนีย

โดยทั่วไปที่อพยพมาจากโลกตะวันตกจะมีฐานะดีกว่า เพราะผู้อพยพชาติอื่นจะอยู่ในถิ่นที่เป็นชุมชนแออัด และทำงานด้านแรงงานส่วนใหญ่

ภาษาทางการของอาร์เจนตินาคือภาษาสเปน และเนื่องจากเคยเป็นเมืองขึ้นของสเปน จึงมีผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันแคชอลิคมีถึงร้อยละ 93 นอกนั้นเป็นคริสต์ นิกายมอร์มอน อิสลาม และ พุทธ

  • พฤติกรรมและกลุ่มผู้บริโภค

อาร์เจนตินา เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจาก สภาพเศรษฐกิจที่ทำให้อัตราการเกิดของเด็กอ่อนน้อยลงเรื่อยๆ แม้ว่าอัตราการเกิดแต่ตลาดสินค้าเด็กก็ไม่ได้ลดลง อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่พ่อแม่ในกลุ่มคนชั้นกลางและชั้นสูงให้การดูแลเอาใจใส่ลูกๆ เป็นอย่างดี รวมทั้ง ข้าว ของเครื่องใช้ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเด็กมีจำนวนมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมแบบใช้แล้วทิ้ง ของใช้ ของเล่น ซึ่งมีเทคโนโลยีใหม่นำเข้าเป็นจำนวนมาก

พ่อแม่ปัจจุบันมีลูกน้อยลง แต่จะใช้จ่ายไปกับลูกมากขึ้น คนอาร์เจนตินานิยมเลี้ยงลูกเอง แม้ว่าจะต้องทำงาน สถานรับเลี้ยงเด็กไม่เป็นที่นิยม เช่นประเทศอื่นๆ เพราะปู่ ย่า ตา ยาย จะช่วยดูแลหลานให้แทนถ้าแม่ต้องทำงาน

ดังนั้นผลิตภัณฑ์เด็กอ่อน ผู้ผลิตต้องเน้นไปที่พ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ที่เป็นผู้ใกล้ชิดกับการเลี้ยงดูในชีวิตประจำวัน และเป็นผู้ออกไปซื้อของในแต่ละสัปดาห์ ร้านขายเสื้อผ้าเด็กและมารดาขณะตั้งครรภ์ในอาร์เจนตินา คือ Mimo & Co. และ Cheeky จะเป็นที่นิยมทั้งประเทศโดยเฉพาะในศูนย์การค้าใหญ่ๆ ส่วนผ้าอ้อมที่เป็นเจ้าของยี่ห้อสำคัญ คือ Procter & Gamble และ Kimberly Clark เจ้าของยี่ห้อ Pampers และ Huggies ซึ่งเป็นยี่ห้อที่รับความนิยมสูงสุด แต่ก็ได้รับผลกระทบมากเนื่องจากยอดขายตกลงถึงร้อยละ 25

ส่วนสินค้าอาหารเด็กที่มียอดขายสูงสุด คือ Nestle’ ที่เดิมใช้ชื่อว่า Nestum

  • เด็ก

การที่พ่อ แม่ มีลูกน้อยลงทำให้สามารถจะใช้จ่ายให้ลูกของตนได้อย่างเต็มที่โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีสูงๆ

เด็กทุกๆ ระดับชั้นจะได้รับอิทธิพลของโฆษณาสินค้าในโทรทัศน์ เช่นของเล่น. Power Rangers หรือตัวการ์ตูนจากหนังที่โด่งดัง เช่น The Incredibles ดาราฟุตบอลดังๆ จะถูกนำมาผลิตเป็นของใช้ตั้งแต่กระเป๋านักเรียนไปถึงขนมหวาน

เดิมร้านขายสินค้าเด็กจะมีมากในเมืองหลวง แต่ระยะหลังกลายเป็นมุมหนึ่งในห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ซึ่งทำให้คนในครอบครัวสามารถประหยัดเวลาได้

  • วัยแรกรุ่น ( 10-14 )

เด็กวัยแรกรุ่นเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายเงินทองมาก เนื่องจากแฟชั่นทั้งในโรงเรียนและละครทางโทรทัศน์ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่น เด็กผู้ชายมักจะให้ความสนใจกับของที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล ขณะที่เด็กผู้หญิงจะตามแฟชั่นในละครและนักร้องขวัญใจ แถมยังเริ่มใช้เครื่องสำอางแล้ว

  • วัยรุ่น ( 15-18 )

วัยรุ่นอาร์เจนตินาจะแต่งตัวกันโดดเด่นกว่าประเทศอื่นๆในละติน ทางด้านเสื้อผ้ามีผู้นำแฟชั่นให้เห็นเด่นชัดแช่นจากอเมริกาหรืออังกฤษ เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ Nike และ Levi ‘s เด็กผู้ชายจะไม่เน้นเรื่องยี่ห้อมากเท่าเด็กผู้หญิง

ในสังคมชั้นสูงเด็กจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกคลับต่างๆ ซึ่งทำให้ต้องสนใจการเข้าสมาคม แต่งตัวและ เครื่องสำอาง และเมื่อเป็นวัยรุ่นก็จะมีอิสรภาพมากขึ้น

โทรศัพท์มีถือก็เป็นแฟชั่นที่วัยรุ่นอยากจะมีอยากจะได้นอกจากนี้พ่อ แม่ก็อยากให้ลูกมีประจำตัวเพื่อจะได้เช็คสถานที่อยู่และเรื่องความปลอดภัย แม้ว่าทางกฎหมายแล้ว จะห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ซื้อและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก็สามารถจะซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป วัยรุ่นจะนิยมดื่มเบียร์กันในการเข้าสังคมทั่วไปอาร์เจนตินาเป็นประเทศแรกๆ ที่ใช้อินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลายและวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่มีความชำนาญในการใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อการติดต่อแบบปกติทั่วไป แต่จะใช้ประโยชน์ในด้านการติดต่อสื่อสาร อีเมล์ เล่นเกมส์ มากกว่าประโยชน์ในการซื้อหาสินค้า เป็นนเรื่องธรรมดาที่วัยรุ่น จะใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์หลังเลิกเรียนไม่ว่าเป็นที่บ้านหรืออินเตอร์เน็ตคาเฟ่

  • วัยกลางคน

คนอายุ 30-59 ปี เป็นกลุ่มประมาณร้อยละ 34 ในช่วงปี 2548 คนกลุ่มนี้จะมีบทบาทมากสำหรับเศรษฐกิจโดยรวมเนื่องจากเป็นกลุ่มหลักของคนวัยทำงาน ผู้หญิงจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี ส่วนผู้ชาย 65 ปี ผู้หญิงจะชอบแต่งตัวและเป็นลูกค้าหลักของเครื่องสำอาง น้ำหอม เครื่องสำอางแบบขายตรงเช่น Avon มียอดขายสูงที่สุดของขวัญ วันเกิดวันพ่อ วันแม่ เช่นน้ำหอม น้ำยาหลังโกนหนวดก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนน้ำหอมต่างชาติ Ralph Lauren, Channel ยังได้รับความนิยมสูงสุดแม้ว่าจะมีการลดค่าเงินก็ตาม

  • วัยเกษียณ

ปัญหาหลักของประเทศคือการเลี้ยงดูคนวัยเกษียณ เพราะเมื่อเร็วๆนี้ประกันสังคมเพิ่งจะได้รับการแปรรูปให้ออกจากระบบราชการ และอีกหลายปีกว่าที่จะสามารถจัดการเบิกเงินออกมาให้คนกลุ่มนี้ได้

ประกันสังคมของอาร์เจนตินามีการบริหารงานที่ผิดพลาดมาหลายสิบปี ด้วยปัญหาด้านคอรัปชั่นและเจ้าหน้าที่บางคนถึงกับถูกพิพากษาลงโทษ เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นมีความพยายามจะจ่ายเงินให้ผุ้ประกันตน แต่เพราะคนเกษียณมีมากขึ้น จึงเกิดปัญหาว่ารัฐบาลอาจจะมีปัยหาในการจัดสรรงบประมาณให้ได้เพียงพอ

  • ครอบครัว

สังคมอาร์เจนตินาเป็นสังคมครอบครัวที่เหนียวแน่น จะอยู่รวมกันจนกว่าลูกๆจะเริ่มทำงานมีรายได้ และแยกไปอยู่ข้างนอก ปกติพ่อคือคนที่ทำงานเป็นหลัก ขณะที่แม่จะอยู่บ้านดูแลลูกหรือทำงานพิเศษบ้าง ตามแต่วัยของลูก

การตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและอุปกรณ์ทำความสะอาดยังเป็นของแม่ ขณะที่พ่อจะเป็นผู้เลือกซื้อของในบ้าน

  • เมืองใหญ่

อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ แต่มีประชากรไม่หนาแน่น เพรามีพื้นที่เป็นทุ่งหญ้า Pampas และขั้วโลกใต้ Patagonia โดยที่ประชากรในเมืองใหญ่คิดเป็นร้อยละ 90 ของประชากรทั้งประเทศโดยเฉพาะบัวโนส ไอเรสและชานเมือง (รัศมี 15 กม.) มีคนอาศัยอยุ่กว่า 10 ล้านคน

คนในเมืองใหญ่มักจะเป็นพวกวัตถุนิยมขณะที่คนในชนบทจะใช้ชีวิตพอเพียงในเรือกสวนไร่นา แต่ที่น่าสนใจคือรายได้จากการส่งออกของอาร์เจนตินาเป็นผลผลิตจากไร่ โดยเฉพาะถั่วเหลืองและข้าวสาลีและการเลี้ยงสัตว์ซึ่งส่งออกทั้งเนื้อและหนังสัตว์

  • สัตว์เลี้ยง

อาร์เจนตินามีสัตว์เลี้ยงประมาณ 10 ล้านตัวคือ 1 ตัวต่อประชากร 3 คน สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงสุด ไม่ว่าจะเป้นชนิดสายพันธุ์แท้หรือไม่ก็ตาม คนที่มีสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่อาศัยในบ้านที่มีบริเวณ คนสูงอายุและคนที่อยู่ตามลำพังมักจะมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน

คนที่เลี้ยงสุนัขในเมืองใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เช่นต้องจ้างคนจูงเดิน ข้าวของเครื่องใช้ที่มีราคาสูง ตั้งแต่ปลอกคอ สายจูง ไปจนถึงแชมพูบำรุงขนสุนัข

จากการสำรวจเมื่อปี 2548 มีสุนัข 4 ล้านตัว แมว 2 ล้านตัว สัตว์ชนิดอื่นได้แก่ นก ปลาและงู

ในชนบทเนื้อมีราคาถูกทำให้คนให้เนื้อเป็นอาหารสัตว์ แต่ในเมืองอาหารแบบสำเร็จรูปเช่นแบบเม็ดและกระป๋องจะได้รับความนิยม เนื่องจากเจ้าของไม่มีเวลาในการเตรียมอาหารให้สัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์และวัสดุของใช้จึงเป็นสินค้าที่ขายดี

  • ระบบการศึกษา

ด้วยระบบการศึกษาที่ให้เรียนฟรี คนอาร์เจนตินาอายุ 18-22 ปี จะเจ้าศึกษาในมหาวิทยาลัย และนักศึกษาส่วนใหญ่จะทำงานและเรียนไปพร้อมกันและเมื่อจบคนกลุ่มนี้จะแยกตัวออกมาอยู่เอง และทำให้พวกเขาใช้จ่ายกันอย่างอิสระ สามารถซื้อของที่มีราคาแพงๆได้

โทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินเป็นโทรศัพท์ที่ได้รับความนิยมมากจากคนในกลุ่มนี้ การส่งข้อความทางมือถือได้ได้รับความนิยมมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

คนในวัยทำงานจะมีอยู่ประมาณ ร้อยละ 25 ของประชากรทั้งหมดและบรรดาสินค้าต่างๆ จะพยายามเรียกความเชื่อมั่นและ Brand Loyalty จากกลุ่มนี้สินค้าทั่วไปจะของที่เปลี่ยนตามแฟชั่น พฤติกรรมการบริโภค คือ เมื่อมีสินค้ารุ่นใหญ่ตัวใหม่ออกมาและมีการโปรโมททางสื่อต่างๆ คนวัยนี้คือกลุ่มเป้าหมาย และรักความทันสมัยและพอที่จะมีฐานะพอที่จะจับจ่ายใช้ส่อยได้

ช่วงปี 2533 — 2558 คนกลุ่มนี้จะโตขึ้นประมาณร้อยละ 32 และเป็นกลุ่มที่จะใช้จ่ายทางด้านบริการมากกว่าซื้อสินค้า และเป็นวัยที่ชอบออกงานปาร์ตี้ส่วนใหญ่จะยังอยู่กับพ่อ แม่ นอกจากจะแต่งงานหรือไปเรียนต่อในที่ๆไกลจากบ้าน คนกลุ่มนี้จะทำงานในบริษัทใหญ่ๆ มีรายได้ดีและถ้าไม่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถก็จะใช้เป็นเงินซื้อเสื้อผ้าแพงๆ ทานอาหารร้านหรู คนกลุ่มนี้จัดว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้า Brand Name หลายชนิดทั้งแฟชั่น ท่องเที่ยวและเทคโนโลยี

  • คนต่างชาติ

ตามสถิติเมื่อปี 2544 คนต่างชาติที่อาศัยในอาร์เจนตินามี 1.5 ล้านคน หรือร้อยละ 4 ของประชากรทั้งประเทศ คนต่างชาติในอาร์เจนตินาส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านเช่น ปารากวัย โบลิเวีย และเปรู ประเทศจากเอเชียได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและจีน คนพวกนี้เข้ามาในประเทศเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำและมีความต้องการแรงงานราคาถูกเพื่อที่จะทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ต โรงงานทอผ้า สิ่งทอ เป็นต้น

  • บ้านและอสังหาริมทรัพย์

เมื่อปี 2548 ตามสถิติอาร์เจนตินามีบ้าน 11.5 ล้านหลัง หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ในช่วงเศรษฐกิจดีการก่อสร้างจะเน้นไปที่อพาร์ทเมนต์ซึ่งมีอยู่แพร่หลาย ครอบครัวฐานะดีๆเลือกที่จะย้ายออกไปอยู่ในย่านชานเมืองที่มีบริเวณและไม่พลุกพล่านนัก

ระหว่างช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ การก่อสร้างได้รับผลกระทบและอาคารบ้านเรือนกลายเป็นของที่มีราคาสูง และมีคนไม่มากที่สามารถเข้าถึงได้ บ้านที่เคยมีราคา 400 เปโซต่อตรม. เมื่อปี 2543 ขึ้นมาเป็น 900 เปโซใน 5 ปีให้หลัง

ช่วงปี 2547 มีการเติบโตของคอนโดมีเนียมหรูๆกลางกรุงบัวโนส ไอเรสอย่างรวดเร็ว ปัญหาในเรื่องความปลอดภัยทำให้อาคารชุดเหล่านี้ได้รับความสนใจอย่างมาก

  • แรงงาน

แรงงานหลักในอาร์เจนตินาคือชายอายุระหว่าง 20-39 ปี แต่ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจจะมีคนวัย 20-24 ปี เข้าสู่ระบบงานมากขึ้น ทั้งๆที่ยังเป็นวัยศึกษาในระดับอุดมศึกษา และคนเลือกที่จะเกษียณอายุเร็วขึ้นเพื่อรับบำนาญ

อัตราว่างงานที่สูงขึ้นทำให้คนเลือกงานได้ยาก ดังนั้นจะเห็นคนขับแท็กซีในบัวโนสไอเรสมีการศึกษาสูงขึ้น เพราะคนตกงานมาก

ขณะเดียวกันผู้หญิงก็ต้องออกหางานทำมากขึ้น โดยเฉพาะในวัย 20-35 ปี บางคนที่ต้องดูแลบ้านและครอบครัวก็พยายามช่วยหารายได้ด้วยการทำงานพิเศษ

  • กฏหมายแรงงาน

ตามกฏหมายแรงงานในอาร์เจนตินา การทำงานเต็มเวลาคือวันละ 8 ชม. โดยมีเวลาพักรับประทานอาหาร นอกจากนี้ในวันธรรมดา หากทำงานถึง 22.00 น. จะมีล่วงเวลาร้อยละ 50 และเกินจากเวลาดังกล่าวจะได้เท่าตัวรวมทั้งในวันหยุด และเสาร์อาทิตย์ด้วย

คนท้องจะลาก่อนคลอดได้ 1.5 เดือน และหลังคลอดอีก 1.5 เดือน ในช่วงเวลาดังกล่าวจะเบิกได้เต็มที่ถ้าจะต้องออกจากงานเนื่องจากท้อง นายจ้างจะต้องจ่ายค่าค่าลาคลอด 2 เท่า และเงินเดือนอีก 1 ปี บริษัทที่มีเจ้าหน้าที่เกิน 250 คน จะต้องกันระบบการดูแลเด็ก ในสถานที่ทำงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

  • รายได้

ในช่วงปี 2533 อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีการเติบโตเป็นอันดับต้นๆของโลก เพราะก่อนหน้านั้นได้มีการนำเงินเปโซไปผูกติดกับดอลลาร์ ( 1 ดอลลาร์ 1 เปโซ) และมีการลงทุนหลั่งไหลมาจากทั่วโลก เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูง

  • ของใช้ในบ้าน

ของใช้ในบ้านที่มีราคาสูง คือ เครื่องเสียง โทรทัศน์ ตู้เย็น โทรศัพท์และเครื่องทำน้ำอุ่นในปัจจุบันสิ่งใหม่ที่เข้ามาในชีวิตคือเคเบิ้ลทีวี โทรศัพท์มือถือ และโทรศัพท์บ้านมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างมากอย่างมาก เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ต เนื่องจากยอดขายคอมพิวเตอร์และเครื่องเล่นเกมส์ เพี่มขึ้นมาก

  • การรับประทานอาหาร

คนอาร์เจนตินารับประทานอาหาร 4 มื้อ คือเช้า กลางวัน น้ำชาตอนบ่ายและมื้อเย็น เครื่องดื่มสำหรับมื้อเช้าและน้ำชาคือ ชาสมุนไพร ที่เรียกว่าmate นอกนั้นคือ ชา กาแฟ ที่จะรับประทานกับขนมปัง และของหวานต่างๆ มื้อกลางวันและเย็นจะเป็นมื้อสำคัญของวัน

คนอาร์เจนตินาจะรับประทานพาสตาและซ้อสมะเขือเทศและเนื้อย่าง (churasco) ส่วนผู้หญิงที่ทำงานนอกบ้านซึ่งจะระวังในเรื่องการรับประทานอาหารและมื้อกลางวันอาจมีแค่สลัดหรือ โยเกิร์ต เครื่องดื่มจะเป็นน้ำหรือโซดา หรือน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล อาหารที่ได้รับความนิยมสูงคือ Granola Bars (ขนมปังแท่งเคลือบธัญพืช) เป็นอาหารสุขภาพของผู้หญิงที่ทำงานนอกบ้าน ซึ่งทำให้อิ่มและมีแคลอรีพอเพียงสำหรับ 1 มื้อ

ปั๊มน้ำมันปัจจุบันจะมีการพัฒนาร้านสะดวกซื้อให้มีขนาดใหญ่และสามารถดึงดูดลูกค้าด้วยอาหารง่ายๆเช่น แฮมเบอร์เกอร์ แซนด์วิช สลัด ซึ่งสะดวกสำหรับชีวิตที่เร่งรีบ และบางแห่งกลายเป็นที่กินอาหารกลางวันของคนทำงานในเมืองใหญ่

เดิมทีคนอาร์เจนตินาเป็นคนที่รักษาสุขภาพ จากการรับประทานอาหารและไม่ค่อยมีคนอ้วนมากนัก เพราะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารสดๆ แต่ในปัจจุบันอาหารสดยิ่งจะถูกละเลย เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีคนมีจะหาอาหารที่ที่ทานง่ายๆ มีการหุงหา ตระเตรียมไม่มากนักเพราะเมื่อผู้หญิงต้องทำงานนอกบ้านเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน อาหารสำเร็จรูปจึงเป็นทางออกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องเร่งรีบทำมาหากิน และพยายามจะหาของที่ราคาไม่สูงนักมาบริโภค เนื้อ แกะ ซึ่งเป็นอาหารหลักของอาร์เจนตินาก็ถูกแทนที่ด้วยไก่ ซึ่งราคาถูกกว่า เช่นเดียวกับผักผลไม้สดจะถูกแทนที่ ด้วยมันฝรั่ง มะเขือเทศและแอปเปิ้ล แต่ปัจจุบันเมื่อรับประทานอาหารจานด่วนมากๆเข้าทำให้เด็กๆรุ่นใหม่เริ่มเผชิญกับโรคอ้วนเช่นเดียวกับประเทศในโลกตะวันตกอื่นๆ

  • พฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของ (Shopping)

อาหาร

พฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของในอาร์เจนตินาได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ที่ผ่านมาคนจะซื้ออาหารจากร้านค้าปลีกเฉพาะสินค้า เช่นร้านขนมอบิ (bakery) ร้านขายเนื้อ ร้านขายของชำจนเมื่อปี 2523 เป็นต้นมาระบบซูเปอร์มาร์เก็ตและต่อมาเป็นห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ซึ่งได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนเมืองปี 2526 Carrefour ได้เข้ามาเปิดตัวในฐานะห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ขยายสาขาไปทั่วประเทศ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่เข้ามาในอาร์เจนตินาคือ Jumbo ซึ่งมีสินค้าระดับคุณภาพมากกว่า นอกจากนี้ก็มี Wal-Mart จากสหรัฐอเมริกาและ Coto (ทุนในประเทศ) ส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศก็ได้แก่ Jumbo , Norte และ Toledo ในช่วงปี 2533 เศรษฐกิจเฟื่องฟู ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ได้รับการต้อนรับอย่างดี ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าคิวกันเพื่อซื้อของที่ใช้ได้ถึง 2-4 อาทิตย์ แต่เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ เงินสดเป็สิ่งที่หายาก (ธนาคารให้เบิกเงินในวงเงินจำกัด) ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายของคนอาร์เจนตินาเปลี่ยนไป จากที่ซื้อเป็นจำนวนมากๆ เหลือแค่เพียงพอใช้ ลงมาเป็นสัปดาห์ละครั้งหรือวันต่อวัน ทำให้เกิดร้านขนาดเล็กเพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูกค้า คนส่วนใหญ่จะซื้ออาหารเก็บไว้อาทิตย์ละครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ ตามห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านเล็กๆ จะขายดีในช่วงระหว่างสัปดาห์

  • เครื่องสำอางและของใช้ในห้องน้ำ

คนอาร์เจนตินามีการใช้จ่ายในเรื่องสุขภาพและความงามค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเรื่องเครื่องสำอางและของใช้ในห้องน้ำ ช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจคนอาร์เจนตินาเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของสินค้าชนิดนี้ในละตินอเมริกา

ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ สิ่งแรกที่ต้องตัดออกจากชีวิตประจำวันคือสินค้าฟุ่มเฟือยและมองหาของที่ราคาต่ำกว่า บริษัทดังๆอย่าง Proctor & Gamble และ Uniliver ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

แชมพู ยาดับกลิ่น ผ้าอนามัย ยี่ห้อดังๆ จาก Colgate-Palmolive, Kimberly Clark, Uniliver, Gillete,Proctor& Gamble ซึ่งจะมีวางขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างค้าปลีกขนาดใหญ่จะโดนสินค้าที่มีราคาถูกกว่าตามร้านเล็กๆแย่งตลาดไปหมด

  • เสื้อผ้าและรองเท้า

ตลาดเสื้อผ้าและรองเท้าตกลงไปมากเมื่อช่วงปี 2545 เมื่อมีการลดค่าเงินหากแต่หลังจากปี 2547 เป็นต้นมา สินค้าเหล่านี้ก็ฟื้นตัว โดยเฉพาะเมื่อห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีกขนาดใหญ่นำเอาระบบบัตรเครดิตของตนเองมาใช้ทำให้สามารถยืดระยะเวลาในการชำระเงินทำให้ยอดขาย แทบจะกลับสู่สภาพก่อนวิกฤติการเงิน

บริษัทที่ขายสินค้านำเข้า เช่นตัวแทน Adolfo Dominguez, Jacade และ Levi’s ต้องเปลี่ยนรูปแบบการค้าไปเป็นตัวแทนสินค้าในประเทศหรือไม่ก็ต้องเลิกกิจการไปเลย ส่วนร้าน brand name เช่น Falabella และ Zara ก็ต้องหาผู้ผลิตในประเทศส่งสินค้าให้แต่ก็ต้องปิดสาขาไปหลายแห่งหรือแม้แต่ลดขนาดลงเพื่อความอยู่รอด

ปัจจุบันการค้าปลีกเสื้อผ้าและรองเท้าจะมีสัดส่วนในการวางจำหน่ายดังนี้คือ ในร้านค้าปลีกเสื้อผ้า บูติกคิดเป็นร้อยละ 50 Factory Outlet ร้อยละ 33 ศูนย์การค้า ร้อยละ 11 และซูเปอร์มาร์เก็ต ร้อยละ 6

  • สิ่งบันเทิง

สิ่งบันเทิงที่ได้รับความนิยมคือหนังสือ เพราะคนอาร์เจนตินาเป็นนักอ่าน และชอบซื้อหนังสือให้เป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ

การเช่าภาพยนตร์ก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก เช่นเดียวกับเกมส์คอมพิวเตอร์

ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าท่ได้รับความนิยมสูงสุดคือโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์กลายเป็นที่ต้องการของคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ร้านจำหน่ายสินค้าคงทนพวกเครื่องไฟฟ้าได้แก่ Fravega, Rodo , Garbarino และ Megatone นอกจากนี้ยังมี ช่องทางในการสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตจาก เว็บ DeRemate.com และMercadoLibre.com อีกด้วย

  • ธุรกิจความงาม

คนอาร์เจนตินารักสวยรักงาม จึงมีธุรกิจศัลยกรรมพลาสติกค่อนข้างพร่หลายทั้งผู้หญิงและผู้ชายออกจะเป็นเรื่องแปลกที่ประเทศที่กินเนื้อและสูบบุหรี่จะมีผู้ป่วยเป็นโรคขาดอาหาร (anorexia จากการอดอาหารให้ผอม) การรักษาความสวยความงามทำให้ร้านเสริมสวยกลายเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมและทำได้สูง

ธุรกิจความงามที่คนอาร์เจนตินานิยมและมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีกมาก ได้แก่ ยิม ร้านเสริมสวย ร้านทำผม ร้านอบผิวให้เป็นสีแทนและสปา

  • การรักษาสุขภาพ

คนชั้นกลางและผู้มีฐานะดีจะระมัดระวังรักษาสุขภาพด้วยการเลือกอาหารดีมีประโยชน์ และจะเลือกผลิตภัณฑ์ไขมันต่ำและน้ำตาลน้อย น้ำอัดลมประเภทไดเอ็ทได้รับความนิยมทั่วประเทศ ตามซูเปอร์มาร์เก็ตจะเต็มไปด้วยสินค้าประเภทไดเอ็ทเต็มไปหมดตั้งโยเกิร์ตไปจนถึงเนยแข็ง

ผู้หญิงส่วนใหญ่จะรับประทานวิตามินและอาหารเสริมกันมากรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน บำรุงผิวพรรณและผมเป็นต้น

คนส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกยิมหรือสปอร์ตคลับฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุด จะมีสนามฟุตบอลในทุกๆที่ ทั้งสวนสาธารณะและโรงเรียน ทีมฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดของอาร์เจนตินาคือโบก้า จูเนียร์และริเวอร์เพลท

กีฬาอื่นๆที่ได้รับความนิยมคือบาสเกตบอลและเทนนิส ส่วนรายการถ่ายทอดสดกีฬาเป็นรายการได้รับความนิยมสูงสุด

  • DIY และการทำสวน

ในการตกแต่งหรือต่อเติมบ้านเดิมทีคนอาร์เจนตินาจะซื้อของสำเร็จรูปหรือจ้างช่างมาดำเนินการ นับแต่วิกฤติเศรษฐกิจเป็นต้นมาคนต้องประหยัดมากขึ้น ลักษณะของแบบ DIY ( Do It Yourself) จึงกลายเป็นของที่ได้รับความนิยมเนื่องจากสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก

การจัดสวน ทำสวนเป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านต้องดูแล ในย่านผู้มีรายได้สูงจะมีการจ้างคนสวนให้ดูแลสวนและสระว่ายน้ำในตึกอพาร์ทเมนต์ต่างๆคนดูแล (portero) จะดูแลสวนและซ่อมแซมเล็กๆน้อยๆน้อยในตึก อุปกรณ์ทำสวนและ DIY จะมีขายตามห้างค้าปลีกขนาดใหญ่

  • วัฒนธรรม

คนอาร์เจนตินาเป็นนักอ่าน ดังจะเห็นได้จากงานหนังสือที่จัดขึ้นที่บัวโนส ไอเรสทุกๆปีมีผู้เข้าชมงานกว่า 1.5 ล้านคน และมียอดขายสูงมาก ทำให้เห็นถึงความชื่นชอบในการอ่านและสุนทรีย์ทางวรรณกรรม

หอศิลปะและพิพิธภัณฑ์ก็เป็นสถานที่ที่คนอาร์เจนตินาชื่นชอบพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อได้แก่ Fine Arts Museum พิพิธภัณฑ์ภาพเขียนนอกจากนี้ก็มีโรงละคร Colon Theatre ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นโรงละครโอเปรามีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก

ภาพเขียน จิตรกรรม ดนตรีเป็นสิ่งที่บัวโนสไอเรส จัดว่าเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในละตินอเมริกา

การเต้นรำแทงโก้ถือเป็นวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของอาร์เจนตินา

  • การเงินการธนาคาร

ธนาคารชาติแห่งอาร์เจนตินาเป็นหน่วยงานที่กำหนดนโยบายด้านการเงิน รวมถึงอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเงินเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ (หลังวิกฤติเศรษฐกิจและการลดค่าเงิน) จะเน้นพึ่งพาการส่งออกและหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจอาร์เจนตินาคืออัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเคยคงอยู่ที่ 1 เหรียญสหรัฐ ต่อ 1 เปโซ แต่หลังจากปี 2545 เป็นต้นมารัฐบาลต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ค่าเงินอยู่ที่ 1 เหรียญสหรัฐ ต่อ 3 เปโซ

ลูกค้าจะใช้ธนาคารเป็นที่ชำระใบเสร็จและเบิกมาจับจ่ายใช้สอย การออมเงินไม่เป็นที่น่าเชื่อถือนัก เนื่องจากธนาคารเคยระงับการเบิกจ่ายเงินในบัญชีของลูกค้า 2 ครั้งในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา คนไม่ค่อยใช้บัตรเครดิต หรือเช็คธนาคารมากนัก

บัตรเบิกเงินสด ATM เป็นที่นิยมในอาร์เจนตินา โดยมีธุรกรรมผ่านตู้ ATM 35 ล้านครั้งจากเครือข่าย 700 แห่ง ซึ่งส่วนหนึ่งจะอยู่ในเมืองใหญ่เช่น บัวโนสไอเรสขณะที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ธนาคารควบคุมการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีส่วนตัวคือให้ถอนได้เดือนละ 400 เปโซต่อวัน ส่วนบัตรเดบิทได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่องจากกลายเป็นวิธีการชำระเงินโดยไม่มีปัญหา ส่วนเงินเดือนจะจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร

การใช้บัตรเครดิตจะจำกัดมากหลังจากวิกฤติเศรษฐกิจ เนื่องจากดอกเบี้ยปรับผู้ไม่ชำระเงินหรือชำระเงินช้าสูงถึงร้อยละ 50 จนถึงปี 2547 แม้ว่าดอกเบี้ยจะลดลงมามากแล้ว แต่ความสามารถในการในการออมเงินมีน้อยมาก เพื่อโปรโมทบัตรเครดิตจึงจะต้องมีการทำข้อตกลงกับห้างค้าปลีกรายใหญ่เสนอให้มีการผ่อนโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย หรือแบ่งจ่ายเป็น 6 งวด เป็นต้น

คนอาร์เจนตินาไม่เชื่อถือในเรื่องการฝากเงินออมทรัพย์ เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจเงินฝากในบัญชีถูกลดค่าเงินไปถึงร้อยละ 30 ทำให้จำนวนของการออมเงินลดลงไปมาก จนถึงปี 2549 ที่ยอดฝากค่อยๆ กลับคืนมาสู่ภาวะปกติ

  • การคมนาคม

อาร์เจนตินาเป็นประเทศใหญ่ การติดต่อสื่อสารและคมนาคมเป็นเรื่องสำคัญในการเดินทางติดต่อกันระว่างเมืองต่อเมือง ซึ่งโชคดีที่อาร์เจนตินามีถนนหนทางที่มีคุณภาพดี เช่นเดียวกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ครอบคลุมทั่วถึงมีบริการดีและราคาถูก

ในกรุงบัวโนส ไอเรสมีผู้อาศัยอยู่ 3 ล้านคน จะเพิ่มเป็นเท่าตัวเมื่อมีคนจากชานเมืองเดินทางเข้ามทำงานในช่วงกลางวัน โดยพหนะต่างๆ เช่นรถไฟใต้ดิน รถไฟ แท็กซี เครื่องบินและรถโดยสารส่วนตัว

รถใต้ดินบัวโนสไอเรสเป็นรถสายแรกๆของโลก (เริ่มปี 2456) และมีพัฒนาการที่น่าสนใจมาตลอดโดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาและผ่านในปีนี้ การก่อสร้างจะแล้วเสร็จอีก 2 สาย

รถไฟในอาร์เจนตินาก้าวหน้ามากมี 3 สถานีหลักในบัวโนสไอเรสที่ไปยังทุกภาคส่วนของประเทศ ที่รถไฟอาร์เจนตินาดีเพราะมีชาวอังกฤษมาลงทุนบุกเบิกสายการเดินรถไฟเมื่อศตวรรษที่20 จนสร้างความเจริญให้เมืองต่างที่รถไฟแล่นผ่าน

รถในอาร์เจนตินามีราคาสูง และค่าจดทะเบียนก็สูงรวมไปถึงค่าน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆทำให้ปัจจุบันคนหันมาใช้รถขนาดเล็กแบบซิตี้คาร์มากขึ้น

  • การท่องเที่ยว

หลังการลดค่าเงินในอาร์เจนตินา การท่องเที่ยวกลายเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจซึ่งมีมูลค่าถึง 9พันล้านเปโซ ในปี 2548 เพิ่มจากปีก่อนหน้าร้อยละ 11 โดยมีตัวเลขนักท่องเที่ยวสูงถึง 4 ล้านคน และการท่องเที่ยวกลายเป็นนโยบายแห่งชาติ ทั้งยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย

เมื่อครั้งเศรษฐกิจดี คนอาร์เจนตินาจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศกันมาก แต่เมื่อลดค่าเงินการเดินทางไปต่างประเทศกลายเป็นของที่แพงไป แต่กลับได้นักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเนื่องจากค่าใช้จ่ายทุกอย่างมีอัตราที่ถูกลง รวมถึงการช้อปปิ้งด้วย

อาร์เจนตินามีสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังเช่น น้ำตกอิกวาซู (Iguazu ชายแดนบราซิล - อาร์เจนตินา) Patagonia กลาเซียน้ำแข็งขั้วโลกใต้ และชายหาดแถบ Mar del plata,Punta del Este (ชายแดนอุรุกวัย) และที่เล่นสกี Bariloche

ส่วนที่เที่ยวในต่างประเทศที่ยังได้รับความนิยม คือ สหรัฐอเมริกาและบราซิล

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ