ศาสตร์การนวดแผนไทยนับเป็นภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษของเราได้ถ่ายทอดไว้เป็นมรดกแก่ลูกหลานชาวไทยให้ได้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพและนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยอย่างน่าภาคภูมิใจ อิหร่านเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประชาชนมีความสนใจบริการนวดแผนโบราณของไทย และมีโอกาสที่นักลงทุนไทยจะสามารถรวมลงทุนกับนักธุรกิจอิหร่านเพื่อขยายบริการการนวดแผนไทยในอิหร่านสูงมาก ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน ได้มีโอกาสพบกับนาย Ali Azizpour หรือคุณอาลี เจ้าของบริษัท Tan Aasa Kish Spa and Massage Thailand Iran-Kish ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกกิจการสปาและนวดแผนโบราณเต็มรูปแบบและครบวงจรแห่งแรกในอิหร่าน ที่โรงแรม Flamingo บนเกาะ Kish ประเทศอิหร่าน
คุณอาลีได้เล่าประสบการณ์ให้พวกเราฟังว่า เมื่อหลายปีก่อน เขามีโอกาสได้เดินทางประเทศไทย เพื่อรับการฝึกอบรมหลักสูตรทางวิศวกรรมที่มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ และได้ทดลองรับบริการสปาและนวดแผนโบราณไทย ซึ่งเขามีความประทับใจในคุณภาพและบริการสปาและนวดแผนโบราณของไทยอย่างยิ่ง ทำให้คุณอาลีเกิดแรงบันดาลใจที่จะเปิดธุรกิจสปาในอิหร่าน คุณอาลีจึงได้ลงทุนตระเวนดูงานการให้บริการนวดแผนโบราณต่างๆ ในประเทศไทย และได้ศึกษาศาสตร์การให้บริการนวดแผนโบราณของไทยอย่างจริงจัง จนนับได้ว่าเขากลายเป็นแฟนพันธ์แท้คนหนึ่งในเรื่องของการนวดแผนโบราณของไทยเลยทีเดียว และด้วยการแนะนำและสนับสนุนจากอาจารย์อนิรุทธิ์ สมุทรโคจร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คุณอาลีจึงได้ริเริ่มก่อตั้งธุรกิจสปาและนวดแผนไทยในอิหร่านแห่งแรกที่เกาะ Kish เมื่อประมาณกลางปี 2551
ในช่วงแรกของการก่อตั้งและเปิดกิจการสปาและนวดแผนโบราณในอิหร่าน คุณอาลีได้เล่าถึงประสบการณ์ในการพยายามฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ดังนี้
ประการแรกคือเรื่องความน่าเชื่อถือของการนวดแผนโบราณของไทยในอิหร่าน เพื่อให้หน่วยงานราชการอิหร่านยอมรับบริการสปาและการนวดแผนโบราณของไทย และออกใบอนุญาตดำเนินกิจการฯ คุณอาลีจึงได้ลงทุนจัดทำเอกสารวิชาการที่แสดงภาพและวิธีการนวดแผนไทยเป็นภาษาฟาร์ซีกว่า 300 หน้า แสดงให้เห็นว่าการนวดแผนไทยเป็นศาสตร์ได้มีการศึกษาพัฒนาเป็นองค์ความรู้ที่เชื่อถือได้ และเป็นไปเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง โดยนายอาลีได้ใช้เอกสารเหล่านี้ประกอบเอกสารการขอจดทะเบียนเปิดบริการสปาและนวดแผนโบราณไทยกับองค์การท่องเที่ยวและมรดกโลกทางวัฒนธรรมของอิหร่าน (ICHTO) ซึ่งใช้เวลาดำเนินการกว่า 2 ปี และเพื่อแสดงให้เห็นว่าการบริการสปาและนวดแผนโบราณของไทยไม่ขัดกับหลักปฏิบัติอันดีงามของศาสนาอิสลาม คุณอาลีได้กำหนดแนวทางการให้บริการตามหลักศาสนาอิสลามอย่างเข้มงวด กล่าวคือให้แยกสถานที่การให้บริการเป็นสัดเป็นส่วนตามเพศ โดยสถานที่บริการสุภาพบุรุษจะแยกออกจากสถานที่ให้บริการสุภาพสตรีอย่างเด็ดขาด และผู้ให้บริการชายนวดผู้ชายและผู้ให้บริการหญิงนวดผู้หญิงเท่านั้น
ประการที่สองคือการหาพนักงานนวดแผนโบราณชาวไทย คุณอาลีกล่าวว่าศาสตร์การนวดแผนไทยจำเป็นต้องใช้พนักงานนวดชาวไทยเท่านั้น เนื่องจากคนไทยมีทักษะการนวดและมีจิตใจที่ดีงาม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของคนไทยที่หาได้ยากในชนชาติอื่น โดยถึงแม้ว่าจะให้ชาวอิหร่านไปเรียนวิชาการนวดแผนโบราณในประเทศไทย ก็ไม่สามารถนวดได้เช่นเดียวกับคนไทย จึงนับได้ว่าการนวดแผนไทยเป็นวิชาที่บรรพบุรุษไทยมอบแก่ลูกหลานไทยเท่านั้นโดยแท้ ในการหาพนักงานนวดชาวไทย คุณอาลีได้ประสานขอความช่วยเหลือจากอาจารย์อนิรุทธิ์ สมุทรโคจร เพื่อขอให้รับสมัครพนักงานนวดแผนโบราณชาวไทยที่ผ่านการฝึกอบรมการนวดมาแล้วมาทำงานให้กับคุณอาลีที่อิหร่าน ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานชาวไทยจำนวน 9 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 5 คน ทำงานกับคุณอาลี สำนักงานฯ ได้สอบถามความเป็นอยู่กับพนักงานนวดชาวไทย ทราบว่าทุกคนมีความพอใจและมีรายได้มากกว่าทำงานในประเทศไทย นอกจากนี้ คุณอาลีได้ดูแลพนักงานอย่างดี ทั้งในด้านที่พักอาศัยและสวัสดิการอื่นๆ รวมทั้งการเดินทางกลับประเทศไทยประมาณ 6 เดือนต่อครั้ง ทั้งนี้ การแบ่งสัดส่วนการให้บริการนวดแผนโบราณตามเพศ ทำให้พนักงานนวดหญิงชาวไทยรู้สึกปลอดภัยและสะดวกใจที่จะทำงานในอิหร่าน อย่างไรก็ดี เนื่องจากวัฒนธรรมของชาวอิหร่านมักจะละเลยเรื่องของการให้ทิปพนักงานนวด คุณอาลีจึงได้ติดประกาศในสถานให้บริการให้ลูกค้าทิปพนักงานนวดทุกครั้ง ซึ่งทำให้พนักงานนวดชาวไทยมีความพอใจอย่างมาก
ประการที่สามคือการจัดหาอุปกรณ์การนวดแผนไทยและการตกแต่งสถานที่ให้บริการเนื่องจากคุณอาลีต้องการให้สถานที่ให้บริการของตนมีความเป็นไทยอย่างแท้จริง คุณอาลีจึงนำเข้าสินค้าต่างๆ ที่ใช้ในร้านจากประเทศไทยเท่านั้น เช่นลูกปะคบ น้ำมันนวด ฯลฯ และได้ตกแต่งสถานที่แบบไทยๆ รวมทั้งเปิดเพลงไทยเดิมตลอดเวลา ทั้งนี้ คุณอาลีมีแผนที่จะเปิดสถานบริการด้านสปาและนวดแผนไทยเพิ่มเติมอีกทั้งในเกาะ Kish และที่กรุงเตหะราน โดยคุณอาลีมีความตั้งใจจะสร้างอาคารตามแบบสถาปัตยกรรมไทยอีกด้วย ทั้งนี้คุณอาลีมีความใฝ่ฝันที่จะให้บริการสปาและนวดแผนโบราณของตนมีคุณภาพในระดับเดียวกับเฮลท์แลนด์ (Health Land Spa & Message) ของไทย โดยคุณอาลีได้ฝากบอกกับสำนักงานฯ ว่าหากเขาได้มีโอกาสร่วมงานกับเฮลท์แลนด์ของไทยในการขยายธุรกิจสปาในอิหร่าน ก็จะมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ปัจจุบัน นับได้ว่าธุรกิจสปาและนวดแผนโบราณของคุณอาลีประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะจากที่สำนักงานฯ ได้ไปเยี่ยมชมกิจการ พบว่ามีลูกค้าชาวอิหร่านมาขอจองเวลารับบริการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา รายละเอียดเพิ่มเติมของร้าน Tan Aasa Kish Spa and Massage Thailand Iran-Kish สามารถดูได้จาก www.tanasakish.co.ir หรืออีเมล์ tanasakish@gmail.com
หากมีนักลงทุนธุรกิจบริการสปาและนวดแผนโบราณต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน ทาง E-mail: thaitctehran@depthai.go.th, หรือโทร +(98-21) 2205 7378 & 9, (98-21) 2205 9776
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน
ที่มา: http://www.depthai.go.th